เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ความรักเป็นสิ่งที่ยากจะออกแบบได้ และแตกต่างกันออกไปตามมุมมองของแต่ละคน ซึ่งแค่ผู้หญิงผู้ชายก็มีความคิดไม่เหมือนกันแล้ว รวมทั้งบางคนอาจเข้าใจไปเองแบบผิด ๆ มาตลอด จากการยึดติดจากเรื่องที่ได้ยินได้ฟัง หรือเห็นในภาพยนตร์ในละคร ด้วย แต่ด้วยบทความจาก Reader\'s Digest ที่สัมภาษณ์คน 80,000 คนทั่วโลก ในหัวข้อเกี่ยวกับความรักที่กระปุกดอทคอมรวบรวมมาฝากวันนี้ เราจะเปิดเผยให้คุณได้เห็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความรักที่คุณอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อนให้ได้รู้กัน ว่าแล้วก็ลองมาอ่านกันเลย
1. ผู้ชายตกหลุมรักง่ายกว่าผู้หญิง
ดูท่ารักแรกพบจะมีจริงมากกว่าสำหรับผู้ชาย เพราะผู้ชายที่เห็นสาวแล้วเกิดปิ๊งตั้งแต่เจอกันครั้งแรกมีมากถึง 48% ในขณะที่ผู้หญิงที่เจอประสบการณ์รักแรกพบด้วยตัวเอง มีเพียง 28% เท่านั้นเอง เพราะแบบนี้ล่ะมั้งผู้ชายจึงมักจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปจีบสาวที่ตัวเองถูกใจซะก่อนตั้งแต่แรก ในขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักรอให้ผู้ชายเข้าหาพวกเธอก่อน
2. ผู้ชายต้องการความโรแมนติกเช่นกัน
ใครว่าผู้หญิงเท่านั้น ที่อยากให้คนรักมาคอยเอาใจ เติมความหวานให้ด้วยการทำเซอร์ไพรส์โรแมนติก รู้ไว้เถอะว่าผู้ชายเขาก็ต้องการความโรแมนติกด้วยเหมือนกัน โดยจากการสำรวจพบว่า ผู้ชายจำนวนมากกว่าผู้หญิงถึง 33% รู้สึกน้อยใจที่แฟนสาวไม่ทำอะไรโรแมนติกให้ตัวเองบ้างเลย เอ้า...คุณสาว ๆ คนไหนเผลอทำให้แฟนตัวเองน้อยใจแบบนี้อยู่บ้างหรือเปล่าคะ
3. คู่รักเศรษฐีมีความสุขน้อยกว่าที่คิด
ใครจะคิดล่ะว่าคู่รักที่ร่ำรวยกลับมีความสุขน้อยกว่าคู่ที่มีฐานะปานกลางเสียอีก โดยพบว่าคู่ที่มีรายได้ราว 20,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 580,000 บาท มีปัญหาขัดแย้งกันน้อยกว่าคู่ที่มีรายได้ 250,000 - 500,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 7.3 - 14 ล้านบาทเสียอีก เห็นได้ชัดเลยว่าเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้จริง ๆ โดยเฉพาะความสุข
4. รักจืดจางไม่ได้ทำให้คู่ชีวิตดูเปลี่ยนไป
57% ของคู่รักยืนยันว่า ถึงตัวเองจะอยู่ในช่วงที่ความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นแค่ไหน แต่ไม่ได้รู้สึกว่าคนรักของตัวเองมีเสน่ห์ลดลงแม้แต่น้อย ดังนั้น ต่อให้อยู่ในช่วงเวลาที่แย่มากเท่าไหร่ ก็ยังคงจำความรู้สึกที่ทำให้เราตกหลุมรักคนที่เราเลือกใช้ชีวิตอยู่ด้วยได้อยู่ดี แบบนี้แล้วหากเอาความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กันกลับมาได้ คนเราอาจกลับมารักกันอีกครั้งได้เช่นกัน
5. หลังละครมีผลกับชีวิตคู่
บางคนดูภาพยนตร์หรือละคร แล้วก็ย้อนกลับมาดูชีวิตของตัวเอง เอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจอมาเปรียบเทียบกับชีวิตรักที่มีอยู่ สุดท้ายก็อินจนเลิกรากันไปก็มี โดยคู่รักถึง 33% ยอมรับว่ามีความคิดอยากเลิกกันเพราะละครหรือหนังที่ดูอย่างไม่น่าเชื่อ รู้อย่างนี้แล้วต่อไปจะดูอะไรก็คงต้องระวังกันให้มากขึ้นแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นอาจโดนหนังเรื่องโปรดทำลายชีวิตรักได้เลยนะ
6. เพื่อนที่ดีไม่ใช่คนรักที่ดีเสมอไป
การเป็นคนรักที่ดีมีอะไรมากกว่าการเป็นเพื่อนและที่ปรึกษาที่ดี แต่เขาคนนั้นต้องเป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกหวั่นไหว และเข้ากันได้จริง ๆ ด้วย ดังนั้น คนที่เป็นเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนซี้ที่ดี อาจไม่ใช่คนรักที่คุณมองหาก็ได้ ทำให้คู่รักส่วนใหญ่ที่มองว่าคู่ชีวิตของตัวเองเป็นเพื่อนเสียมากกว่า มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยชุ่มชื่นหัวใจเท่าไหร่ และขาดความหวานโดยสิ้นเชิง
7. ไม่ว่ายังไงก็อยากอยู่ด้วยกันจนแก่อยู่ดี
คำว่าถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร อยู่กันจนแก่เฒ่า เป็นอะไรที่เราได้ยินบ่อยครั้ง แต่น้อยคนนักที่จะทำได้ และแม้จะเป็นเช่นนั้น หลาย ๆ คนก็ยังคงหวังให้การอยู่ร่วมกับคนรักจนแก่ชราไปด้วยกันกลายเป็นความจริงอยู่ดี โดยคู่รัก 60% ที่ไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์สักเท่าไหร่ ยังคงต้องการอยู่กับคนรักตลอดไป จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิต
เท่าที่ดูจากผลการสำรวจแล้วทำให้เรารู้ได้เลยว่า โลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ต่อให้รักกันแค่ไหน ยังไงก็คงต้องเจอปัญหาผ่านเข้ามาทดสอบชีวิตคู่ของเราอยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นคนเราก็อยากจะมีคนสำคัญอยู่ข้าง ๆ ดังนั้น สิ่งเดียวที่จะทำให้ความรักของเรายั่งยืนได้ ก็คงมีแต่ต้องเรียนรู้ที่จะเสียสละปรับตัวเพื่อกันและกันนะคะ เพราะยังไงซะความรักก็คือการให้..ถูกไหมล่ะ?