ทับทิม งานรุ่ง รักเริ่ด (ภาพยนตร์บันเทิง)
เรื่อง : Little Smile
หันมารับบทร้ายในละครเรื่อง "อาญารัก" แรกทีเดียวหลายคนสงสัย ว่าสาวหวานอย่าง "ทับทิม" อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ จะทำได้ไหม เพราะคาแรคเตอร์ตัวเธอแตกต่างกับคุณทานตะวัน สาววีน ชอบเหวี่ยงอย่างชัดเจน แต่พอละครออกปุ๊บตอนนี้ทุกคนต่างชื่นชมเพราะเธอทำได้แบบจัดเต็มนอกจากงานจะรุ่งแล้วด้านความรักสาวคนนี้ก็กำลังไปได้สวยเช่นเดียวกัน
ฟีดแบ็คละครตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะทับทิม : "อาญารัก" ก็ค่อนข้างดีค่ะ หายเหนื่อย คนส่วนใหญ่ที่ได้ชมกันจะชื่นชอบในการแสดงของเรา แม้ว่าเรื่องนี้เราจะพลิกบทบาทมาร้ายมาก (หัวเราะ) คือมีคำว่ามากต่อท้ายด้วยค่ะ เพราะทุกคนพอเห็นละครออกอากาศไปวันแรก ๆ ก็มีฟีดแบ็คกลับมาแล้วว่าเป็นเด็กที่ร้ายกาจมากเลย หนูอี๊ด เธอร้ายแต่เด็กเลยนะ แต่ทุกคนก็แฮปปี้นะคะกับการแสดงเพราะทำให้ละครดูสนุกขึ้น ซึ่งตอนนี้คนเข้าใจแล้วว่ามันคือการแสดง และพอเล่นร้ายก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ละครสนุกดี เป็นสีสันของเรื่อง ก็ดีใจค่ะ
ถือว่าเป็นการตัดสินใจถูกที่ลองเปลี่ยนบทบาทดูบ้างทับทิม : การตัดสินใจรับบทนี้ ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ค่ะ ทับทิม ให้ทางผู้ใหญ่ของช่องตัดสินใจให้ แล้วถ้าท่านมอบหมายหรือส่งบทไหนให้กับทับทิม ทับทิมก็มีหน้าที่ถ่ายทอดออกมาค่ะ
เล่นดีแบบนี้ ถ้าถูกจับให้ร้ายต่อเนื่องกัน ทับทิมว่าไงคะทับทิม : ไม่หรอกค่ะ จริง ๆ ต้องบอกว่าช่องให้เราทุกบทบาทอยู่แล้วค่ะ จากที่ได้คุยกันมา คือทางช่องเองก็อยากให้นักแสดงได้เล่นบทที่หลากหลายเพื่อคืนกำไรให้ผู้ชม คงไม่อยากให้เรายึดติดกับบทหนึ่งหรอกค่ะ ส่วนการเล่นร้ายเป็นยังไง ทับทิมว่าสนุกนะคะ ถือว่าได้แสดงอะไรใหม่ ๆ ที่เรายังไม่เคยแสดงในมุมนี้ แล้วการได้เล่นอะไรใหม่ ๆ มันก็ทำให้ได้เทคนิคการแสดงมา มันอาจจะบอกไม่ได้ว่าเทคนิคอย่างไรด้านไหน แต่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เราได้มาจากในกอง หรือตอนที่เข้าฉากกับพี่ ๆ นักแสดงที่เก่ง ๆ ก็จะได้ตรงนี้มา อีกอย่างการเข้าถึงอารมณ์ของตัวละคร เรามีการวิเคราะห์บท ตีบทตรงนี้ทำให้เราเข้าถึงตัวละครง่ายขึ้น ซึ่งมันช่วยเราได้ในเรื่องต่อ ๆ ไป เรียกว่ารู้จักการวิเคราะห์บทที่โอเคมากขึ้นด้วยค่ะ
ซีนดูดพลังที่ทับทิมคิดว่ามันหนักที่สุดละทับทิม : ก็คงจะเป็นซีนที่ทะเลาะ เถียงกันกับคุณพ่อ คุณแม่ คุณย่า เพราะการเถียงกันมันต้องมีอารมณ์เอาแต่ใจของเรา ไหนจะมีอารมณ์น้อยใจ เสียใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรักคนอื่นมากกว่า คือเราอิจฉาเขา แล้วเราต้องมีความเสียใจอยู่ด้วย ในขณะที่เถียงกับเขา บางทีก็ร้องไห้ออกมาตอนที่กำลังเถียงอยู่ อันนี้จะยากค่ะ
บุคลิกของคุณอี๊ดนี่ติดออกมาข้างนอกบ้างไหมคะทับทิม : (หัวเราะ) คุณแม่บอกว่าแอบติดมาแล้วนะ คุณแม่จะคอยห้ามตลอด ซึ่งคุณแม่บอกอย่าเอาออกมาใช้สิ มันไม่ดี นี่ที่บ้านไม่ได้เล่นละครนะ อย่างเวลาพูดแล้วไม่ค่อยมีหางเสียงอะไรแบบนั้นค่ะ มีติดมาเวลาพูด แล้วก็มีสีหน้าท่าทางออกหน้า คือเวลาพูดปกติตัวหนูจะไม่ค่อยแสดงสีหน้าเท่าไหร่ แต่ตอนนี้บางทีก็มีเหมือนกันคุณแม่ที่อยู่กับหนูตลอดก็จะทัก เหมือนเราแอบเอาอาการเหวี่ยงกลับมา จริง ๆ ทับทิม ว่าเริ่มตั้งแต่ตอนเล่น "อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว" แล้วค่ะ หลังจากนั้นก็เล่นบทที่ห้าว ๆ แก่น ๆ ด้วย มันค่อย ๆ ซึมซับมาแบบไม่รู้ตัว มีคุณแม่นี่ล่ะคอยเตือนว่าอย่าติดละครมา คือมันติดจริง ๆ ไม่รู้ตัวเลย
นอกจากคุณแม่ที่เจอแล้ว เคยพาลไปถึงคุณพี่สเตฟานบ้างไหมเนี่ยทับทิม : (หัวเราะ) ไม่มีพาลไปถึงค่ะ แต่จะมีแซวว่านี่สรุป คุณหนูอี๊ด ใช่ปะ อะไรแบบนั้นค่ะ
เรียกว่าชีวิตทับทิมช่วงนี้ งานก็รุ่งรักก็เริ่ดนะคะทับทิม : ทับทิม ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ อาจจะเป็นช่วงที่เรารับงานมาเรื่อย ๆ แล้วคนรู้สึกว่างานที่เราทำนั้นสนุก ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ในเกณฑ์ที่เราพอใจ ในเกณฑ์ที่เราตั้งไว้ด้วยว่าช่วงนี้เราคงทำประมาณนี้ซึ่งมันก็เป็นไปตามเกณฑ์ที่เราตั้งไว้ก็พอใจนะคะ ส่วนความรักที่เราไม่เคยตั้งเกณฑ์เอาไว้ มันเป็นเรื่องของความรู้สึกมีคนเข้ามาเติมเต็มมากกว่าค่ะเรื่อย ๆ ไม่ได้ไปวางอะไรไว้ขนาดนั้น
ย้อนกลับไปถือว่าการตัดสินใจให้โอกาสกับสเตฟานถูกใช่ไหมคะ เพราะขณะนั้นหลายคนคิดว่าหนุ่มคนนี้จริง ๆ แล้วก็เจ้าชู้และปาร์ตี้อยู่ทับทิม : (หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ จริง ๆ ตั้งแต่คบกับมา พี่เขาก็ถือว่าเป็นคนดีที่น่ารักคนนึงนะคะ ไม่เคยทำเรื่องอะไรที่เสียหายแล้วไม่ดี ที่สำคัญคือเขาเสมอต้นเสมอปลายนะคะ แล้วการที่เราออกมาพูดเรื่องความสัมพันธ์ คือตั้งแต่เริ่มคุยกันมาตั้งแต่แรกก็สบายใจกันอยู่แล้วนะคะเพราะว่าเราคุยกันอย่างเปิดเผย ไม่ปิดบัง ทุกคนก็ทราบว่าอย่างไร อยู่ในสายตาคุณพ่อคุณแม่ตลอดก็เลยสบายใจมาตั้งแต่แรกค่ะ
แรก ๆ ที่บ้านกังวลไหมคะทับทิม : คุณพ่อคุณแม่ ก็คงมีกังวลบ้างค่ะ อีกอย่างคือน่าจะกังวลเรื่องของข่าวมากกว่าด้วยค่ะ ซึ่งทับทิมก็เข้าใจ อย่างเวลามีข่าวอะไรออกมาก็เกรงใจคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ เพราะบางข่าวก็ไม่ใช่เรื่องจริง แต่คุณแม่เองก็อยู่กับ ทับทิม ตลอด 24 ชม. เลยค่ะ
เคยไปเดทกับสเตฟานโดยไม่มีคุณแม่บ้างไหมทับทิมทับทิม : ไม่มีค่ะ ไม่เคยเลย ไม่เคยไปไหนด้วยกันเองสองคน ไม่มีแน่นอน คืออย่างไปทานข้าวตามโอกาสเนี่ยได้ไปบ้างค่ะ อย่างที่บอกไปว่าไม่เคยไปไหนสองต่อสองเพราะทุกครั้งที่ไปก็มีคุณแม่หรือคุณพ่อไม่ก็ผู้ใหญ่อยู่ด้วย เรียกว่าอยู่ในสายตาตลอดจริง ๆ ค่ะ ซึ่งพี่เขาเองเป็นคนชวนคุณพ่อคุณแม่ด้วย ทับทิม ว่าพี่เขาเข้าใจในความเป็นธรรมชาติของครอบครัวทับทิมนะคะ คือเข้าใจว่าเราทำกิจกรรมกับครอบครัวเป็นปกติอยู่แล้ว ไปไหนมาไหนก็ไปกับครอบครัว เวลาจะชวนไปไหนก็เลยชวนคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย ซึ่งพี่เขาก็มีความสุขนะคะที่เวลาไปไหนแล้วมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยทับทิมเองก็มีความสุขนะคะ คือการที่เราจะคบกับใครก็อยากให้เขาเข้ากับครอบครัวเราได้อยู่แล้วค่ะ
เข้ากับครอบครัวได้แล้ว นั่นคือที่มาของแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของทับทิมหรือเปล่าคะทับทิม : แหวนไหนคะ
แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของหนูอะค่ะ ทับทิม : (หัวเราะ) โห... จริง ๆ ทับทิม ก็ใส่ทุกนิ้วค่ะพี่
ได้ข่าวว่าหนูไม่ได้ซื้อเองนี่คะ วงนั้นมีคนที่ห่วงใยซื้อให้ ทับทิม : แหม... ทับทิมก็ซื้อเองได้นะคะ แต่ใครบอกคะ (หัวเราะ) จริง ๆ อยากให้ไปถามพี่เขามากกว่าค่ะ แต่ทับทิมยังไม่ได้บอกว่าพี่เขาซื้อให้นะคะ อีกอย่างคือทับทิมไม่อยากให้ไปเน้นอะไรตรงนั้นมากกว่า การใส่เครื่องประดับก็เป็นปกติอยู่แล้วใช่ไหมคะ อย่าไปเน้นเลยค่ะ ถ้านั้นบอกว่านี่คือ สิ่งหนึ่งที่เป็นของขวัญจากพี่เขาจะได้ไหมคะ ยังไงก็ลองถามกับพี่เขาดีกว่าค่ะ
ถ้าจำไม่ผิดจริง ๆ สเตฟานเหมือนสอบผ่านสเปคของทับทิมเรื่องเดียวนะทับทิม : คือเรื่องไหนคะ
ต้องอายุเท่าไหร่ทับทิม : (หัวเราะ) อ๋อ ค่ะ จริง ๆ พี่เขาก็ต่างจากสเปคที่เคยบอกเอาไว้จริง ๆ ทับทิม ก็ไม่ทราบเหมือนกัน คือที่เคยบอกไปตอนนั้นเรารู้สึกว่าคงไม่ได้แน่นอนตายตัว อาจจะเป็นแบบขำ ๆ มากกว่าประมาณนั้นค่ะ แต่ท้ายที่สุดทุกอย่างอยู่ที่นิสัยค่ะ ซึ่งพี่เขาเป็นคนดีจริง ๆ
ถ้าถามภาพรวมของชีวิต ก่อนหน้านี้ทับทิมเคยโฟกัสเรื่องเรียนก็เรียนจบแล้ว โฟกัสงานตอนนี้ก็รุ่งแล้ว แล้วความรักล่ะคะวางแผนไว้ยังไงทับทิม : ความรักไม่ได้แพลนเลยค่ะ เรื่อย ๆ อย่างที่บอก เราก็มีความสุขกับปัจจุบันค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพยนตร์บันเทิง ปีที่ 39 วันที่ 15-28 พฤษภาคม 2556 Vol.1854
