แต่ทั้งนี้ก็มีสาว ๆ อีกจำนวนไม่น้อยเลยที่คบ ๆ เลิก ๆ มาหลายครั้งหลายครา ก็ยังไม่เจอคนที่คิดว่าใช่เสียที และทุกครั้งก็มีร่องรอยบาดแผลจากอาการอกหักมาด้วยเสมอ ซึ่งในวันที่อ่อนแอแบบนี้แทนที่จะนอนร้องไห้อยู่คนเดียว ลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเองกันหน่อยดีกว่า...ด้วยวิธีเหล่านี้
สาวเพิ่งโสดอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับการอยู่ตัวคนเดียว ฉะนั้น ก็เอาเวลาที่เหลือทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ สะสางเคลียร์งานที่ค้างคาสะสมมานานให้เรียบร้อย แล้วความวุ่นวายเหล่านั้นจะช่วยให้สาว ๆ ลืมอาการอกหักไปเลยในพริบตา และนอกจากนี้ในวันที่ไม่มีนัดกับเพื่อนหรือครอบครัว ก็ยังสามารถหอบงานกลับไปทำที่บ้านโดยไม่มีใครคอยบ่นด้วย ไม่แน่ว่าระหว่างนี้อาจจะเกิดไอเดียสำหรับโปรเจคท์เด็ด ๆ ไปเสนอเจ้านายด้วยก็ได้
2. ตั้งเป้าหมายในชีวิต
เมื่อต้องกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้งก็ไม่ควรปล่อยให้ชีวิตว่างเปล่า สร้างความหมายของชีวิตขึ้นมาใหม่โดยการตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง หรือทำความฝันให้เป็นจริง เช่น วางแผนเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ทำธุรกิจส่วนตัว ซื้อของที่ต้องการ เป็นต้น พร้อมกับคิดขั้นตอนและเส้นทางความเป็นไปได้ จากนั้นก็มุ่งมั่นลงมือทำอย่างเต็มที่ เพื่อความสำเร็จ
3. ไม่ควรติดต่อกับแฟนเก่า
ยิ่งมีโอกาสเจอหน้าหรือพูดคุยกันบ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ตัดใจได้ยากมากขึ้นเท่านั้น และแอบคิดเข้าข้างตัวเองได้ว่าอีกฝ่ายยังมีใจให้กันอยู่ ฉะนั้น หากเป็นไปได้ควรเลิกการติดต่อกันไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ อีเมล หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ตาม แต่ถ้ายังทำใจไม่ได้ก็อาจจำเป็นต้องลบทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาออกจากชีวิตไปตลอดกาล เพื่อให้ตัวเองได้เดินหน้าต่อไปเสียที
4. เลิกติดตามทุกความเคลื่อนไหว
หลังจากที่โดนบอกเลิกมาสาว ๆ หลายคนก็คงแอบเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวหรือข่าวสารของแฟนเก่าอยู่เป็นระยะ ทั้งในหน้าเพจบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือคำบอกเล่าจากเพื่อน ๆ เพื่อสืบให้ได้ว่าเขามีคนใหม่หรือกำลังคบหาดูใจกับใครอยู่หรือเปล่า ซึ่งการกระทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายตัวเองและทำให้ตัดใจได้ยากยิ่งกว่าเดิม นอกเสียจากจะเลิกติดต่อและสืบข่าวคราวของเขา
5. ใช้เวลากับเพื่อนให้เต็มที่
หากรู้ว่าตัวเองเป็นสาวขี้เหงาที่ไม่ชอบการอยู่คนเดียวเอามาก ๆ อาจจะชวนเพื่อน ๆ ออกไปเดินช้อปปิ้ง ดูหนังฟังเพลง ปาร์ตี้สังสรรค์เฮฮาตามประสาสาวโสดย้อนความหลังวันวานกันดูบ้าง เช่น ร้านอาหารประจำที่เคยไปด้วยกัน ร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดใหม่ หรือมองหากิจกรรมสนุก ๆ ทำ เพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครที่จะรู้ใจและรู้วิธีปลอบได้ดีเท่ากับเพื่อนอีกแล้ว
6. แบ่งเวลาให้ครอบครัว
หากถามถึงคนที่สามารถรักเราได้เท่ากับชีวิตของตัวเอง คงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากคนในครอบครัว ซึ่งมักจะโดนมองข้ามอยู่เสมอ ดังนั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะหันกลับมาดูแลใส่ใจครอบครัวกันให้เต็มที่ พาคุณพ่อคุณแม่ออกไปรับประทานข้าวนอกบ้าน ทำอาหารจานโปรดให้รับประทาน หรือจัดการซักเสื้อผ้าปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้สะอาด เพื่อตอบแทนความรักที่พวกท่านมีให้บ้าง แล้วจะรู้ว่ารักแท้อยู่ไม่ไกลจากตัวเราเลยจริง ๆ
บ้านที่สะอาดไม่ได้นำมาสู่บรรยากาศที่สดชื่น และทำให้ภายในบ้านน่าอยู่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังรักษาอาการอกหักได้อย่างดีเยี่ยม เพราะตอนที่กำลังปัดกวาดเช็ดถูอยู่ จิตใจของเราก็จะจดจ่ออยู่กับกิจกรรมตรงหน้าจนไม่มีเวลาวอกแวกไปคิดเรื่องอื่นเลย อีกทั้งตามหลักฮวงจุ้ยนั้นยังเชื่อว่าการจัดเก็บของที่เป็นระเบียบสามารถช่วยกำจัดปัญหาต่าง ๆ ที่รบกวนจิตใจออกไปได้ด้วย
8. ไม่ควรทำร้ายตัวเอง
หลายคนอาจจะคิดทำร้ายตัวเองเพื่อดึงดูดความสนใจ และใช้วิธีนี้ยื้อความสัมพันธ์เพื่อให้คนรักกลับมาหา แต่ถ้าหากคิดดูดี ๆ ก็จะรู้ว่าสิ่งที่เสียไปไม่คุ้มกันเลยสักนิดกับอารมณ์ชั่ววูบ และคนที่ไม่เห็นความสำคัญของเรา เพราะคนที่เสียใจไม่ได้มีแค่ตัวเราเท่านั้น แต่ยังมีครอบครัว พี่น้อง เพื่อน ๆ อีกมากมายที่อาจจะทุกข์ใจยิ่งกว่า
9. กลับมาเป็นตัวเอง
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำสิ่งที่รักเพราะรู้ว่าแฟนไม่ชอบ แต่ในเมื่อตอนนี้ต่างฝ่ายต่างไม่เกี่ยวข้องกันแล้วหากจะกลับมาทำแบบเดิมดึงตัวเองกลับคืนมาก็คงไม่ผิดอะไร นอกจากจะไม่ต้องขออนุญาตความเห็นใด ๆ จากใครแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความสุขให้กับตัวเองด้วย ไม่ว่าจะนอนดูซีรีส์ข้ามวันข้ามคืน แอบมองหนุ่ม ๆ ในร้านหนังสือ หรือโทรศัพท์หาเพื่อนเป็นชั่วโมง ๆ
10. เติมความสวย
แค่เจอกับอาการอกหักก็แย่มากพอแล้ว ฉะนั้นจึงควรดูแลร่างกายผมเผ้าหน้าตาของตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอตั้งแต่หัวจรดเท้า อย่างเช่น นวดผ่อนคลายในสปา หรือตัดแต่งทรงผมในซาลอน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เองที่จะช่วยเรียกความสุข ความน่ารัก ความสดใสกลับมาให้เราได้อีกครั้ง ไม่แน่ว่าความสวยของเราอาจจะเตะตาหนุ่มคนใหม่เข้าก็ได้
11. ให้เวลากับตัวเอง
อาการอกหักใช่ว่าจะลบหรือรักษากันได้ง่าย ๆ และยิ่งบังคับตัวเองก็ยิ่งทำให้ความจำทำงานได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น ไม่ควรเร่งเร้าให้ตัวเองลืมในทันทีทันใด แต่ควรปล่อยให้เวลาคอยรักษาความรู้สึกไปทีละนิดดีกว่า ซึ่งเวลาการทำใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน อาจจะเป็นเดือนหรือนานเป็นปีแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่ผ่านมา
ถึงแม้อาการอกหักจะทำให้เราเสียใจและความรู้สึก แต่จากเหตุการณ์ร้าย ๆ แบบนี้ก็ทำให้เรารู้ว่ารักแท้เป็นอย่างไรเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เราหันกลับมาให้ความสำคัญและดูแลคนใกล้ตัวอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ฉะนั้นหากเป็นไปได้อย่าลืมให้เวลากับพวกเขาให้มาก ๆ นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
magforwomen.com และ yourtango.com
