เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อพูดถึงประเทศเกาหลีใต้แล้ว เชื่อเลยว่าสิ่งที่หลาย ๆ คนนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ คงจะไม่พ้นเรื่องของการศัลยกรรม เพราะเป็นประเทศที่หนุ่มสาวฮิตการทำศัลยกรรมมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูก ทำตา ทำปาก และผ่าตัดกรามเปลี่ยนรูปหน้า จนเรียกได้ว่าทำกันเสียจนใบหน้าเรียวรูปทรงเดียวกันหมดไปแล้ว แต่ต่อไปนี้ สาว ๆ คนไหนที่อยากจะบินไปทำหน้าเรียวที่นั่น คงต้องคิดพิจารณากันดี ๆ อีกครั้ง เมื่อล่าสุด สำนักข่าวเอเอฟพีได้ออกมาตีแผ่ว่า ศัลยกรรมผ่าตัดลดขนาดกรามในเกาหลีใต้นั้น เจ็บและอันตรายจน บางครั้งก็เกิดผิดพลาดจนถึงขั้นทำให้คนฆ่าตัวตายมาแล้ว
สำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่า ศัลยกรรมผ่าตัดลดขนาดกราม เป็นศัลยกรรมที่ฮอตฮิต ตามศัลยกรรมทำจมูก ทำตา มาติด ๆ โดยหนุ่มสาวเกาหลีใต้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบรรดาดารานักร้อง ที่ดูสวยหล่อขึ้นหลายเท่าตัว หลังจากที่พวกเขาไปผ่าตัดลดขนาดกราม ปรับรูปหน้าเป็น V-Shape ขณะเดียวกันก็มีโฆษณาเกี่ยวกับการเหลากรามกันเกลื่อน ตั้งแต่ป้ายตามถนน สถานีรถไฟฟ้า นิตยสาร และสื่ออินเทอร์เน็ต จนทำให้การเหลากรามกลายเป็นศัลยกรรมที่ไม่น่ากลัวอะไรในความรู้สึกของชาวเกาหลีใต้ เพราะโฆษณาชวนเชื่อมักจะใช้คำแนว ๆ ที่ว่า "ใคร ๆ ก็ทำกันทั้งนั้น" ขณะที่ศัลยแพทย์บางราย ถึงกับเชิญให้คนดังมาผ่าตัดลดขนาดกรามฟรี เพื่อแลกกับการออกรายการและให้สัมภาษณ์ว่า ชีวิตตัวเองเปลี่ยนไปแค่ไหนหลังจากผ่าตัดกรามเสริมความงามครั้งนี้
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า แท้จริงแล้วการศัลยกรรมเหลากรามนั้น เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะเมื่อรูปทรงใบหน้าตามธรรมชาติผิดแปลกไป ก็มีความเสี่ยงมากที่จะเกิดผลกระทบต่อการเคี้ยวอาหาร ต้องทนเจ็บปวดอยู่หลายเดือนกว่าจะหายดี และเสี่ยงต่อภาวะไร้ความรู้สึกบนใบหน้า หรือใบหน้าเป็นอัมพาตได้
แม้จะไม่มีสถิติออกมาชัดเจนว่า ชาวเกาหลีใต้เข้ารับการศัลยกรรมผ่าตัดกรามไปเท่าไร แต่ก่อนหน้านี้ มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งคำนวณออกมาว่า สถิติผู้เข้ารับการศัลยกรรมเหลากรามในเกาหลีน่าจะอยู่ที่ 5,000 คน และน่าตกใจที่ 52 เปอร์เซ็นต์ของคนจำนวนนี้ ประสบปัญหาเกี่ยวกับการรับความรู้สึกบริเวณใบหน้า และการเคี้ยวอาหาร โดยหนึ่งในผู้เข้ารับการผ่าตัดลดขนาดกราม ได้เปิดเผยว่า หลังจากการศัลยกรรมเสร็จสิ้น กรามเธอก็เบี้ยวไปข้างซ้าย และบริเวณกรามก็ไร้ความรู้สึก ไม่รู้สึกแม้กระทั่งเวลาน้ำลายหยดออกมา
นอกจากนี้ ยังมีอีกกรณีหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการผ่าตัดลดขนาดกราม นั่นก็คือเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2555 นักศึกษาหญิงวัย 23 ปี รายหนึ่งได้ฆ่าตัวตาย โดยเธอได้เขียนจดหมายลาตาย ชี้แจงว่า เธอไปผ่าตัดลดขนาดกรามเพื่อให้รูปหน้าเรียวสวย แต่ผลที่ได้รับมาพร้อมกับใบหน้าเรียวนั้น คือเธอไม่สามารถทานอาหาร และหยุดร้องไห้ได้เลย เพราะเส้นประสาทที่ควบคุมน้ำตาถูกทำลายไประหว่างการผ่าตัด ซึ่งนั่นทำให้เธอทุกข์ทรมานกว่าตอนที่เธอยังไม่มีหน้าเรียวสวยอย่างมาก
ด้าน ชิน ฮยอน โฮ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยหลายเคสที่เข้ารับการผ่าตัดกราม แล้วต้องเจอกับความเจ็บปวด ปากเบี้ยว ฟันบนและล่างไม่สบกัน บางรายถึงกับไม่สามารถเคี้ยวอาหารหรือยิ้มได้เลย และตอนนี้ ดูเหมือนว่าผู้ประสบปัญหาหลังผ่าตัดกรามจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการศัลยกรรมผ่าตัดกรามจะมีอันตรายสูง แต่ในสังคมที่ความสวยนำมาซึ่งโอกาสในการเข้าวงการบันเทิง การได้เป็นดารานางแบบ หรือแม้แต่การได้รับการพิจารณาในการรับเข้าทำงานที่มากกว่า ก็ทำให้ผู้หญิงหลายคนยอมเสี่ยงเพื่อให้ได้รับโอกาสเหล่านั้น การห้ามไม่ให้ผู้หญิงทำศัลยกรรมเสี่ยงอันตรายจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ ก็คือการฝากไว้ให้ผู้หญิงอยากสวยได้คิดกันนาน ๆ ก่อนจะตัดสินใจ พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง เพื่อที่การศัลยกรรมจะได้ไม่ย้อนกลับมาทำร้าย ในวันที่มันได้สร้างความผิดปกติให้กับร่างกาย เฉกเช่นหลาย ๆ เคสตัวอย่างที่ยกมาฝากกันนี้
