เอพริล ในอดีต
เอพริล ในปัจจุบัน
เอพริล ในปัจจุบัน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Apryl Michelle Brown
ขนาดการศัลยกรรมหรือฉีดสารฟิลเลอร์ นำสารแปลกปลอมต่าง ๆ ที่มีมาตรฐาน ได้รับอนุญาตถูกต้องแล้วตามกฎหมายเข้าสู่ร่างกาย ยังมีคำเตือนที่ย้ำแล้วย้ำหลายต่อหลายรอบว่า ผู้ต้องการทำต้องคิดให้รอบคอบและพิจารณาให้ดีถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ เพราะทุกการกระทำเหล่านี้ล้วนมีความเสี่ยงทั้งสิ้น แล้วยิ่งถ้าเป็นการศัลยกรรมเถื่อน ฉีดฟิลเลอร์เถื่อน เสริมจมูกเถื่อนเหล่านี้ล่ะ ถ้าตัดสินใจตอบตกลงไปแล้วจะเท่ากับเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงขนาดไหน ถ้ายังนึกภาพความเสียหายไม่ออก ลองมาดูเรื่องนี้ไว้เป็นอุทธาหรณ์กันค่ะ เธอต้องยอมตัดมือและเท้าทั้งหมดทิ้งไปเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง หลังจากแพ้พิษซิลิโคนเถื่อนจากหมอกระเป๋า!
เอพริล ในอดีต
เอพริล มิเชล บราวน์ อดีตช่างทำผมจากลอสแอนเจลิสวัย 46 ปี ปัจจุบันต้องอยู่ในสภาพมือเท้ากุดพิการ สาเหตุเพียงเพราะความอยากสวย เธออยาจะมีบั้นท้ายงามงอนกลมกลึงเหมือนคนอื่นบ้างเท่านั้นเองจากการรายงานของเว็บไซต์เดอะซัน เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม เอพริลบอกว่า เธอมีปมด้อยเรื่องบั้นท้ายแบนราบมาตั้งแต่เด็ก และโดนล้ออยู่เสมอว่าก้นแบนเป็นแพนเค้ก จนเป็นปมฝังใจว่าสักวันเธอจะต้องมีบั้นท้ายงามงามกลมกลึงสวยให้จงได้ จนวันหนึ่งในปี 2004 ลูกค้าผู้หญิง 2 รายมาใช้บริการทำผมที่ร้านของเธอ และได้พูดคุยกันจนรู้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นหมอกระเป๋า ที่รับฉีดซิลิโคนเสริมสัดส่วนให้ผู้ป่วยตามบ้าน แน่นอนว่าเธอไม่ใช่แพทย์จริง ๆ ไม่มีใบอนุญาต แต่กลับเดลิเวอรี่บริการทำสวยส่งให้ถึงบ้าน และหญิงอีกคนที่มาด้วยก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของเธอซึ่งเสริมบั้นท้ายมา ซึ่งเอพริลบอกว่าเธอคนนี้ดูดีมากทีเดียว
ในตอนนั้นเอพริลไม่ลังเลใจเลยที่จะตอบตกลงขอเสริมบั้นท้ายกับเธอทันที โดยไม่แม้แต่จะศึกษาข้อมูลสักนิดเดียว ด้วยความอยากสวย ความไว้ใจแบบผิด ๆ เพราะหมอเถื่อนคนนั้นพูดจาน่าเชื่อถือเหลือเกิน ทำให้การตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ทีจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาลเกิดขึ้น
และแล้วการเธอก็ได้ฉีดซิลิโคนครั้งแรก ตามมาด้วยครั้งที่สองในเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง ทั้งสองครั้งนี้เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 650 ดอลลาร์ (ราว 19,500 บาท) ซึ่งหมอเถื่อนแนะนำว่าเธอควรจะทำ 3-4 ครั้งจึงจะเห็นผล อย่างไรก็ดี อาจจะมีโชคหลงเหลืออยู่ในการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปบ้าง หลังฉีดครั้งที่สอง เอพริลก็พลันฉุกคิดกับตัวเองได้ว่านี่เธอกำลังทำอะไรอยู่ เธอกำลังฉีดสารแปลกปลอมอะไรเข้าไปสู่ร่างกาย เธอจึงไม่ได้ติดต่อขอฉีดเข็มที่สามอีกเลย
แต่หากจะว่าความคิดนี้เป็นความโชคดี โชคที่ว่านี้ก็อาจจะยังไม่ดีเพียงพอ เพราะไม่กี่เดือนหลังการฉีดซิลิโคนเสริมก้น เธอก็รู้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นแล้วแน่ ๆ เนื้อที่บั้นท้ายของเธอแข็งและกระด้างขึ้นอย่างน่าประหลาด แต่ความอายก็ทำให้เธอไม่กล้าเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาอย่างจริงจัง จนเมื่อเวลาล่วงเลยไปอีก เนื้อที่ก้นของเธอแข็งและด้านขึ้นเรื่อย ๆ คล้ำจนดำ เกิดลักษณะบุ๋มผิดปกติ ทั้งยังมีอาการปวดแสบปวดร้อนจนทนแทบไม่ไหว เอพริลจึงพาตัวเองไปพบหมอในที่สุด
สุดท้ายแล้วเธอก็ทราบจากแพทย์ว่า ซิลิโคนที่อยู่ในร่างกายเธอนั้นหาใช่เกรดเพื่อการศัลยกรรม แต่เป็นเพียงซิลิโคนยาแนวที่ช่างใช้อุดรูรั่วไม่ให้น้ำซึมที่มีวางขายทั่วไปนี่เอง และตอนนี้เนื้อเยื่อของเธอก็กำลังออกอาการต่อต้านสารตัวนี้อยู่ แต่แพทย์ก็ไม่สามารถผ่าตัดเพื่อนำสารแปลกปลอมที่ว่านี้ออกไปได้ เพราะมันอันตรายกับเธอมากเกินไป
เอพริลต้องทนอยู่ในสภาพที่ว่านี้นานถึง 4 ปีเต็ม เธอรู้สึกเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา เธอบอกว่ามันเจ็บสาหัสสากรรจ์เหมือนเป็นทั้งไมเกรน ปวดฟัน และเจ็บท้องคลอด ไปปวดกระจุกอยู่ที่เดียวพร้อม ๆ กัน เธอตัดสินใจว่ายอมทำทุกอย่างเพื่อยุติความทรมานนี้ จะทำอะไรก็ได้ แม้จะตัดก้นทิ้งไปเลยเธอก็ยอม
เดือนกุมภาพันธ์ 2011 เอพริลเข้าผ่าตัดเป็นครั้งแรก แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก หลังการผ่าตัดบั้นท้ายของเธอเกิดเป็นโพรง ซึ่งคาดว่ามันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อลุกลามจนเข้าสู่ขั้นติดเชื้อร้ายแรง เดือนมิถุนายนเอพริลในอาการโคม่าถูกนำตัวเข้ารักษาเร่งด่วน ผ่านการผ่าตัดอีกร่วม 27 ครั้ง ในจำนวนนั้นคือการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อบั้นท้ายส่วนที่ถูกทำลายไปออกจนหมด ทำการปลูกถ่ายผิวหนังใหม่ รวมทั้งผ่านการผ่าตัดที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล นั่นคือการตัดมือและเท้าทั้ง 2 ข้างของเธอทิ้งไป เพราะหลังจากผ่าตัดบั้นท้ายแล้ว ปรากฏว่าเชื้อลุกลามไปยังมือและเท้า และกำลังจะเน่า เธอจึงจำต้องแลกอวัยวะสำคัญของร่างกายเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองให้อยู่รอด
เอพริล ในปัจจุบัน
เอพริล ในปัจจุบัน
ณ วันนี้ เอพริลบอกว่า เธอไม่โทษหมอกระเป๋าคนนั้น ไม่คิดจะตามหาหรือเรียกร้องค่าเสียหาย แต่เธอโทษความโลภที่จะสวยและความยั้งคิดของตัวเอง เธอเชื่อว่าที่การที่เธอได้ชีวิตรอดคืนมา ก็เพื่อจะได้อยู่แล้วคอยบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองไปเตือนสติผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่คิดจะสวยทางลัดกับหมอเถื่อน และซิลิโคนเถื่อน หรือวัสดุไร้คุณภาพอะไรก็ตาม ว่ามันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเลยแม้แต่นิดเดียว เอพริล ในปัจจุบัน
"ฉันอยากให้ผู้หญิงทุกคนตระหนักถึงความอันตรายของตลาดศัลยกรรมเถื่อน เราต่างเกิดมาครบ และเพอร์เฟคท์ในตัวของตัวเองอยู่แล้ว ได้โปรดเรียนรู้ที่จะรักและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น" เอพริลกล่าว