6 ข้อควรเลี่ยง เพื่อชีวิตแต่งงานที่ยืนยาว

ความรัก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          สมัยนี้คู่แต่งงานที่อยู่กินกันจนแก่เฒ่าดูจะมีน้อยลงไปทุกที ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเพราะชีวิตที่ยุ่งยากทำให้เราต้องทำงานจนหัวหมุน มีเวลาการสื่อสารกันน้อยลง หรือมีโอกาสเจอคนใหม่ ๆ มากกว่าแต่ก่อน แต่ที่จริงแล้วทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราเองนั่นแหละ เพราะหากรู้จักดูแลใส่ใจความรู้สึกของกันและกันเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ ต่อให้เจออุปสรรคอะไรก็ไม่น่าเป็นปัญหาได้ทั้งนั้น ผิดกับการทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่อาจเร่งให้การหย่าร้างที่คุณหวาดกลัวมาถึงรวดเร็วอย่างไม่คาดคิด ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวม 6 ข้อ ควรหลีกเลี่ยงเพื่อชีวิตแต่งงานที่ยืนยาวมาฝากกันแล้ว ลองมาดูสิว่ามีข้อไหนที่คุณเผลอทำไปโดยไม่รู้ตัวบ้างหรือเปล่า?

1. เล่าเรื่องแย่ ๆ ของเขาให้เพื่อนฟัง

เป็นธรรมดาที่ผู้หญิงเราชอบระบายความในใจให้เพื่อนฟัง ในเมื่อผู้หญิงมักเปิดอกคุยกันมากกว่าผู้ชายเป็นไหน ๆ อยู่แล้ว แต่บางทีเราก็ควรยับยั้งชั่งใจเอาไว้บ้าง เพราะมันจะทำให้ปัญหาที่มีอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก โดยเพื่อนมักจะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเรา จนว่าร้ายเขา ทำให้เรายิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ และการฟังความข้างเดียวก็อาจทำให้คำปรึกษาที่ได้มาไม่มีน้ำหนักเสียด้วย เราจึงควรเก็บปัญหาครอบครัวเอาไว้เป็นความลับบ้าง

2. คิดว่าบ่นซ้ำ ๆ จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้

          ผู้หญิงบางคนก็เลือกที่จะบ่นหรือตะโกนโวยวายซ้ำ ๆ ในเรื่องเดิม ๆ เพื่อให้ผู้ชายเปลี่ยนนิสัยที่ทำให้เธอเอือมระอา เพราะคิดไปว่าการย้ำคิดย้ำทำแบบนี้ จะทำให้เขาเกิดอยากแก้ไขตัวเองขึ้นมาสักวัน แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่า ผู้ชายเป็นเพศที่อีโก้สูงจะตาย ขืนไปพูดกรอกหูโวยวายใส่เขามีแต่จะทำให้ยิ่งต่อต้านเสียเปล่า ๆ เรียนรู้วิธีการพูดแบบใจเย็น แล้วค่อยหาโอกาสเหมาะ ๆ พูดดีกว่านะ

3. รอให้เขาเป็นฝ่ายเปลี่ยนเพื่อความสุขของตัวเอง

          จากการวิจัยของ American Psychological Association’s journal Developmental Psychology คนเราจะมีความสุขขึ้นได้เมื่อคู่ชีวิตของเรามีความสุขด้วย แต่การจะทำเช่นนั้นไม่ใช่คอยจ้ำจี้จ้ำไชให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เป็นการเริ่มเปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่มีความสุขก่อนต่างหาก เพื่อที่เขาจะได้มีความสุขเวลาอยู่กับเราไปด้วย และแน่นอนว่านั่นหมายถึงความสุขในชีวิตแต่งงานร่วมกัน จนไม่ต้องพูดถึงเรื่องหย่าร้างนั่นเอง

4. ใช้ชีวิตเหมือนอยู่กันคนละโลก

          ต่อให้อยู่ในบ้านเดียวกันแทบไม่เคยออกไปค้างนอกบ้าน แต่บางคู่ก็กลับทำตัวเหมือนคนแปลกหน้ากันซะอย่างนั้น อย่าว่าแต่จะพูดคุยปรึกษากันเลย แค่จะหันมาทักทายกันบ้างยังแทบไม่มีด้วยซ้ำ กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นคนแปลกหน้าไปเสียแล้ว ความรักที่เคยมีมันจึงหายไปหมด รู้แบบนี้แล้วก็อย่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณ หันมาใช้เวลาร่วมกับคนรักบ้างก่อนจะสายไปนะคะ

5. จับจดอยู่แต่กับข้อเสีย

          คนเรานี่ก็แปลก ข้อดีมีเยอะแยะก็ไม่มอง ความทรงจำดี ๆ ที่เคยมีร่วมกันก็สามารถลืมไปได้อย่างง่ายดาย แต่เรื่องไม่ดีกลับจำมันได้แม่นไปทุกเรื่องซะนี่ ซึ่งความคิดแบบนี้ไม่มีวันทำให้ชีวิตคู่ของคุณมีความสุขได้เลย มีแต่จะรู้สึกแย่สะสมขึ้นมาทุกวันเสียอีก ดังนั้น พยายามปรับมุมมองเสียใหม่ รู้จักให้อภัยบ้าง ไม่ใช่เพื่อเขาเท่านั้นแต่เป็นความสุขของตัวคุณเองด้วย

6. คิดแต่ว่าคุณสมควรได้สิ่งที่ดีกว่านี้

          รู้ตัวไว้เลยว่าทันทีที่คุณมีความคิดแบบนี้ขึ้นมา แปลว่าคุณกำลังกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวและคิดดูถูกอีกฝ่ายขึ้นมาเสียแล้ว ซึ่งการฝืนทนอยู่ต่อไปมีแต่จะทำให้ไม่มีความสุขด้วยกันทั้งคู่ เขาเองก็ต้องกดดันกับความคาดหวังของคุณ ในขณะที่คุณเองก็ไม่มีความสุขเพราะไม่ได้อย่างที่ต้องการอีกเหมือนกัน และความอยากได้แบบนี้ก็ดูท่าจะไม่มีที่สิ้นสุดเสียด้วย สู้หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคู่โน้นคู่นี้ แล้วมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ไม่ดีกว่าหรือ?

          อย่ามองว่าความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีวันจางหายไปเด็ดขาดนะคะ เพราะต่อให้วันนี้รักกันแค่ไหน หากไม่แสดงออกให้เขารู้บ้าง ไม่แบ่งเวลามาสนใจเขาสักนิด สักวันหนึ่งความรักที่เคยมีก็อาจจะกลายเป็นแค่อดีตไปเลยก็ได้ ดังนั้น ควรทำทุกวันให้ดีที่สุด เพื่อไม่ต้องมาเสียใจทีหลังดีกว่านะ




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
6 ข้อควรเลี่ยง เพื่อชีวิตแต่งงานที่ยืนยาว อัปเดตล่าสุด 5 มิถุนายน 2556 เวลา 13:17:37
TOP
x close