เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ทุกคนคงคุ้นเคยกับการจบความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักกันดีอยู่แล้วจริงไหมล่ะ...และสาเหตุของการเลิกราของแต่ละคู่ก็แตกต่างกันออกไป เช่น เข้ากันไม่ได้บ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ดังนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอข้อมูลงานวิจัยแบบคร่าว ๆ ที่บ่งบอกถึงปัจจัยตัวอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกคุณ เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องคาดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าปัจจัยที่ว่ามานั้นคืออะไร...ไปอ่านกันเลยจ้า
Rob Burriss นักวิจัยชาวอังกฤษ ได้ศึกษาเรื่องความสวยงามของรูปลักษณ์ภายนอกว่าส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักหรือไม่ โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นคู่รักต่างเพศจำนวน 100 คู่ พบว่าคู่รักที่มีสัดส่วนของใบหน้าเท่าเทียมกัน หรือพูดง่าย ๆ คือ ความสวย-หล่อเท่าเทียมกัน จะมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและประสบความสำเร็จในการคบหากันครั้งนี้
ผลการวิจัยยังปรากฏอีกว่า คู่รักที่มีใบหน้าได้สัดส่วนหรือเรียกกันว่าสวย-หล่อทั้งคู่นั้น จะมีความสัมพันธ์ที่ดีมั่นคงและยืนยาวมากกว่าคู่ที่รูปลักษณ์หน้าตาไม่เทียบเท่าเสมอกัน โดยเฉพาะคู่ที่ผู้หญิงสวยแต่ผู้ชายไม่หล่อมักไม่ประสบความสำเร็จในการคบหากัน หรือคบกันได้ไม่นานนั่นเอง เช่น คู่ของ Angelina Jolie กับ Billy Bob Thornton และ Julia Roberts กับ Lyle Lovett เนื่องจากผู้หญิงสวยจะมีความมั่นใจในตัวเอง และกล้าที่จะจบความสัมพันธ์แบบง่าย ๆ เพราะเธอคิดว่า มีเสน่ห์มากพอที่จะหาคนใหม่ที่ดีกว่า ในทางตรงกันข้ามสำหรับคู่ที่ผู้ชายหล่อและผู้หญิงไม่สวย กลับไม่ปรากฏว่าเลิกกันเร็ว เพราะผู้หญิงมักจะพยายามยืดความสัมพันธ์รักให้ยาวนานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ คู่รักที่ไม่หล่อ-สวยหรือมีสัดส่วนใบหน้าที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งคู่ จะคบกันยืนยาวเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นนี้ก็เป็นเพียงการแสดงให้เห็นปัจจัยเบื้องต้นบางตัวที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักเท่านั้น ซึ่งคู่รักที่เลิกรากันนั้นมันมีหลายสาเหตุ เช่น ความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ และนิสัยใจคอ ฯลฯ ดังนั้น เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเป็นเพียงหนึ่งปัจจัยเท่านั้นเองค่ะ