สิวที่หน้าผาก ปัญหากวนใจที่สาว ๆ หลายคนต้องเจอ เราจะพาไปทำความรู้จักสาเหตุการเกิดสิว และวิธีดูแลรักษาที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ ใครกำลังเป็นสิวประเภทนี้อยู่บอกเลยไม่ควรพลาด
![สิว]( "สิว")
หลายต่อหลายครั้งที่ปัญหาสิว สร้างความกังวลใจให้กับสาว ๆ โดยเฉพาะในจุดที่เห็นเด่นชัดอย่าง "หน้าผาก" ที่มักจะมีทั้งสิวผด สิวอุดตัน และสิวอักเสบ แย่งกันขึ้นอยู่เป็นประจำ แถมยังรักษา สิวที่หน้าผาก ไม่หายสักที จนทำให้สาว ๆ หลายคนหมดหวังไปตาม ๆ กัน ซึ่งแม้ว่าสิวบริเวณหน้าผากที่หลายคนมักเจอบ่อยๆ จะเป็นสิวผด และสิวอุดตันซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็อาจกลายเป็นสิวเม็ดใหญ่ สิวอักเสบได้ ดังนั้นใครที่กำลังเจอสิวบุกแบบนี้อยู่ อย่ารอช้า มาหาคำตอบกันว่า สิวที่หน้าผากเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรักษาสิวและป้องกันการเกิดสิวที่หน้าผากด้วย
สิวที่หน้าผาก สาเหตุ เกิดจากอะไร ?
1. มีความมันส่วนเกินมากเกินไป
สิวขึ้นหน้าผาก อาจเกิดจากการที่ต่อมไขมันบริเวณทีโซนผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนอุดตันรูขุมขน และเกิดเป็นสิวที่หน้าผากตามมา ซึ่งความมันส่วนเกินเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผิวขาดความชุ่มชื้น สภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อปกป้องผิวไม่ให้เกิดอันตรายจากความร้อนและรังสียูวี
2. การอุดตันของสิ่งสกปรก
นอกจากความมันส่วนเกินแล้ว เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว อย่าง P. Acne และสิ่งสกปรกต่าง ๆ อย่าง คราบเครื่องสำอาง สารกันแดด ฝุ่นควัน และเหงื่อไคล ต่างก็ก่อให้เกิดสิวที่หน้าผากได้เช่นกัน หากล้างหน้าไม่สะอาดหรือมีสิ่งสกปรกเหล่านี้หลงเหลืออยู่บนใบหน้า ก็จะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดเป็นสิวที่หน้าผากได้
3. การใช้มือสัมผัสหน้าผากบ่อยครั้ง
รู้ไหมว่ามือของเราที่ไปจับสิ่งของต่าง ๆ มาตลอดทั้งวัน อาจจะมีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกอยู่ ซึ่งหากใครมีพฤติกรรมชอบเอามือเสยผม หรือสัมผัสผิวบริเวณหน้าผากบ่อย ๆ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวหน้าผากได้เช่นเดียวกัน
4. เส้นผม หมวก และผ้าโพกศีรษะที่ไม่สะอาด
หากสาวคนไหนไว้ผมหน้าม้าปรกหน้าผาก หรือชอบใส่หมวก ผ้าคาดผม เป็นประจำ สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนเส้นผมหรือสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เมื่อสัมผัสกับหน้าผากแล้ว จะทำให้เกิดการอุดตันตามรูขุมขน และเป็นสาเหตุให้เกิดสิวตามมา
![สิว]( "สิว")
5. แพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมและผิวพรรณ
สาเหตุอันดับแรก ๆ ของการเป็นสิวที่หน้าผากก็คือการแพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีมนวดผม เซรั่มบำรุงผม ตลอดจนสกินแคร์ต่าง ๆ เพราะเวลาที่เราทำความสะอาดผมหรือใบหน้า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไหลมาสัมผัสกับผิวบริเวณหน้าผากได้มากและอาจก่อให้เกิดสิวเห่อขึ้นได้
6. ความเครียด
ความเครียดและการนอนดึกจะส่งผลทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่มีผลกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้มีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น และเกิดเป็นสิวในที่สุด
7. ปัญหาจากระบบย่อยอาหาร
สิวที่หน้าผาก บอกโรคได้ว่าคุณอาจมีปัญหากับระบบย่อยอาหาร ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือให้เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีไฟเบอร์ ช่วยในการย่อยได้มากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ รวมทั้งลดการรับประทานอาหารก่อนเข้านอนประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เป็นจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น และลดการเกิดสิวบนหน้าผากได้ด้วย
สิวที่หน้าผาก รักษายังไงดี
1. ใช้ยาทา
เมื่อพบว่ามีสิวขึ้นที่บริเวณหน้าผาก ก่อนนอนแนะนำให้ทายา Benzoyl peroxide ทิ้งไว้ประมาณ 5-15 นาที เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิว จากนั้นทายา Retinoic acid เพื่อละลายหัวสิว ทำแบบนี้ทุกวันจนสิวค่อย ๆ ยุบตัวลงจนแห้งสนิท ทั้งนี้ ควรใช้ยารักษาสิวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีสิวอักเสบด้วย อาจต้องใช้ยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย
2. ห้ามกดหรือบีบสิวที่หน้าผาก
หลีกเลี่ยงการกดหรือบีบสิวเอง เพราะจะทำให้สิวเกิดการอักเสบ และทิ้งรอยดำไว้ให้ปวดใจ
3. ทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกวิธี
ล้างหน้าให้สะอาด โดยเริ่มจากเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวด้วยคลีนเซอร์ จากนั้นล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้า หรือคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน สุดท้ายเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของสาว ๆ หรือใครจะใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าก็ได้ไม่ว่ากัน
![สิว]( "สิว")
4. ทำความสะอาดเส้นผมอยู่เสมอ
อย่างที่บอกว่าเส้นผมนั้นอาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค แบคทีเรียต่าง ๆ ได้ ยิ่งมีผมหน้าม้าก็ควรหมั่นทำความสะอาดเส้นผมให้บ่อยขึ้น หลังการออกกำลังกายก็ควรล้างหน้า สระผมเป็นประจำ เมื่อเส้นผมสะอาดก็จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและการอุดตันได้
5. เปลี่ยนยาสระผม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีสารระคายเคือง
หากมีการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน แล้วมีสิวขึ้นที่หน้าผาก ควรเปลี่ยนกลับเป็นผลิตภัณฑ์เดิมที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ หรือลองเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนมากขึ้น อย่างแชมพูเด็ก ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค หรือปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ทั้งหลาย เช่น ซิลิโคน แอลกอฮอล์ พาราเบน SLS Mineral Oils สีและน้ำหอมสังเคราะห์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเหล่านี้ก็จะช่วยลดการระคายเคืองและการแพ้ไปได้มากเลยทีเดียว
6. มาสก์ด้วยวุ้นว่านหางจระเข้
สำหรับใครที่เป็นสิวผดเม็ด ๆ กระจายอยู่ทั่วหน้าผาก ให้นำวุ้นจากว่านหางจระเข้มาสับให้ละเอียด แล้วทาลงบนบริเวณผิวที่เป็นผดผื่น ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยสามารถทำได้ทุกวัน วุ้นของว่านหางจระเข้นอกจากจะมีคุณสมบัติบรรเทาอาการคันแล้ว ยังช่วยให้ผดผื่นหายเร็วขึ้นด้วย
7. ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง
ควรงดการรับประทานอาหารหวาน ๆ หรือมีน้ำตาลสูง เช่น เค้ก ช็อกโกแลต มันฝรั่ง และขนมหวานต่าง ๆ เพราะอาหารที่มีน้ำตาลสูงจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวเพิ่ม
![สิว]( "สิว")
8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงการนอนดึกหรืออดนอน เพราะจะทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน ส่งผลให้เกิดสิวได้ง่าย
9. เปิดหน้าผากให้ได้หายใจ
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีผมหน้าม้า ควรหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้สิวมาเยี่ยมเยียน ด้วยการเปิดผมที่หน้าผากขึ้นบ้าง ซึ่งอาจใช้วิธีคาดผมรวบตึงหรือติดกิ๊บ เพื่อไม่ให้ผมปรกปิดหน้าผากตลอดเวลา และควรพกกระดาษทิชชู หรือกระดาษซับมัน ไว้คอยเช็ดซับความมันระหว่างวันอยู่เสมอ
10. หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัด
หลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน ๆ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดสิวผดได้ง่ายขึ้น อีกทั้งการใส่หมวกเป็นเวลานาน ๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่บริเวณหน้าผาก เนื่องจากทำให้ผิวบริเวณนั้นอับชื้น
วิธีป้องกันสิวที่หน้าผาก
นอกจากการรักษาแล้ว อย่าลืมดูแลผิวอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสิวที่หน้าผากกลับมาเยือนซ้ำอีก โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงรักษาความสะอาดของผิวหน้า เส้นผม และมืออยู่เสมอ รวมถึงควรทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ที่สัมผัสกับหน้าผากโดยตรงเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นผ้าคาดผม หมวก ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว นอกจากนี้สาว ๆ ควรเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันด้วย เพราะยิ่งทำให้ผิวมันและเป็นสิวได้ง่าย อาจใช้ครีมกันแดดแบบออยล์ฟรีเพื่อป้องกันอาการหน้ามันและปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ดีขึ้น และต้องล้างออกให้สะอาดเพื่อป้องกันสิวอุดตันตามมาค่ะ
เมื่อรู้จักวิธีรับมือสิวที่หน้าผากกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่สาว ๆ จะต้องลงมือปฏิบัติดูแลผิวให้ห่างไกลสิวด้วยตัวเองกันแล้วล่ะ รับรองว่าทำเป็นประจำได้ผลแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, healthstatus.com, medicalnewstoday.com
สิวที่หน้าผาก สาเหตุ เกิดจากอะไร ?
1. มีความมันส่วนเกินมากเกินไป
สิวขึ้นหน้าผาก อาจเกิดจากการที่ต่อมไขมันบริเวณทีโซนผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนอุดตันรูขุมขน และเกิดเป็นสิวที่หน้าผากตามมา ซึ่งความมันส่วนเกินเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผิวขาดความชุ่มชื้น สภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อปกป้องผิวไม่ให้เกิดอันตรายจากความร้อนและรังสียูวี
2. การอุดตันของสิ่งสกปรก
นอกจากความมันส่วนเกินแล้ว เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว อย่าง P. Acne และสิ่งสกปรกต่าง ๆ อย่าง คราบเครื่องสำอาง สารกันแดด ฝุ่นควัน และเหงื่อไคล ต่างก็ก่อให้เกิดสิวที่หน้าผากได้เช่นกัน หากล้างหน้าไม่สะอาดหรือมีสิ่งสกปรกเหล่านี้หลงเหลืออยู่บนใบหน้า ก็จะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดเป็นสิวที่หน้าผากได้
3. การใช้มือสัมผัสหน้าผากบ่อยครั้ง
รู้ไหมว่ามือของเราที่ไปจับสิ่งของต่าง ๆ มาตลอดทั้งวัน อาจจะมีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกอยู่ ซึ่งหากใครมีพฤติกรรมชอบเอามือเสยผม หรือสัมผัสผิวบริเวณหน้าผากบ่อย ๆ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวหน้าผากได้เช่นเดียวกัน
4. เส้นผม หมวก และผ้าโพกศีรษะที่ไม่สะอาด
หากสาวคนไหนไว้ผมหน้าม้าปรกหน้าผาก หรือชอบใส่หมวก ผ้าคาดผม เป็นประจำ สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนเส้นผมหรือสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เมื่อสัมผัสกับหน้าผากแล้ว จะทำให้เกิดการอุดตันตามรูขุมขน และเป็นสาเหตุให้เกิดสิวตามมา
สาเหตุอันดับแรก ๆ ของการเป็นสิวที่หน้าผากก็คือการแพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีมนวดผม เซรั่มบำรุงผม ตลอดจนสกินแคร์ต่าง ๆ เพราะเวลาที่เราทำความสะอาดผมหรือใบหน้า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไหลมาสัมผัสกับผิวบริเวณหน้าผากได้มากและอาจก่อให้เกิดสิวเห่อขึ้นได้
6. ความเครียด
ความเครียดและการนอนดึกจะส่งผลทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่มีผลกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้มีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น และเกิดเป็นสิวในที่สุด
7. ปัญหาจากระบบย่อยอาหาร
สิวที่หน้าผาก บอกโรคได้ว่าคุณอาจมีปัญหากับระบบย่อยอาหาร ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือให้เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีไฟเบอร์ ช่วยในการย่อยได้มากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ รวมทั้งลดการรับประทานอาหารก่อนเข้านอนประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เป็นจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น และลดการเกิดสิวบนหน้าผากได้ด้วย
1. ใช้ยาทา
เมื่อพบว่ามีสิวขึ้นที่บริเวณหน้าผาก ก่อนนอนแนะนำให้ทายา Benzoyl peroxide ทิ้งไว้ประมาณ 5-15 นาที เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิว จากนั้นทายา Retinoic acid เพื่อละลายหัวสิว ทำแบบนี้ทุกวันจนสิวค่อย ๆ ยุบตัวลงจนแห้งสนิท ทั้งนี้ ควรใช้ยารักษาสิวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีสิวอักเสบด้วย อาจต้องใช้ยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย
2. ห้ามกดหรือบีบสิวที่หน้าผาก
หลีกเลี่ยงการกดหรือบีบสิวเอง เพราะจะทำให้สิวเกิดการอักเสบ และทิ้งรอยดำไว้ให้ปวดใจ
3. ทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกวิธี
ล้างหน้าให้สะอาด โดยเริ่มจากเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวด้วยคลีนเซอร์ จากนั้นล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้า หรือคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน สุดท้ายเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของสาว ๆ หรือใครจะใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าก็ได้ไม่ว่ากัน
อย่างที่บอกว่าเส้นผมนั้นอาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค แบคทีเรียต่าง ๆ ได้ ยิ่งมีผมหน้าม้าก็ควรหมั่นทำความสะอาดเส้นผมให้บ่อยขึ้น หลังการออกกำลังกายก็ควรล้างหน้า สระผมเป็นประจำ เมื่อเส้นผมสะอาดก็จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและการอุดตันได้
5. เปลี่ยนยาสระผม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีสารระคายเคือง
หากมีการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน แล้วมีสิวขึ้นที่หน้าผาก ควรเปลี่ยนกลับเป็นผลิตภัณฑ์เดิมที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ หรือลองเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนมากขึ้น อย่างแชมพูเด็ก ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค หรือปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ทั้งหลาย เช่น ซิลิโคน แอลกอฮอล์ พาราเบน SLS Mineral Oils สีและน้ำหอมสังเคราะห์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเหล่านี้ก็จะช่วยลดการระคายเคืองและการแพ้ไปได้มากเลยทีเดียว
6. มาสก์ด้วยวุ้นว่านหางจระเข้
สำหรับใครที่เป็นสิวผดเม็ด ๆ กระจายอยู่ทั่วหน้าผาก ให้นำวุ้นจากว่านหางจระเข้มาสับให้ละเอียด แล้วทาลงบนบริเวณผิวที่เป็นผดผื่น ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยสามารถทำได้ทุกวัน วุ้นของว่านหางจระเข้นอกจากจะมีคุณสมบัติบรรเทาอาการคันแล้ว ยังช่วยให้ผดผื่นหายเร็วขึ้นด้วย
7. ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง
ควรงดการรับประทานอาหารหวาน ๆ หรือมีน้ำตาลสูง เช่น เค้ก ช็อกโกแลต มันฝรั่ง และขนมหวานต่าง ๆ เพราะอาหารที่มีน้ำตาลสูงจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวเพิ่ม
หลีกเลี่ยงการนอนดึกหรืออดนอน เพราะจะทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน ส่งผลให้เกิดสิวได้ง่าย
9. เปิดหน้าผากให้ได้หายใจ
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีผมหน้าม้า ควรหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้สิวมาเยี่ยมเยียน ด้วยการเปิดผมที่หน้าผากขึ้นบ้าง ซึ่งอาจใช้วิธีคาดผมรวบตึงหรือติดกิ๊บ เพื่อไม่ให้ผมปรกปิดหน้าผากตลอดเวลา และควรพกกระดาษทิชชู หรือกระดาษซับมัน ไว้คอยเช็ดซับความมันระหว่างวันอยู่เสมอ
10. หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัด
หลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน ๆ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดสิวผดได้ง่ายขึ้น อีกทั้งการใส่หมวกเป็นเวลานาน ๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่บริเวณหน้าผาก เนื่องจากทำให้ผิวบริเวณนั้นอับชื้น
วิธีป้องกันสิวที่หน้าผาก
นอกจากการรักษาแล้ว อย่าลืมดูแลผิวอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสิวที่หน้าผากกลับมาเยือนซ้ำอีก โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงรักษาความสะอาดของผิวหน้า เส้นผม และมืออยู่เสมอ รวมถึงควรทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ที่สัมผัสกับหน้าผากโดยตรงเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นผ้าคาดผม หมวก ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว นอกจากนี้สาว ๆ ควรเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันด้วย เพราะยิ่งทำให้ผิวมันและเป็นสิวได้ง่าย อาจใช้ครีมกันแดดแบบออยล์ฟรีเพื่อป้องกันอาการหน้ามันและปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ดีขึ้น และต้องล้างออกให้สะอาดเพื่อป้องกันสิวอุดตันตามมาค่ะ
เมื่อรู้จักวิธีรับมือสิวที่หน้าผากกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่สาว ๆ จะต้องลงมือปฏิบัติดูแลผิวให้ห่างไกลสิวด้วยตัวเองกันแล้วล่ะ รับรองว่าทำเป็นประจำได้ผลแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, healthstatus.com, medicalnewstoday.com
