ภรรยาไพโรจน์ ใจสิงห์ เผยทั้งน้ำตา ยันสามีป่วยจริง โต้ลวงเงินบริจาค

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการปากโป้ง, รายการปากโป้ง โพสต์โดย คุณ CH8vdo คุณสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          กลายเป็นข่าวที่สร้างความตกใจให้กับหลาย ๆ คนไม่น้อย เมื่อนักแสดงรุ่นใหญ่อารมณ์ดีอย่าง "ไพโรจน์ ใจสิงห์" อายุ 73 ปี ป่วยหนักจนร่างกายซูบผอม จากคนที่เคยร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ตอนนี้น้ำหนักลดเหลือเพียง 65.5 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งข่าวนี้ก็ทำให้ดารานักแสดงที่เคยร่วมงาน รวมไปถึงแฟนละครออกอาการเป็นห่วงเป็นอย่างมาก และได้ช่วยกันระดมเงินช่วยเหลือครอบครัวของอาไพโรจน์ พร้อมทั้งเป็นกำลังใจอย่างมากมาย

          แต่ภายหลังก็มีกระแสข่าวจากลูก ๆ ของอาไพโรจน์ออกมาว่า จริง ๆ แล้วคุณพ่อไม่ได้ป่วยหนัก และไม่ขอรับเงินบริจาค ขอเพียงแค่กำลังใจเท่านั้น จึงทำให้หลาย ๆ คนสงสัยว่า เรื่องราวข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะมีบางกระแสข่าวเม้าท์แรงว่า ครอบครัวของอาไพโรจน์ใช้อาการป่วยเพื่อฉวยโอกาส

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางรายการปากโป้ง จึงได้เชิญ คุณโซติรส ใจสิงห์ (นก) ภรรยาของอาไพโรจน์ มาเคลียร์ทุกประเด็นข่าวให้ได้ทราบกัน


          โดยคุณนก กล่าวว่า พี่โรจน์ป่วยตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2555 ซึ่งในวันนั้นพี่โรจน์แต่งตัวจะไปตีกอล์ฟ แต่เมื่อตนถามว่าจะไปตีที่ไหน พี่โรจน์กลับลิ้นแข็งเหมือนพยายามจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก ตนก็ตกใจพาไปนั่งแล้วก็ให้ทานน้ำ แต่เมื่อทานไปน้ำก็ไหลออกมาหมด เลยรีบพาไปโรงพยาบาลในทันที

          "อาการป่วยของพี่โรจน์คือเส้นเลือดตีบ ความดันขึ้นสูงถึง 240 คุณหมอบอกว่าพี่โรจน์เส้นเลือดแตกหลายเส้นแล้ว แต่เป็นเส้นที่ไม่สำคัญเลยไม่มีอาการ แต่ครั้งนี้เส้นเลือดทางฝั่งซีกซ้ายมันตีบ และหัวใจโต ต่อมลูกหมากโต มีหลายโรครุมเร้าทั้งคอเลสเตอรอลสูง โรคไต ทำให้น้ำหนักตัวลดลงกว่า 20 กิโล" คุณนก กล่าว

          หลังจากที่ทราบผล พี่โรจน์ก็รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 10 วัน แล้วก็พามารักษาตัวที่บ้านตามอาการ ซึ่งอาการก็มีขึ้นมีลง บางครั้งกลางคืนเขาจะเข้าห้องน้ำ แต่ไม่อยากเรียกเรา ก็เลยลุกไปห้องน้ำเอง แต่ปรากฏทรุดอยู่ข้างเตียง แล้วเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว อาการของพี่โรจน์ทรุดมาก ระบบขับถ่ายอะไรควบคุมไม่ได้เลย ทั้งนี้เป็นเพราะเส้นประสาททำงานไม่ได้ มันผิดปกติ...

          "ถ้าถามว่าพี่โรจน์ท้อไหม เขาเป็นคนไม่ค่อยแสดงอาการ แต่ก็มีพูดบ้างว่า.. แก่แล้วเนอะ ไม่มีใครจ้างแล้วเนอะ แล้วแกก็ไม่ค่อยกินยา บางครั้งก็บอกว่า ให้มันตาย ๆ ไปเหอะ จะได้ไม่ต้องลำบากกัน" คุณนก กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ


          ทางด้านพิธีกร หนุ่ม กรรชัย กล่าวถึงอาการของนักแสดงอาวุโส หลังจากที่ไปเยี่ยมว่า ตนเห็นจุดที่ไม่น่าสบายใจ 2 จุด คือจุดแรกเลยอาไพโรจน์พูดไม่ค่อยชัดแล้ว แล้วก็มีสายต่อท่อปัสสาวะ ส่วนอันที่สองคือกล้ามเนื้อตรงขาเหลวมาก ๆ บีบเข้าไปเหมือนบีบฟองน้ำ ด้าน คุณนก กล่าวว่า ที่พูดไม่ชัดเพราะเส้นประสาททำงานไม่ปกติ ส่วนที่ต่อสายท่อปัสสาวะเพราะพี่โรจน์ฉี่ไม่ออก สำหรับขานั้นก็เหลว ๆ เนื่องจากไม่ได้เดิน ไม่ได้ออกกำลังกาย เลยทำให้กล้ามเนื้อมันหายไป แต่ตอนนี้ก็พยายามทำกายภาพบำบัดกันอยู่

          เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่บอกว่าอาไพโรจน์ไม่ได้ป่วยจริง และครอบครัวคุณนกฉวยโอกาสเอาเงินไปใช้ ซึ่งเรื่องนี้คุณนกชี้แจงว่า ก็อย่างที่เห็นว่าป่วยจริงไหม คุณหนุ่ม กรรชัย ไปเยี่ยมก็เห็นว่าป่วยหรือเปล่า แต่เรื่องนี้ก็เป็นมุมมองของแต่ละคน


          "ตั้งแต่พี่โรจน์ป่วย ป่วยมานานแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว เราก็ไม่เคยออกมาพูดกับสื่ออะไร เพราะพี่โรจน์บอกไว้เสมอว่าอย่าไปกวนใคร ตอนแรกเข้าโรงพยาบาล 10 วันเมื่อปีที่แล้วไม่มีใครรู้ แต่พอระยะหลังที่ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล 5 วัน มีอาต้อย เศรษฐา รู้ เขาก็เลยบอกเพื่อน ๆ นักแสดงให้ได้ทราบกัน คราวนี้เมื่อทางช่องรู้ ซึ่งทางช่องก็มีเลขที่บัญชีของพี่โรจน์อยู่แล้ว ก็เลยโอนเข้ามา ส่วนพี่น้องนักแสดงทั้งหลายที่รักและเคารพพี่โรจน์เขาก็มาช่วยเหลือ" คุณนก กล่าว


          คุณนก กล่าวต่อไปว่า ตนเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย พี่โรจน์มีลูกทั้งหมด 9 คน เป็นลูกที่เกิดจากตน 2 คน คือน้องไวท์ กับน้องคอปเตอร์ ถ้าถามว่ามีกี่ภรรยาตนก็ไม่ทราบ ตลอดเวลาที่ผ่านมาตนก็เป็นแม่บ้าน แต่ก็มีออกทุนให้คนพิการขายลอตเตอรี่บ้าง พอพี่โรจน์ป่วยก็เอาเงินเก็บของพี่โรจน์และเงินทุนของตนมาจ่ายค่ารักษา

          "เราเป็นแม่บ้านและที่ผ่านมาพี่โรจน์ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำงานมาโดยตลอด พอพี่โรจน์ป่วย ก็มีเรา น้องไวท์ น้องคอปเตอร์ และเจี๊ยบ ลูกสาวคนโตของพี่โรจน์ที่ดูแล บางครั้งตอนที่ขัดสนก็มีโทรไปหยิบยืมน้องเจี๊ยบบ้าง ส่วนมากจะเป็นค่ายาที่หาเงินไม่ทันจ่าย ซึ่งน้องเจี๊ยบก็ให้มาตลอด แต่ก่อนที่จะไปขอความช่วยเหลือจากน้องเจี๊ยบ แปลว่าเราสุด ๆ แล้วเหมือนกัน หาเงินที่ไหนไม่ได้แล้ว แต่พอเรามีเงิน ซึ่งได้จากงานขายอาหารเสริมบ้างเล็กน้อยก็เอาไปคืนเขา เพราะเขาก็มีภาระเหมือนกัน"

          คุณนก ยืนยันว่า ที่ผ่านมามีเพียง 4 คน คือตนลูกของตน 2 คน และน้องเจี๊ยบเท่านั้นที่ช่วย ส่วนลูกชายที่อยู่ จ.ระยอง นั้น ก็มาเยี่ยมเมื่อตอนพี่โรจน์เข้าโรงพยาบาลครั้งแรก และครั้งล่าสุดเท่านั้น

          ขณะที่ หนุ่ม กรรชัย บอกว่า ทุกคนถือว่าเป็นลูกเป็นหลานของอาไพโรจน์ทั้งนั้น ก็เลยอยากจะช่วยเหลือ ส่วนแฟน ๆ ละครที่ทราบข่าวก็อยากจะช่วยเหลือ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา อาไพโรจน์ได้มอบความสุขและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนมาเป็นเวลานาน แต่พอมีข่าวออกมาแบบนี้หลายคนก็เลยลังเลที่จะช่วยเหลือ


          คุณนก บอกว่า ข่าวที่ออกไปนั้นกระทบจิตใจพี่โรจน์มากเหมือนกัน เขาบอกว่าเรื่องนี้มันจะเสียผู้ใหญ่กันหมด ผู้ใหญ่เขามีน้ำใจบริจาคมา และก็เครียดกับเรื่องนี้มากจนความดันขึ้น ตนไม่อยากให้แกเครียดเลย กลัวแกจะ...ความดันขึ้น แล้วจะเป็นหนักกว่านี้ (ร้องไห้)

          "พี่โรจน์ฝากขอบคุณแฟนละครและนักแสดงทุกคน ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แกรู้สึกชื่นใจและมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป สำหรับกระแสข่าวที่บอกว่าบ้านเราขัดสนจนลูกคนเล็กน้องคอปเตอร์ต้องดรอปเรียนนั้น จริง ๆ แล้วตนไม่ทราบข่าวมาก่อน พอเปิดเทอมใหม่ตนก็ถามลูกเรื่องค่าเรียน แต่ลูกบอกว่า แม่จะรับภาระไหวเหรอ เลยขอดรอปเรียนเพื่อดูแลพ่อก่อน" คุณนก กล่าว

          ท้ายนี้ พิธีกร หนุ่ม กรรชัย ยืนยันว่า ใครที่อยากจะสมทบทุนช่วยค่ารักษานักแสดงขวัญใจคนนี้ ก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชี ไพโรจน์ ใจสิงห์ ธนาคารกรุงเทพ  สาขา แคราย เลขที่บัญชี 188-0-42596-0 

          กระปุกดอทคอมก็ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัว และ ไพโรจน์ ใจสิงห์ ด้วยนะคะ ขอให้อาการดีวันดีขึ้น แข็งแรงไว ๆ จะได้กลับมาสร้างรอยยิ้มและเสียหัวเราะให้ทุก ๆ คนได้อีกครั้ง สู้สู้ !