เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการตีสิบ โพสต์โดยคุณ tvthaichannel สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
หญิงลี ศรีจุมพล สาวลำซิ่งสุดฮอตของวงการ ขอเคลียร์คิวทองมานั่งเปิดใจชีวิตส่วนตัวแบบอารมณ์ดีสุด ๆ ในรายการตีสิบ
"...ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝาก หัวใจ ลงทะเบียนฝากไว้ตัวเอากลับไป ใจให้เก็บรักษา..." เอ...ช่วงนี้เดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่เพลงฮิตติดหูของ "หญิงลี ศรีจุมพล" สาวลำซิ่งสุดเซ็กซี่เจ้าของท่าเต้นเด้งอก แล้วจะไม่ให้เธอกลายเป็นสาวลูกทุ่งคิวฮอตไปได้อย่างไรล่ะ แต่ถึงจะคิวทองแค่ไหน เสี่ยวีที แห่งรายการตีสิบ ก็ขอตัว "หญิงลี ศรีจุมพล" มาพูดคุยกันจนได้ ตามไปชมรายการตีสิบที่ออกอากาศในคืนวันอังคารที่ 11 กันยายน 2556 กันเลย
เห็นสวยเป๊ะขนาดนี้ ชักอยากรู้ประวัติของ หญิงลี ศรีจุมพล เสียแล้วสิ เธอก็เลยขอแนะนำตัวเองเป็นกลอนลำเดิน 3 ช่า ซะเลย ทำให้แฟนเพลงรู้ว่าเธอเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ แถมหัวใจยังว่างด้วยล่ะ
และต้องยอมรับเลยว่า หญิงลี ตอนนี้กลายเป็นนักร้องลูกทุ่งสุดฮอตของวงการไปอีกคนแล้ว เพราะมีงานโชว์ตัวมากกว่า 30 งานใน 1 เดือน แถมยอดวิวเพลง "ขอใจแลกเบอร์โทร" ในเว็บไซต์ยูทูบยังพุ่งทะลุ 30 ล้านวิวเข้าไปแล้ว ซึ่งเธอก็บอกว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะทางค่ายแกรมมี่โกลด์ โปรโมทเพลงนี้ดี และแดนเซอร์ในมิวสิควิดีโอก็เต้นกันกระจาย คนก็เลยคลิกเข้าไปชมกันเพียบ ทำให้ท่าเต้นเพลงนี้ระบาดไปทั่วเลย
แต่เชื่อหรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว เพลงนี้ตอนแรกจะไม่ได้อยู่ในอัลบั้มชุดนี้ด้วยซ้ำ แต่เป็นความบังเอิญต่างหาก ซึ่ง หญิงลี ก็เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่เธอจะเข้ามาอยู่แกรมมี่โกลด์ เธอก็เป็นหมอลำซิ่งรับจ้างทั่วไป ใช้ฉายาว่า "ลำซิ่งเมียงู" พอได้มาเทสต์ที่แกรมมี่ เธอก็นำเพลง "ลำซิ่งเมียงู" มาทดสอบ แล้วเดิมทีเพลงนี้จะถูกนำมารวมอยู่ในอัลบั้มชุดนี้ด้วย แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ไม่ได้ถูกคัดเลือกมา เพราะทางผู้ใหญ่มองว่าอาจจะไม่เหมาะสมหากนำเพลงนี้มาโปรโมท ก็เลยสั่งให้หญิงลีไปเขียนเพลง "เฒ่าหัวงู" เพิ่มมาใหม่
พอได้เพลง "เฒ่าหัวงู" มาแล้ว ทางผู้ใหญ่ก็เห็นว่าถ้ามีเพลง "ลำซิ่งเมียงู" ด้วย มันก็จะซ้ำกันมากไป ก็เลยจะให้เพลงลำซิ่งเมียงูไปอยู่ในอัลบั้มหน้าแทน ทีนี้ในอัลบั้มทั้งหมดจึงเหลือแค่ 9 เพลง ขาดไป 1 เพลง ทางผู้ใหญ่ก็เลยหาเพลงอื่นเข้ามาเพิ่มให้ด่วน ซึ่งนั่นก็คือเพลง "ขอใจแลกเบอร์โทร" นั่นเอง เป็นเพลงที่สิบ แต่พอภาพและเสียงจากการถ่ายมิวสิควิดีโอออกมา ทางผู้ใหญ่ ๆ และพี่ ๆ ในแกรมมี่กลับลงความเห็นว่าชอบเพลงนี้ที่สุด เพราะดนตรีฟังง่าย เนื้อหาเป็นภาษากลาง แถมท่าเต้นยังถูกใจ สุดท้ายก็เลือกเพลงนี้มาโปรโมท
บทคนละดังยังไงก็ต้องดัง เพราะในที่สุดแล้วเพลง "ขอใจแลกเบอร์โทร" กลับส่งให้หญิงลีดังเป็นพลุแตกอยู่ตอนนี้ และต้องบอกว่าตัวเธอเองชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กแล้ว ครั้งแรกก็ตอนอายุ 14 ปี ที่ไปรับจ้างเป็นนักร้องลูกทุ่งหมอลำตามวงต่าง ๆ ซึ่งตอนแรกคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ค่อยอยากให้ทำงานอย่างนี้ เพราะคนมองว่าเป็นพวกเต้นกินรำกินจะเรียนไม่จบเอา หรือไม่ก็อาจจะมีแฟนก่อนเรียนจบ แต่สุดท้ายเธอก็พิสูจน์ตัวเองด้วยการเรียนจนจบ ม.6 ได้สำเร็จ
แม้ว่า หญิงลี จะชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่น่าเชื่อว่าเธอกลับมีความฝันที่จะเป็นแค่สาวโรงงาน อย่างที่เห็นญาติ ๆ ทำงานนี้ เพราะเธอมองว่าตัวเองเรียนหนังสือไม่เก่ง จะไปเป็นครู เป็นอะไรก็ไม่ได้ ก็เลยอยากจะเป็นสาวโรงงาน ทำงานในช่วงกลางวัน เผื่อจะได้มีเงิน มีโบนัสกับเขาบ้าง ส่วนกลางคืนก็จะมีเวลาไปรับจ้างร้องเพลงต่อได้อีก และในที่สุดความฝันก็เป็นจริงอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอได้ทำงานในโรงงาน แต่สักพักหนึ่งก็ต้องออกมา เพราะหญิงลีมีงานร้องเพลงเข้ามามาก เลยตัดสินใจออกมาร้องเพลงอย่างเดียวดีกว่า
ชีวิตที่ผ่านมาของหญิงลีก่อนจะมาถึงวันนี้ ต้องบอกว่าทำอะไรไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ไม่ว่าจะลงทุนทำอะไรก็เจ๊ง ตั้งแต่อัลบั้มแรกที่มีเพลงชื่อ "บ่ยั่นบาป" ออกมา ถือว่าดังอยู่ในแถบอีสาน แต่ต่อมาก็ถูกแบน เพราะเนื้อหาดูหมิ่นเหม่ต่อศีลธรรม เธอก็เลยกลับมาลำซิ่งต่อ จนเก็บเงินได้ส่วนหนึ่งก็เลยนำมาลงทุนทำค่ายเพลงเอง แต่ก็เจ๊งอีก ต่อมาก็มาทำวงดนตรีเอง ลงทุนเรื่องเครื่องเสียงเอง โดยขอยืมเงินพ่อแม่มาช่วยด้วยจนเป็นหนี้เป็นสิน ลำบากอยู่ประมาณ 2-3 ปี สุดท้ายก็ต้องยุบวง
ความคิดที่จะทำธุรกิจของหญิงลียังไม่จบแค่นั้น เมื่อมีหมอดูทักเธอมาว่าทำอะไรก็รวย ทำอะไรก็สำเร็จ ให้ลงทุนเลย เธอก็เลยลงทุนเปิดร้านเสริมสวยอีก พ่วงด้วยขายตรง แต่ก็ไปไม่รอดอีก แล้วก็เริ่มท้อบ้าง คิดถึงบ้านบ้าง เหงาบ้าง ทะเลาะกับน้องชายด้วย สุดท้ายก็เลยเลิกทำธุรกิจหมด
แต่ในเมื่อชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป หญิงลี เมื่อเลิกทำธุรกิจก็หันไปรับจ้างเป็นหมอลำซิ่งอย่างเต็มตัว แต่เธอก็ยังอัดเสียงใส่เทปฝากไปให้ทุกค่ายเพลงพิจารณา เพื่อจะได้ก้าวขึ้นไปเป็นนักร้อง กระทั่งวันหนึ่งอาจารย์สวัสดิ์ สารคาม โทรมาถามว่าเธอยังลำซิ่งอยู่ไหม ทางค่ายแกรมมี่โกลด์อยากจะทำหมอลำซิ่ง ตอนแรกเธอก็แปลกใจว่าค่ายนี้จะทำหมอลำซิ่งด้วยหรือ แต่ก็ดีใจมากถ้าจะได้เข้าแกรมมี่ เลยบอกคุณสมบัติของตัวเองไปว่าตัวเองไม่ติดสัญญากับค่ายไหน เสียงก็โอเค รูปร่างหน้าตาก็ยังได้นะ เพราะยังไม่มีลูกมีผัว (หัวเราะ) อยู่หน้าเวทีก็เอาอยู่ เพราะขึ้นมาหลายร้อยเวทีแล้ว แถมยังมีความสุขมาก ๆ ที่ได้ถ่ายทอดเสียงเพลงบนเวที จนในที่สุดก็ได้เข้าแกรมมี่โกลด์
หญิงลี บอกว่าวันแรกที่เดินเข้าตึกแกรมมี่เธอแต่งชุดหมอลำซิ่งไปเต็มยศ จนคนในตึกฮือฮามามุงดูกันเต็ม (หัวเราะ) ซึ่งเธอรู้สึกมีความสุขมาก ไม่ต้องเหงาอีกแล้ว แต่เมื่อเข้ามาวงการเต็มตัวแล้ว ก็ไม่ค่อยได้กลับไปเจอพ่อแม่เท่าไรเลย ยกเว้นวันไหนไปออกงานใกล้บ้าน ก็จะแวะไปหาพ่อแม่ที่บ้าน หรือบางทีถ้าเธอปลีกตัวไปไม่ได้ก็จะโทรนัดพ่อแม่ให้ออกมาหาหน่อย เพราะคิดถึงมาก
เห็นนักร้องสาวบ่นคิดถึงคุณแม่หลาย ๆ ทางรายการก็เลยเชิญคุณแม่บุญล้อม ศรีจุมพล มาเซอร์ไพรส์หญิงลีซะเลย ทำเอาหญิงลีน้ำตาซึมที่ได้เจอคุณแม่ ฟากคุณแม่ก็คิดถึงลูกสาวคนนี้มาก ๆ เล่าให้ฟังว่า เวลาคิดถึงลูกก็จะหยิบแผ่นซีดีเพลงมาเปิดดู แต่ถ้าคิดถึงมาก ๆ ก็จะเอามือไปลูบโปสเตอร์ของหญิงลีที่ติดอยู่ในบ้านแล้วบอกว่า วันนี้แม่คิดถึงนะ ก็จะทำแบบนี้บ่อย ๆ ไม่อยากโทรศัพท์ไปรบกวนลูก อยากให้ลูกพักผ่อนมาก ๆ เพราะไม่ค่อยได้นอน เลยจะโทรแค่สัปดาห์ละครั้ง
เช่นเดียวกับหญิงลีที่รักและคิดถึงคุณพ่อคุณแม่มาก ๆ บอกเสมอว่ายังไงพ่อแม่ก็ต้องมาก่อน และก็อยากให้แม่ไปเห็นเธอโชว์หน้าเวทีสักครั้ง จะได้เห็นว่าเธอมีแฟนเพลงมากขนาดไหน พร้อมกันนี้ หญิงลี ก็ได้โชว์เพลง "หญิงลั้ลลา" ที่กำลังดังตามเพลงขอใจแลกเบอร์โทรมาติด ๆ ให้ได้ฟังกัน โดยเธอบอกว่าเพลงนี้เธอแต่งขึ้นมาจากตัวตนของเธอเองที่เป็นผู้หญิงลั้ลลาสุด ๆ
เห็นหญิงลีนั่งเปิดใจจนหมดเปลือกในวันนี้แล้ว ยอมรับเลยว่าเธอเป็นคนสู้ชีวิตจริง ๆ เพราะกว่าจะกลายมาเป็นสาวลำซิ่งสุดฮอตในยุคนี้ได้ "หญิงลี ศรีจุมพล" ต้องล้มลุกคลุกคลานมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เพราะความเป็นคนมองโลกในแง่ดี ประกอบกับมีความมุมานะและพยายาม ในที่สุดเธอก็สามารถเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายทั้งมวลมาได้สำเร็จ