สูตรหมักผมสมุนไพร 7 วิธีทำให้ผมสวยแบบไทยแท้ ๆ แถมไม่พึ่งสารเคมี งานนี้เตรียมบอกลาผมแห้งเสีย แล้วรอชมผมดกดำ เงางาม และนุ่มน่าสัมผัสกันได้เลย
กลายเป็นกระแสฮอตในโลกโซเชียลเลยทีเดียว เมื่อละคร ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง เผยโฉมหน้าของ แม่ผ่อง ที่ใคร ๆ ต่างพากันเรียกว่า อีหมาเน่า เป็นครั้งแรก เรียกว่าจากคนเผ้าผมรุงรังดูไม่ได้ กลับกลายเป็นสาวงามสวยปิ๊ง เป๊ะปังตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม หลังจากได้ตำรายาสมุนไพรของทองเอกช่วยเอาไว้ จนชาวเน็ตต่างตามหาเคล็ดลับความสวยกันให้ควั่ก
แต่วันนี้ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนไกลแล้วค่ะ เพราะกระปุกดอทคอมมีสูตรหมักผมให้สวยเหมือนแม่ผ่องมาฝากถึงที่ และขอบอกเลยว่า สูตรหมักผมสมุนไพร แบบไทย ๆ นั้นยังมีอีกมากมายหลายวิธี แถมได้ผลลัพธ์ดีงามทั้งนั้น.. เอ้า ! ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ตามเราไปดูกันดีกว่าว่ามีสมุนไพรพื้นบ้านอะไรบ้าง ที่ช่วยให้ผมสลวยสวยเงางาม งานนี้บอกลาสปาผมและแชมพูแพง ๆ ไปได้เลย
1. มะคำดีควาย+มะกรูด ฉบับแม่ผ่อง ทองเอกฯ
3. อัญชัน
เป็นที่รู้กันดีว่าสมุนไพรริมรั้วอย่างดอกอัญชัน จะถูกนำมาบดหรือผสมน้ำแล้วหยิบมาวาดไปตามแนวคิ้วหรือใส่ผม เพื่อช่วยให้นุ่มสลวยดกดำและเงางาม เนื่องจากสารแอนโทรไซยานินในดอกไม้ชนิดนี้ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของหลอดเลือด ช่วยบำรุงผมแห้งเสีย ขาดง่ายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
4. ว่านหางจระเข้
ถือเป็นสมุนไพรที่ปลูกง่าย หาง่าย และมากไปด้วยคุณประโยชน์ ในการรักษาโรคและบำรุงร่างกายส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกับเส้นผม สาว ๆ คนไหนที่ชื่นชอบการทำสีผมเจอเคมีจากการย้อม ดัด ยืดอยู่บ่อย ๆ ให้นำเนื้อว่านหางจระเข้ปั่นกับน้ำให้เข้ากัน นำมาหมักผมทิ้งไว้ 30 นาที อาจเติมไข่แดงหรือน้ำมันมะกอกลงไปนิดหน่อย แล้วล้างออก ทำเพียงอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เส้นผมก็จะกลับมานุ่มสลวยเหมือนเดิม
5. ตะไคร้
แม้จะคุ้นเคยกับการนำมาหั่นใส่ต้มยำทำแกงในอาหารไทยนานาชนิด แต่ใครจะรู้ว่าตะไคร้ยังสามารถนำมาใช้เป็นยาบำรุงดูแลเส้นผมได้ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผมแห้งแตกปลาย วิธีการคือ ให้ตัดตะไคร้สด 2-3 ต้น มาตำหรือปั่นกับน้ำให้ละเอียด จากนั้นจึงกรองเอาแต่น้ำแล้วนำนวดบำรุงให้ทั่วเส้นผมหลังสระ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที รับรองผมสลวยสวยเก๋ แถมยังเจือไว้ด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตะไคร้ด้วยล่ะ
6. ส้มป่อย
ก่อนการสระผมให้ลองใช้น้ำสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวอย่าง น้ำส้มป่อย มาล้างเส้นผม ด้วยการนำฝักส้มป่อยแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ 10-20 นาทีสารซาโปนินในส้มป่อยจะมีคุณสมบัติคล้ายกับสบู่เมื่อสัมผัสกับน้ำจะเกิดฟอง ซึ่งจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่เกาะติดอยู่บนเส้นผมได้เริ่ดเหมือนการดีท็อกซ์แบบพื้นบ้านดี ๆ นี่เอง
7. สมอไทย+มะขามป้อม
ดูแลเส้นผมให้นุ่มลื่น มีน้ำหนักมากขึ้นด้วยการใช้สมุนไพรไทยอย่าง สมอไทย 1 ส่วน ผสมกับมะขามป้อม 1 ส่วน ล้างให้สะอาดแล้วนำมาทอดในน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันทานตะวัน 2 ส่วน จนสมุนไพรเป็นสีเหลืองกรอบ ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วกรองด้วยผ้าขาว จากนั้นจึงนำน้ำมันมาหมักผมทิ้งไว้ 10-15 นาทีก่อนสระผม เท่านี้ก็ได้ผมนุ่มสลวยน่าสัมผัสแล้วล่ะค่ะ
นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับแก้ปัญหาผมเสียต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปเสียเงินเข้าซาลอน ทำสปาผมแพง ๆ เพียงนำสมุนไพรใกล้ตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เท่านี้ทุกคนก็มีผมสวยสุขภาพดี เสริมสง่าราศีให้ตัวเองไปอีกนาน...
แต่วันนี้ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนไกลแล้วค่ะ เพราะกระปุกดอทคอมมีสูตรหมักผมให้สวยเหมือนแม่ผ่องมาฝากถึงที่ และขอบอกเลยว่า สูตรหมักผมสมุนไพร แบบไทย ๆ นั้นยังมีอีกมากมายหลายวิธี แถมได้ผลลัพธ์ดีงามทั้งนั้น.. เอ้า ! ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ตามเราไปดูกันดีกว่าว่ามีสมุนไพรพื้นบ้านอะไรบ้าง ที่ช่วยให้ผมสลวยสวยเงางาม งานนี้บอกลาสปาผมและแชมพูแพง ๆ ไปได้เลย
1. มะคำดีควาย+มะกรูด ฉบับแม่ผ่อง ทองเอกฯ
ผลของ มะคำดีควาย หรือเรียกได้อีกชื่อว่า ประคำดีควาย มีสารซาโปนิน (Saponins) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียต่าง ๆ คนในสมัยโบราณจึงนิยมนำมาใช้เป็นสบู่ทำความสะอาดร่างกาย รวมถึงใช้รักษาโรคกลาก โรคเกลื้อน และเชื้อราบนหนังศีรษะ ส่วนมะกรูดมีสรรพคุณบำรุงรากผม ช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้น โดยนำผลมะกรูดไปย่างให้น้ำมันสกัดออกมา ก่อนนำเปลือกไปตำละเอียด แล้วนำมาผสมกับน้ำต้มผลมะคำดีควาย (ผลมะคำดีควาย 2-3 ผลต้มในน้ำเปล่า ½ ถ้วย) หลังจากนั้นนำมาชโลมทั่วศีรษะวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น รับรองได้ผมสุขภาพดี ไม่มีอาการคัน ไม่มันย่องแน่นอน
2. มะกรูด
ในมะกรูด 1 ผล มีแร่ธาตุและสารอาหารจำเป็นที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ และฟื้นฟูผมเสียทุกประการ ช่วยคืนความหนานุ่ม ให้ผมสวยมีน้ำหนักและเงางาม นอกจากนี้ยังช่วยปรับค่า pH ของเส้นผมที่มีความเป็นด่างจากการใช้แชมพูได้ เพียงนำน้ำมะกรูดผสมน้ำ นวดเบา ๆ ให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ นอกจากผมสวยแล้ว ยังช่วยบำรุงไม่ให้ผมหงอกก่อนวัยอีกด้วยนะคะ
เป็นที่รู้กันดีว่าสมุนไพรริมรั้วอย่างดอกอัญชัน จะถูกนำมาบดหรือผสมน้ำแล้วหยิบมาวาดไปตามแนวคิ้วหรือใส่ผม เพื่อช่วยให้นุ่มสลวยดกดำและเงางาม เนื่องจากสารแอนโทรไซยานินในดอกไม้ชนิดนี้ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของหลอดเลือด ช่วยบำรุงผมแห้งเสีย ขาดง่ายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ถือเป็นสมุนไพรที่ปลูกง่าย หาง่าย และมากไปด้วยคุณประโยชน์ ในการรักษาโรคและบำรุงร่างกายส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกับเส้นผม สาว ๆ คนไหนที่ชื่นชอบการทำสีผมเจอเคมีจากการย้อม ดัด ยืดอยู่บ่อย ๆ ให้นำเนื้อว่านหางจระเข้ปั่นกับน้ำให้เข้ากัน นำมาหมักผมทิ้งไว้ 30 นาที อาจเติมไข่แดงหรือน้ำมันมะกอกลงไปนิดหน่อย แล้วล้างออก ทำเพียงอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เส้นผมก็จะกลับมานุ่มสลวยเหมือนเดิม
แม้จะคุ้นเคยกับการนำมาหั่นใส่ต้มยำทำแกงในอาหารไทยนานาชนิด แต่ใครจะรู้ว่าตะไคร้ยังสามารถนำมาใช้เป็นยาบำรุงดูแลเส้นผมได้ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผมแห้งแตกปลาย วิธีการคือ ให้ตัดตะไคร้สด 2-3 ต้น มาตำหรือปั่นกับน้ำให้ละเอียด จากนั้นจึงกรองเอาแต่น้ำแล้วนำนวดบำรุงให้ทั่วเส้นผมหลังสระ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที รับรองผมสลวยสวยเก๋ แถมยังเจือไว้ด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตะไคร้ด้วยล่ะ
ก่อนการสระผมให้ลองใช้น้ำสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวอย่าง น้ำส้มป่อย มาล้างเส้นผม ด้วยการนำฝักส้มป่อยแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ 10-20 นาทีสารซาโปนินในส้มป่อยจะมีคุณสมบัติคล้ายกับสบู่เมื่อสัมผัสกับน้ำจะเกิดฟอง ซึ่งจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่เกาะติดอยู่บนเส้นผมได้เริ่ดเหมือนการดีท็อกซ์แบบพื้นบ้านดี ๆ นี่เอง
ดูแลเส้นผมให้นุ่มลื่น มีน้ำหนักมากขึ้นด้วยการใช้สมุนไพรไทยอย่าง สมอไทย 1 ส่วน ผสมกับมะขามป้อม 1 ส่วน ล้างให้สะอาดแล้วนำมาทอดในน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันทานตะวัน 2 ส่วน จนสมุนไพรเป็นสีเหลืองกรอบ ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วกรองด้วยผ้าขาว จากนั้นจึงนำน้ำมันมาหมักผมทิ้งไว้ 10-15 นาทีก่อนสระผม เท่านี้ก็ได้ผมนุ่มสลวยน่าสัมผัสแล้วล่ะค่ะ