เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เจินเจิน บุญสูงเนิน อดีตนักร้องเพศที่ 3 ชื่อดัง เคลียร์ข้อสงสัย หายไปไหนนานนับสิบปี พร้อมเผยชีวิตสุดขมขื่น ผิดหวังจากความรักครั้งแรกครั้งเล่า เชื่อ เป็นเพราะวิบากกรรม
สมัยนี้วงการบันเทิงบ้านเรามีศิลปินดารา-นักร้องข้ามเพศจำนวนไม่น้อย เนื่องจากสังคมเปิดโอกาสให้พวกเขาเหล่านั้นได้แสดงความสามารถกันมากขึ้น แต่ถ้าเป็นสัก 20 ปีก่อน แทบจะไม่มีศิลปินดาราคนไหนกล้าเปิดตัวว่าเป็นกลุ่มคนที่รักเพศเดียวกันเลย แต่สำหรับ "เจินเจิน บุญสูงเนิน" เจ้าของเพลงดังในอดีตอย่าง "ต้องสู้จึงจะชนะ" คือคนหนึ่งที่กล้าเปิดเผยว่าเป็นนักร้องข้ามเพศในยุคแรก ๆ ซึ่งเธอโด่งดังถึงขีดสุดในยุคนั้น ก่อนจะเงียบหายไปจากวงการ ท่ามกลางข่าวว่าเธอเผชิญกับมรสุมชีวิตมากมาย
รายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางช่องสตาร์แม็กซ์ จึงได้เชิญ เจินเจิน บุญสูงเนิน อดีตนักร้องดัง มาเปิดใจเคลียร์ชัด ๆ ว่าเธอหายไปไหนมา แล้วข่าวลือข่าวเม้าท์ทั้งหลายเป็นความจริงหรือไม่
งานนี้ เจินเจิน ก็เปิดใจเล่าว่า หลังจากหายไปจากวงการ เธอก็ไปอยู่กับพี่สาวที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็รับงานร้องเพลงตามรัฐต่าง ๆ แต่อยู่ลาสเวกัสมาได้สักพักอาการภูมิแพ้ก็กำเริบ เพราะที่ลาสเวกัสเป็นเมืองแอ่งกระทะ จะมีฝุ่นมากและฝุ่นนั้นจะวนเวียนอยู่ในเมือง อีกทั้งเธอยังแพ้ควันบุหรี่ด้วย เคยแพ้หนักจนถึงขั้นพูดไม่ได้ ไม่มีเสียง พอไปหาหมอ หมอก็ตรวจไม่พบว่าเป็นอะไร ก็จ่ายยาให้ทีละนิด ๆ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เธอหายป่วยเลย
และเพราะอาการป่วยนี้เอง ทำให้เจินเจินต้องยกเลิกรับงานร้องเพลงทั้งหมด เพราะไม่มีเสียง แต่มีอยู่งานหนึ่งซึ่งเป็นงานรวมตัวของนักธุรกิจจีนทั่วโลกที่เธอไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะหากยกเลิก คนจัดงานจะเสียหายมาก แต่ในช่วงเวลานั้น เจินเจิน บอกว่า เธอแทบไม่เหลือความเชื่อมั่นอยู่เลย และคิดว่าคงร้องเพลงไม่ได้แน่ เพราะแม้แต่จะพูดก็ยังไม่มีเสียงออกมา
แต่แล้ว เจินเจิน ก็คิดได้ว่า อาการป่วยของเธออาจเกิดจากวิบากกรรมก็เป็นได้ เพราะอาการแพ้ควันไม่น่าจะรุนแรงนานนับปีขนาดนี้ เธอจึงตัดสินใจไปอธิษฐานจิตขอบุญทั้งหลายที่เคยทำมาในทุก ๆ ชาติ ให้มารวมกันในวันนั้น เพื่อให้เธอสามารถร้องเพลงได้ และไม่น่าเชื่อว่าเธอจะสามารถร้องเพลงได้จริง ๆ และร้องได้จบทั้ง 12 เพลง
มาถึงวันนี้ เจินเจินกลับมาอยู่เมืองไทยได้ 4 ปีแล้ว และอาการภูมิแพ้ของเธอก็ดีขึ้นมาก ส่วนปัญหาเรื่องไม่มีเสียงนั้นก็หายเป็นปลิดทิ้ง ทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น แต่ถ้าถามถึงชีวิตรัก ดูเหมือนชีวิตรักของเธอจะรันทดไม่ต่างจากหลาย ๆ เพลงที่เธอร้องเลย เพราะที่ผ่านมาความรักของเธอมีแต่ความผิดหวัง ซึ่งเธอก็มองว่านี่คือวิบากกรรมเช่นกัน แม้กระทั่งกับความรักครั้งล่าสุดที่มีชายหนุ่มมาคุกเข่าสารภาพรัก ก็ยังทำให้เธอรู้สึกกลัวอยู่ลึก ๆ
"จริง ๆ แล้วกะเทยไม่ควรมีคู่ ควรจะอยู่เป็นโสด ถึงแม้ครั้งนี้เราจะมองว่ามันเป็นความรักที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราเคยมีก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นวิบากกรรมอยู่ดี"
ปัจจุบันนี้ อดีตนักร้องดังจึงหันมาพึ่งธรรมะ แม้จะมีคนมองว่า กะเทยทำให้ศาสนาแปดเปื้อน แต่เจินเจินก็ยืนยันว่าไม่จริง
"คือถ้าตัวเองไม่นับถือแล้วยังไปว่าคนอื่นแบบนี้ ตัวเขาเองจะเจอวิบากกรรมหนัก ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่อิสรเสรี เราไม่ได้ว่าศาสนาอื่นนะคะ ศาสนาพุทธเปิดโอกาสให้เราได้ศึกษาสิ่งที่เป็นจริงของชีวิต คุณต้องเรียนรู้และสัมผัสด้วยตัวเองว่ามันจริงอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสท่านสอนไว้ไหม" เจินเจิน ทิ้งท้าย
ติดตามชมการเปิดใจครั้งแรกแบบเต็ม ๆ ได้ในรายการ "คนดังนั่งเคลียร์" ออกอากาศวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2556 เวลา 07.00/10.00/16.00/20.00/23.00 น. ทางช่องสตาร์แม็กซ์ หมายเลข 12
