ใคร ๆ ต่างก็ยินดีและรู้สึกมีความสุขเมื่อมีคนเอ่ยปากชมตัวเองกันทั้งนั้น แต่การชมที่คุณเอ่ยออกมานั้นควรมาจากความรู้สึกของคุณจริง ๆ และที่สำคัญไม่ควรจะนำมาใช้พร่ำเพรื่อจนเกินไป มิเช่นนั้นคำชมอาจกลับมาทำร้ายตัวคุณเอง โดยเฉพาะคนที่กำลังเฟลิร์ตอยู่กับหนุ่มในฝัน หรือเพิ่งเริ่มต้นคบหาดูใจกันได้ไม่นาน และนอกเหนือจากนี้ควรจะหลีกเลี่ยงคำชมเหล่านี้ด้วย
ปกติแล้วผู้ชายไม่ค่อยรู้สึกดีกับว่าน่ารักสักเท่าไร เพราะเป็นคำที่น่าจะใช้กับผู้หญิงเสียมากกว่า และจะยิ่งรู้สึกหมดความมั่นใจหรือลดคุณค่าของสิ่งนั้นลง หากได้ยินคุณพยายามชมเขาว่าน่ารัก ทั้ง ๆ ที่คุณไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดหรือเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น คุณน่ารักจังเลยเวลาที่คุณใส่ขาเดฟ คุณน่ารักจังเลยเวลาที่คุณไว้หนวด ฉะนั้นควรเก็บคำนี้เอาไว้เมื่อมีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นกับเวลาที่คุณรู้สึกต้องการจะบอกจริง ๆ ดีกว่า
2. คุณแตกต่างกับชายในฝันมาก ๆ เลย
เชื่อว่าทุกคนต่างก็มีผู้ชายในฝันกันทั้งนั้น ซึ่งถ้าหากคุณต้องการจะบอกเรื่องนี้กับใครสักคนควรจะเป็นเพื่อน คนสนิท หรือใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่คนที่คนที่คุณกำลังเฟลิร์ตอยู่ เพราะถ้าหากคุณพูดออกไปอาจทำให้เขาทึกทักได้ว่าคุณคงไม่ได้รู้สึกจริงจังกับเขามากนัก ถ้าหากเขาไม่ได้เป็นคนที่คุณต้องการ หรือคิดว่าคุณน่าจะมีคนที่คบอยู่แล้ว แต่เลือกที่จะคุยกับเขาเฉพาะเวลาเหงาเท่านั้น
3. คุณมีบุคลิกดีจังเลย
หลายคนอาจจะคิดว่าคำพูดนี้จะทำให้เขารู้สึกดีกับคุณมากยิ่งขึ้น และดูเหมือนว่าเป็นคำชมที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ที่สุดแล้วก็เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น เพราะเมื่อถึงเวลาจริง ๆ คนส่วนใหญ่ที่พูดแบบนี้มักจะรู้สึกตรงกันข้าม แต่ที่ทำไปเพราะต้องการให้คนคนนั้นรู้สึกดีเท่านั้นเอง ซึ่งถึงแม้เขาจะไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยตา แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ด้วยความรู้สึก
4. ฉันจำคุณแทบไม่ได้เลย
ถ้าคุณกำลังเฟลิร์ตกับใครสักคนที่คุณเคยรู้จัก และรู้สึกตกตะลึงกับลุคที่เปลี่ยนไปอย่างมากของเขา คุณสามารถจะหยิบคำพูดนี้มาใช้ได้ ในกรณีที่คุณรวบรวมพิจารณาคำพูดมาอย่างดีแล้ว และคำชมของคุณมีผลในทางบวก แต่ไม่ดีแน่ ๆ หากคำพูดของคุณติดลบ ถึงแม้คุณกำลังชมอยู่ก็ตาม เช่น เสื้อผ้าของคุณไม่ดูสกปรกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เป็นต้น
5. ทำไมคุณยังไม่มีแฟนล่ะ ?
หากเขาเป็นคนไม่คิดอะไรมากก็ถือว่าเป็นเรื่องสำหรับคุณ แต่หากเจอกับคนที่ค่อนข้างคิดมากแล้ว การเฟลิร์ตครั้งนี้อาจล่มไม่เป็นท่าได้ เพราะบางคนไม่ต้องการจะพูดถึงอดีตมากนัก และการที่คุณถามก็ทำให้เขาต้องนึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่ทำให้เขารู้สึก ไม่ดี หรือรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง
6. ฉันรู้สึกเซอร์ไพรส์มากเลยที่คุณทำได้
ถ้าคุณต้องการชมความสามารถหรือสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนและไม่คิดว่าผู้ชายน่าจะทำได้ ควรจะเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ เพราะคำพูดนี้อาจจะฟังดูดีในความคิดของคุณ แต่กลับเป็นคำพูดที่ทำให้เขารู้สึกหมดความมั่นใจในความสามารถของตัวเอง งานอดิเรก หรือสิ่งที่ชอบทำเป็นประจำด้วย
7. คุณดูแตกต่างจากรูปในโปรไฟล์มากเลย
ไม่ว่าความจริงที่คุณเจออยู่ตรงหน้าจะเป็นอย่างไร ก็ควรเก็บเรื่องนี้เอาไว้พูดกับเพื่อนหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วดีกว่า เพราะเป็นคำชมที่ทำให้เขาคิดว่าคุณรู้สึกผิดหวังกับตัวเขามากกว่าจะรู้สึกว่าเขาดูดีอย่างที่คุณกำลังพยายาม จะบอกจริง ๆ
8. ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคุณเป็นผู้ชาย
มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยเลยที่มีลักษณะภายนอกคล้ายกับผู้หญิง จนทำให้ใครต่อใครเข้าใจผิดกันมาแล้ว ทั้งรูปร่าง หน้าตา หรือผิวพรรณ ซึ่งถ้าหากคุณกำลังเฟลิร์ตอยู่กับผู้ชายแบบนี้อยู่ก็ไม่ควรทำให้เขารู้สึกใกล้ชิดเป็นกันเองด้วยคำพูดเช่นนี้ เพราะไม่มีใครอยากจะโดนมองว่าคล้ายผู้หญิงสักเท่าไรหรอกนะ
9. คุณเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน
สาเหตุที่คุณไม่ควรชมเขาด้วยคำพูดแบบนี้ เพราะว่าเป็นเหมือนเส้นแบ่งระหว่างคนพิเศษกับเพื่อน และทำให้เขาคิดว่าเขาอาจเป็นเพียงเพื่อนคนหนึ่งของคุณเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วคุณไม่ได้หมายความตามคำพูด ซึ่งถ้าหากคุณอยากจะบอกให้เขารู้ว่า เขาอยู่ในสถานะไหน หรือเขาคะยั้นคะยอคำตอบจากคุณมาก ๆ ก็ควรจะพูดกับเขาให้ชัดเจนไปเลย ดีกว่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ค้างคาใจอย่างที่เป็นอยู่
หลังจากที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วสาว ๆ หลายคนอาจจะรู้สึกกังวลและทำให้ไม่กล้าเอ่ยปากชมเขาไปเลย เอาเป็นว่าขอแค่คุณมีความตั้งใจ จริงใจ และชมเขาแบบไม่ต้องใช้ความพยายาม แต่คำชมเหล่านั้นมาจากหัวใจกับความคิดของคุณจริง ๆ ก็พอ ที่สำคัญอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกคุณมีการพัฒนายิ่งขึ้นด้วยก็ได้