เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การมีผู้ชายสักคนมายืนเคียงข้างคอยดูแลเอาใจใส่ ช่างเป็นช่วงเวลาที่สร้างสีสันและความสุขให้กับชีวิตไม่น้อย แต่ทว่าหากเขาเอาใจใส่ดูแลมากเกินไปจนทำให้คุณรู้สึกอึดอัด เพราะมักจะคอยซักไซ้ถามไถ่ และชี้นิ้วสั่งให้ทำตามอยู่ตลอดเวลา เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเกิดความไม่มั่นใจว่าเขาเป็นห่วง หรือเป็นพวกชอบควบคุมคนอื่น ที่ต้องการทำให้คุณกลายเป็นคนในแบบที่เขาต้องการกันแน่ ก็ลองนำนิสัยของเขามาเปรียบเทียบกับสัญญาณเหล่านี้ดู จะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นชอบควบคุมคนอื่นอย่างที่สงสัยอยู่หรือเปล่า
1. รู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกอึดอัดใจ ไม่สบายใจ หรือไม่ปลอดภัย เนื่องจากเขามักจะสั่งให้คุณทำตามใจเขาบ่อย ๆ ในทุกเรื่อง ตั้งแต่การแต่งตัว กลุ่มเพื่อน หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัว รวมไปถึงการตั้งคำถามที่ดูเหมือนจะมีเล่ห์เหลี่ยมซ่อนอยู่ ให้รู้เอาไว้เลยว่า ตอนนี้เขากำลังพยายามทำให้คุณสับสน ก่อนที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดของคุณ และบังคับให้คุณทำในสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งถ้าหากคุณไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่างของเขา ก็ควรจะเมินเฉย ปฏิเสธ หรือตอบตรงข้ามกับสิ่งที่เขาต้องการบ้าง ก่อนที่คุณจะเสียทั้งความเป็นส่วนตัว เพื่อน และงานไปในเวลาเดียวกัน
2. ซักถามเหมือนคุณเป็นผู้ร้าย
บางครั้งก็เป็นเรื่องดีที่เขาดูแลเอาใจใส่คุณด้วยการถามไถ่เรื่องต่าง ๆ แต่ถ้าหากเขาเริ่มซักถามข้อมูลมาก ขึ้น รายละเอียดแบบลงลึก อย่างเช่น มากกว่าการถามว่า อะไร ที่ไหน อยู่กับใคร จะกลับเมื่อไหร่ หรืออื่น ๆ ที่คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะถามได้ เหมือนกับคุณเป็นคนร้ายที่ทำผิดร้ายแรง ให้สงสัยเอาไว้เลยว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ชอบการควบคุม บงการ และผู้ชายประเภทนี้ส่วนมากมักจะเป็นนักสะกดรอย ซึ่งวันดีคืนดีเขาอาจจะมาเซอร์ไพรส์คุณที่ออฟฟิศ หลังจากที่คุณไม่ยอมตอบกลับข้อความที่เขาส่งมาเมื่อชั่วโมงที่แล้วก็ได้
3. หึงทุกคนที่เข้าใกล้
หากมีผู้ชายคนอื่น ๆ เข้าใกล้และทำท่าทางตีซี้ตีสนิทกับคุณ ไม่ว่าใครก็ต้องหึงเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเขามีระดับความหึงหวง ที่มากกว่าที่พูดมา พร้อมทั้งกีดกั้นคุณออกจากคนรอบ ๆ ตัว แม้แต่คนในครอบครัวของคุณเอง แสดงว่าเขากำลังจะตีกรอบ และค่อย ๆ เข้ามาครอบงำความคิดกับชีวิตของคุณทั้งหมดทุกด้าน
4. ขาดอิสระ
อีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่าเขาเป็นพวกชอบควบคุมคนอื่น ๆ ก็คือ การที่เขาทำให้คุณรู้สึกขาดอิสรภาพในชีวิต โดยนับตั้งแต่วันที่คบหากันมาไม่เคยมีวันไหนที่เขาปล่อยให้คุณไปไหนมาคนเดียว และคุณจำเป็นต้องถามความคิดเห็นของเขาว่า เขาเห็นด้วยและชอบสิ่งที่คุณกำลังจะทำหรือไม่ ซึ่งถ้าหากคุณปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เพราะจะทำให้ความมั่นใจของคุณค่อย ๆ ลดน้อยลงตามไปด้วย
5. ทุกความผิดเกิดขึ้นเพราะคุณ
ที่สำคัญนอกเหนือไปจากนิสัยต่าง ๆ เหล่านั้น ผู้ชายประเภทนี้ยังไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกครั้งที่เกิดความผิดพลาด ปัญหา หรือมีอุปสรรคใด ๆ เกิดขึ้นก็ตาม เขามักจะกล่าวว่าสิ่งเหล่านั้นเกิดจากการกระทำของคุณหรือคนอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งที่แล้วเขาเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
6. ทำให้คุณกลายเป็นคนไม่มีความสามารถ
อีกหนึ่งวิธีเด็ดที่เอาไว้จับสัญญาณจากผู้ชายประเภทนี้ ก็คือ การที่เขาพยายามทำตัวให้อยู่เหนือคุณทุกอย่างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และการช่วยเหลือแต่ละครั้งมักจะตามมาด้วยคำพูดจาที่ทำให้คุณรู้สึกขาดความมั่นใจเสมอว่า คุณไม่สามารถทำเรื่องต่าง ๆ ได้สำเร็จโดยที่ไม่มีเขาได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ก็เพื่อทำให้คุณเห็นเขาเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตอย่างไรล่ะ
7. ห้ามมีความลับ
ความลับที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่รวมไปถึงรหัสผ่านในแอคเคาท์ต่าง ๆ ที่คุณมีทั้งหมด อย่างเช่น อีเมล เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรืออื่น ๆ คุณก็จำเป็นต้องบอกเขาทั้งหมดทุกเรื่อง และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีความลับซ่อนอยู่ เขาก็จะรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับแสดงอาการออกมาด้วยอารมณ์ที่รุนแรง กระทั่งถึงขั้นลงไม้ลงมือ
หลังจากที่ลองเปรียบเทียบนิสัยของเขากับ 7 สัญญาณกันแล้ว และพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นพวกที่ชอบควบคุมคนอื่น หรือจอมบงการตัวพ่อแล้วล่ะก็ แนะนำว่าควรจะถอยห่างออกมาดีกว่า ถ้าไม่อยากจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ความเป็นตัวเอง รวมไปถึงคนรอบข้างทั้งเพื่อนและครอบครัวไปในเวลาเดียวกัน