เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram aew_poosit, yotassawan, เฟซบุ๊ก รายการตีสิบ (At Ten)
เรียกได้ว่าสร้างสีสันให้ละครเรื่อง "ทองเนื้อเก้า" สนุกครบรสจริง ๆ สำหรับสองยายคู่ปรับตลอดกาลอย่าง "ยายแล" แม่ของลำยอง รับบบทโดย แอ๊ว อำภา ภูษิต กับ "ยายปั้น" รับบทโดย โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา สองนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ ที่เราจะได้เห็นทั้งคู่ปะทะคารมกันไม่เว้นแต่ละตอน แถมบทเด่นไม่แพ้อีลำยองกับวันเฉลิมเลยล่ะ
ส่วนฝีมือการแสดงนั้นคงไม่ต้องพูดถึง เพราะทั้งคนดูและผู้กำกับต้องยกนิ้วให้กับความสามารถที่เหนือชั้น ที่ไม่ว่ายายแล-ยายปั้น จะออกมากี่ซีน กี่ฉาก ก็ดึงอารมณ์ร่วมคนดูได้อย่างน่าทึ่ง ขอบอกว่าการแสดงของทั้งคู่ถูกอกถูกใจคอละครเป็นอย่างมาก ขนาดตั้งกระทู้ชื่นชมหลายสิบกระทู้เลยทีเดียว
งานนี้ รายการตีสิบ (12 พฤศจิกายน 2556) ก็ขอพา โย ทัศน์วรรณ และแอ๊ว อำภา มาพูดคุยถึงบทบาทที่ได้รับกันสักหน่อย โดยเริ่มต้นเปิดรายการทั้งคู่ก็สวมคอกระเช้า นุ่งผ้าถุง เดินเถียงกันเข้ามาสร้างเสียงหัวเราะให้กับคุณผู้ชมเป็นอย่างมาก ซึ่ง โย ทัศน์วรรณ ก็เผยว่า หลังจากที่เล่นละครเรื่องนี้ก็เหมือนเกิดใหม่ในวงการบันเทิง เพราะเมื่อออกอากาศไปแล้ว ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนเรียกยายปั้น ๆ ตามมาขอลายเซ็นก็มี เหมือนเพิ่งเข้าวงการบันเทิงใหม่ ๆ ส่วน แอ๊ว อำภา ก็บอกว่า ไปเดินซื้อกระเป๋าที่มาบุญครอง แม่ค้าก็มองแบบหมั่นไส้หัวจรดเท้า แต่เราก็เรียกคะแนนความสงสารบอกว่าเดี๋ยวตอนจบยายแลจะน่าสงสารนะ (หัวเราะ)
เมื่อพูดคุยถึงบทบาทยายแลและยายปั้น โย ทัศน์วรรณ เล่าว่า ยายปั้นจะเป็นคนนิ่ง ๆ เห็นทุกอย่างที่ยายแลทำ ทั้งขโมยพริก ขโมยไข่ แต่ก็นิ่งไว้ จนกระทั่งเหลืออดเลยต้องมีปะทะคารมกันบ้าง ส่วนคนดูก็คงลุ้นให้ยายปั้นทนไม่ไหวตบยายแลสักทีสองที ด้าน แอ๊ว อำภา ก็เสริมว่า ยายแลนี่ออกแนวหยิบอะไรก็หยิบ ฉวยอะไรได้ก็ฉวย และก็นิสัยไม่ดี ขายลูกกิน พาลูกไปเล่นการพนัน เป็นไอดอลแห่งความเลว แต่อีกไม่นานทุกคนต้องเสียน้ำตาให้ยายแล คอยดู..
สำหรับฉากที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คงหนีไม่พ้นฉากที่ยายแลเข้าไปหาสันต์ (สามีลำยอง) ให้ไปรับวันเฉลิมได้ แต่ต้องเอาเงินมาก่อน 5 หมื่นบาท ซึ่งฉากนั้น เรียกได้ว่าสนุกครบรส เพราะมีทั้งดุดัน โกรธ โมโห ตลก และต้องมีดึงอารมณ์เศร้าสะเทือนใจออกมาให้ได้
โดยแอ๊ว อำภา บอกว่า ยายแลและยายปั้นสิ่งที่มีเหมือนกันคือความรักที่บริสุทธิ์ที่มีให้กับหลาน ฉากนั้นยายแลก็ต้องการให้วันเฉลิมไปอยู่กับย่ากับปู่จริง ๆ แต่ยายปั้นก็คิดว่ายายแลหักค่านายหน้าเหมือนที่เคย ๆ ทำมา เลยเกิดการเถียงกันไปเถียงกันมา ซึ่งในฉากนี้ผู้กำกับก็กำหนดทิศทางการเล่นมาเล็กน้อย แต่นอกเหนือจากนั้นเราใส่กันสด ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นประโยค เอาส้นตีนยัดปาก, เถียงไม่ทันแล้วเนี่ย, เดี๋ยวเอาอะไรขว้างเลย คือมันต้องมีไหวพริบมาก ๆ ส่วน โย ทัศน์วรรณ กล่าวว่า ฉากนี้เราเล่นเทคเดียวผ่าน แต่ผู้กำกับให้เล่นสองครั้ง ซึ่งสุดท้ายก็เอาเทคแรก
หากพูดถึงนักแสดงคนอื่น ๆ ทั้ง โย ทัศน์วรรณ และแอ๊ว อำภา ต่างยกนิ้วให้นุ่น วรนุช ที่เล่นแบบไม่กั๊ก สลัดภาพทุกอย่างสวมบทลำยองได้อย่างไม่มีที่ติ และอีกคนที่ต้องชมคือผู้กำกับ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่มองทะลุทุกออย่าง ติดอย่างเดียวคือ ติดอ่าง ถ้าไม่มัวแต่ อ่า อ่า อ่า ๆ ก็คงจะเสร็จไปนานแล้ว.. โย ทัศน์วรรณ แอบแซว
ส่วนแอ๊ว อำภา ก็กล่าวว่า สำหรับบทยายแลคือต้องยียวนกวนบาทาให้ถึงที่สุด ซึ่งเล่นไปก็สนุกไป โดยเฉพาะฉากที่ลำยองได้สามีรวยแล้วซื้อผ้าถุงที่เป็นผ้าไหมให้... ยายแลก็อยากจะใส่อวดชาวบ้าน แต่คนที่อยากอวดที่สุดก็คือยายปั้น เลยเดินผ่านหน้าบ้านยายปั้น 3 รอบ แต่ยายปั้นไม่หัน เลยสะบัดผ้าโชว์แบบชัด ๆ แต่ยายปั้นก็ไม่สนใจอีก คราวนี้ก็เลยตะโกนเรียกชาวบ้านมาดู ต้องแสดงอินเนอร์ยียวนออกมาได้ให้มากที่สุด
และตัวละครที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ ก็คงเป็นบทบาทของวันเฉลิมทั้ง 3 รุ่น ทั้งน้องเมลิค น้องแม็ค น้องยอร์ช ที่ทั้งคู่บอกเลยว่าทุกคนเล่นดีหมด แถมผู้กำกับยังเก่งหานักแสดงที่หน้าตาคล้ายกันมาเล่นได้ ส่วนคนที่น่ารักที่สุดก็คือน้องเมลิค คือเวลายังไม่ถ่ายก็จะโยเยร้องไห้หาแม่ แต่พอนับ 5-4-3-2-1 น้องเมลิค เงียบกริบ เล่นแบบไม่มองกล้อง ยิ่งฉากที่พ่อกับแม่ทะเลาะกับบนเตียง น้องเมลิคมองหน้านุ่นที หน้าป๋อที ดูน่าสงสารมาก ๆ
ต่อกันด้วยบทบาทที่แทบจะไม่มีไดอะล็อกให้พูดเลย แต่กลับแย่งซีนจนทำให้ต้องปวดหัว นั่นก็คือบทของ "ตาปอ" แสดงโดย ชลิต เฟื่องอารมย์ ซึ่งในเรื่องตาปอจะเป็นสามียายแลและเป็นโรคอัลไซเมอร์ โดย แอ๊ว อำภา ที่จะต้องเข้าฉากกับ ชลิต เป็นประจำนั้น ถึงกับต้องอึ้งในแต่ละบทที่ส่งรับแบบไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ก่อน เช่น เอาผักไปซักผ้า ใส่พริกแทนผงซักฟอก หรือบทตามหากระบวย แต่กระบวยอยู่ที่มือ โดยบทเหล่านี้ชลิตเป็นคนคิดเองและผู้กำกับก็ชอบทุกฉากเลยทีเดียว..
นอกจากนี้ โย ทัศน์วรรณ ยังได้นำประสบการณ์จริงมาสอน นุ่น วรนุช ในฉากที่ปวดท้องคลอด โดยต้องบอกนุ่นว่า ปวดแบบไหน รู้สึกอย่างไร ส่วนป๋อก็ต้องสอนฉากอุ้มวันเฉลิมเหมือนกัน เพราะตอนนั้นเขายังไม่มีลูก
สำหรับเรื่องราวความสนุก ทั้งยายปั้นและยายแลทิ้งท้ายว่า ละครเรื่องนี้ยังมีอะไรให้ติดตามอีกเยอะ และทุก ๆ คำพูด ทุก ๆ การกระทำของตัวละครก็จะสะท้อนถึงผลลัพธ์ในทุก ๆ อย่าง อยากให้คนที่ดูดูเป็นตัวอย่าง อะไรที่ไม่ดีก็อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ตัวละครมีทั้งด้านบวกและด้านลบ เราก็จะเห็นว่าคนที่ทำดีจะได้อะไร ส่วนคนที่ทำไม่ดีจะเกิดอะไรกับชีวิตบ้าง
โพสต์โดยคุณ CutelyBearLove CutelyBearLove สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม