เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการวีไอพี โพสต์โดยคุณ ThaiTV19 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
แดง พัทธยา เทศทอง นักกีฬาพาราลิมปิกส์ เผยเรื่องราวความรักกับว่าที่เจ้าสาว กับแบบทดสอบความรักฉบับไม่สมบูรณ์ ในรายการวีไอพี
ถึงแม้ร่างกายจะเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต แต่เรื่องของหัวใจไม่ว่าอะไรก็จะมาขวางไม่ได้ สำหรับคู่รักของ แดง พัทธยา เทศทอง ฮีโร่ 2 เหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2012 กับแฟนสาว "ตุ่ม วชิราพร เฉียงสี" ที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในวันที่ 6 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งเรื่องราวความรักของพวกเขา ถึงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ก็หวานชื่นไม่แพ้คู่อื่น ๆ เลยล่ะ ทางรายการวีไอพี (10 กุมภาพันธ์ 2557) จึงขอนำเสนอเรื่องราวความน่ารักของว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาให้ได้ชมกัน ว่าความรักของเขาและเธอจะต้องผ่านอุปสรรคอะไรบ้าง พร้อมกับคำถามที่ว่า ว่าที่เจ้าสาวคบเขาเพราะรักจริง หรือเพราะมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า
เริ่มต้นรายการด้วยภาพน่ารัก ๆ ที่ฝ่ายคุณตุ่มอุ้มคุณแดงมานั่งยังเก้าอี้ โดยคุณตุ่มเผยว่าท่านี้เป็นท่าประจำเลย เวลาจะไปไหนมาไหน ถ้ามีบันไดก็ต้องอุ้มขึ้น เมื่อนั่งประจำที่กันเรียบร้อย คุณตุ่มก็เกริ่นนำเรื่องความรักเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่า ตอนนี้เธอกับแดงกำลังจะแต่งงานกันในวันที่ 6 มีนาคม 2557 ที่โรงแรมริชมอนด์ ส่วนชีวิตรักของเธอกับแดงก็มีความสุขดี ตอนนี้เราทดลองอยู่ด้วยกันมาประมาณ 5-6 เดือนแล้ว พักอยู่แถวปากเกร็ด ซึ่งใกล้ที่ที่แดงเขาจะซ้อมกีฬา และได้สู่ขอกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา สำหรับงานแต่งทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ทยอยแจกการ์ดเท่านั้น
เห็นทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างหวานชื่น ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงโมเมนต์ที่เจอกันครั้งแรกสักหน่อย โดยคุณตุ่มเล่าว่า เธอทำงานอยู่ที่เทสโก้โลตัส สำนักงานใหญ่ วันที่เจอกับแดงวันแรก เธอมาธุระแถวปากเกร็ด แล้วเธอก็เห็นแดงเข็นรถเข็นกำลังขึ้นอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าใคร มองแค่ว่าเป็นคนพิการเฉย ๆ ก็เลยไม่ได้สนใจ แต่ต่อมาประมาณ 2 อาทิตย์ เผอิญว่าเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนเธอ แล้วก็มีภาพของเพื่อนที่ถ่ายคู่กับแดง เราก็แซวเพื่อนเล่น ๆ ว่าไม่หล่อ คนข้างหลัง (ซึ่งคือแดง) หล่อกว่า จากนั้นเขาก็มาตอบเธอว่าขอบคุณครับ จากนั้นก็มีการสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็เห็นว่าเขาคุยเล่นกับเรา เลยไปกดแอดเฟรนด์ขอเป็นเพื่อน คุยกันได้สักพักก็แลกไลน์กัน แล้วก็คุยกันเรื่อยมา
ขณะที่คุณแดง เล่าต่อว่า ตอนนั้นตนก็ดูข้อมูลส่วนตัวของตุ่ม ว่าเป็นใครมาจากไหน มีแฟนหรือเปล่า ก็เลยถามกับเพื่อนแล้วก็ถามกับตุ่มตรง ๆ กลัวเขาหลอกเรา
"ตุ่มไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร เพราะตุ่มไม่สนใจเรื่องกีฬา แต่พอคุยกันไปคุยกันมาสักพัก ก็กดเข้าไปดูรูปในเฟซบุ๊กเขา เห็นว่ามีภาพเยอะจัง เลยลองเอาชื่อจริงเขาเสิร์ชในกูเกิล ก็ทราบว่าเขาเป็นนักกีฬาค่อนข้างดัง (ไม่ตื่นเต้นเหรอที่ได้คุยกับนักกีฬาระดับประเทศ) ตุ่มมองว่าเขาเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นคนพิการที่มีอาชีพปกติทั่วไป ไม่ใช่คนดังอะไร" คุณตุ่ม กล่าว
เห็นคุณแดงเป็นแบบนี้ แต่ขอแอบเม้าท์ว่ามีสาว ๆ เข้ามาในชีวิตเยอะเหมือนกัน คุณแดงก็ลองใจอยู่หลายต่อหลายครั้ง เพราะคุณแดงบอกว่า บางคนเขาต่อหน้าดีแต่ลับหลังพูดถึงเราไม่ดี เลยไม่ค่อยไว้ใจใคร ส่วนกับตุ่มนั้นก็เคยลองใจเหมือนกัน
"ตอนแรกที่รู้ว่าถูกลองใจก็โกรธนะ วันนั้นคุยกับเขามาสักพัก ก็อยากรู้ว่าเขามีความเป็นอยู่ยังไง กินนอนลำบากไหม เลยถามเขา แดงก็บอกว่ามาดูด้วยตาตัวเองสิ ก็เลยตัดสินใจไป เมื่อไปถึงก็พบว่าเขาอยู่อพาร์ทเม้นท์ปกติ มีตู้เสื้อผ้าเก่า ๆ มือถือรุ่นเก่ามาก ๆ ตัวตุ่มนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แค่อยากดูความเป็นอยู่ของเขาเท่านั้น จากนั้นประมาณ 2 เดือน แดงเขากลับบ้านที่อำนาจเจริญ ตุ่มก็ไปรับเขาที่ดอนเมือง พอเขาหยิบของจากกระเป๋าออกมา เห็นโทรศัพท์รุ่นดี ๆ เห็นวางไอแพด ก็เลยถามเขาว่าซื้อใหม่เหรอ แดงบอกว่าใช้มานานแล้ว เขาขอโทษที่ซ่อน เพราะเขาไม่รู้ว่าครั้งแรกที่ตุ่มมา ตุ่มจริงใจกับเขาหรือเปล่า"
คุณตุ่มเล่าต่อว่า เราคุยไลน์ไปมากันประมาณ 3 เดือน กว่าจะได้เจอตัวจริง ตอนเจอกันครั้งแรกเราทั้งคู่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะความสัมพันธ์มันขยับมาจากความเป็นเพื่อน.. แต่เมื่อคุยไปคุยมาก็เริ่มรู้สึกว่าแดงมีทีท่าว่าจะจีบ ก็เลยปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็บอกว่า อย่าไปสนใจว่าเขารูปร่างลักษณะอย่างไร ดูแค่การกระทำของเขาพอ...
แต่กว่าที่ทั้งคู่จะได้คบกันอย่างราบรื่นนั้น ก็มีอุปสรรคเข้ามามากมาย และอุปสรรคที่สำคัญที่สุด คือใจของคุณตุ่มเองที่ค่อนข้างสับสน เนื่องจากเธอเป็นคนปกติและคุณแดงเป็นคนพิการ
"เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของความรักมาก ตอนแรกกลัวสังคมไม่ยอมรับที่ตุ่มจะเอาคนพิการมาเป็นคู่ชีวิตหรือมาเป็นแฟนอะไรแบบนี้ บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่าอายหรือเปล่า คุย ๆ เลิก ๆ หลายต่อหลายครั้ง บล็อกไลน์ก็แล้ว เปลี่ยนเบอร์ก็แล้ว สับสนในตัวเองมาก ส่วนแดงนั้นเขาก็สู้ไม่ถอย เขาก็บอกกับตุ่มว่า อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้" คุณตุ่ม กล่าว ขณะที่คุณแดงก็บอกว่า อย่าเพิ่งมาสรุปผมตอนนี้ ผมไม่อยากให้ความพิการเป็นผลสรุปในเรื่องความรัก..
พอคุณตุ่มเคลียร์ความรู้สึกของตัวเองได้ ก็คุยกับน้องสาวก่อน แล้วค่อย ๆ บอกแม่ ตอนแรกแม่ก็หวั่น ๆ กลัวใครจะมองตุ่มไม่ดี เพราะพวกเขาอาจจะคิดว่าตุ่มมาคบกับแดงเพราะเงินทองและชื่อเสียง แต่สักพักก็ค่อย ๆ พูดไปเรื่อย ๆ จนแม่ใจอ่อน ก็เลยพาแดงเข้าไปทำความรู้จักกับที่บ้านเลย
เมื่อถามถึงความประทับใจของกันและกัน คุณตุ่มเผยก่อนว่า แดงเป็นคนคุยสนุก เป็นคนมองโลกในแง่บวก และวางแผนชีวิตไว้ดีมาก ๆ เธอเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็ต้องการผู้ชายที่วางแผนชีวิตและมองอนาคต และแดงเขาไม่ได้แค่พูดเท่านั้น แต่เขาเริ่มทำ ซึ่งทุกอย่างก็เริ่มเห็นภาพ ส่วนทางด้านคุณแดง ก็เผยว่า เขาประทับใจตุ่มที่ให้โอกาส เขาไม่เคยคิดเลยว่าความรักของเขาจะเป็นไปได้ มันน้อยมากที่ใครจะมารักคนพิการ ส่วนเรื่องอนาคต เขาพยายามจะสร้างตัวเองให้ดีก่อน ก่อนที่จะดูแลคนอื่น ถ้าเขายังเลี้ยงตัวเองไม่ไหวแล้วจะไปเลี้ยงแฟนได้อย่างไร
คู่รักคู่นี้ เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน..จึงไม่ค่อยมีคำหวาน ๆ สักเท่าไรนัก โดยคุณตุ่มเล่าว่า ทุกวันนี้เรายังไม่มีใครขอใครเป็นแฟนเลย เรารู้ด้วยตัวเอง เราไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ กินข้าวด้วยกัน เอากับข้าวไปให้ แต่อยู่มาวันหนึ่งแดงก็พูดว่า ตุ่ม ๆ มีลูกกับแดงเถอะนะ เธอก็ตอบกลับว่า เฮ้ยไม่คิดจะขอฉันเป็นแฟนเลยเหรอ แดงก็ตอบว่ามันไม่ทันใจ (หัวเราะ)
พอหลังจากตัดสินใจคบกันแล้ว ทางครอบครัวของแดงเองซะมากกว่าที่ค่อนข้างกังวล โดยคุณตุ่มเล่าว่า ญาติแดงเขาไม่มั่นใจว่าตุ่มจะดูแลเขาได้ ไม่มั่นใจว่าเราจะรักหลานเขาจริง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเธอไม่สามารถพูดให้คนเชื่อได้ว่าเธอคบแดงด้วยใจ ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงและเงินทอง เธอเลยขอเวลาให้ครอบครัวแดงได้พิสูจน์
คุยเรื่องราวความหวานกันพอหอมปากหอมคอ ทางรายการก็ขอพาไปเกาะติดชีวิตว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวบ้าง ว่าวันวันหนึ่งทำอะไรกันบ้าง โดยเมื่อไปถึงห้องของคุณแดงที่ทั้งคู่ทดลองอยู่ด้วยกันนั้น คุณตุ่มเล่าว่า ถ้าวันปกติเธอจะอาบน้ำก่อน จากนั้นแดงจะตื่นขึ้นมาเก็บที่นอนและชงกาแฟให้เธอดื่มทุกเช้า โดยเขาบอกว่าอยากให้มองเขาเป็นคนปกติ และเรื่องอยู่ด้วยกันเป็นหน้าที่ของคนสองคน ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง สำหรับโปรแกรมงานบ้านนั้น แดงจะเป็นคนกวาดบ้านถูบ้านทุกวัน ส่วนเธอเป็นเวรล้างห้องน้ำและซักผ้าตากผ้า ถ้าผ้าเยอะก็มีช่วยกันบ้าง
หลังจากนั้น คุณตุ่มก็ได้ช่วยคุณแดงแต่งตัวและออกไปร้านชุดแต่งงาน โดยเธอบอกว่าวันนี้มีคิวลองชุดแต่งงานพอดี ซึ่งคุณตุ่มก็ได้เลือกชุดให้คุณแดง ส่วนขณะที่คุณตุ่มลองชุดเจ้าสาวทั้งชุดไทย และชุดราตรี คุณแดงก็ชมไม่ขาดปากว่าสวย... สวยมาก ๆ นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังได้ไปเที่ยวกับที่เกาะเกร็ด ถึงแม้ว่าคุณแดงจะพิการต้องใช้รถเข็นแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะทั้งคู่เดินจูงมือกันเหมือนคนปกติ ซึ่งคุณตุ่มเล่าว่า แต่ก่อนเธอก็เข็นรถเข็นจากข้างหลังเหมือนกัน แต่วันหนึ่งเธอเข็นขึ้นเนินแล้วข้อมือเธอเคล็ด แดงก็บอกว่าต่อไปไม่ต้องเข็นแล้วนะ ให้จูงมือกันไป ส่วนมืออีกข้างเขาก็จะหมุนล้อตามให้ทัน เราช่วยกันจะได้เดินไปด้วยกัน
ในเมื่อเรื่องร่างกายไม่ใช่อุปสรรคแล้ว แต่ในเรื่องนิสัยส่วนตัว มีการปรับเปลี่ยนเข้าหากันบ้างไหม ด้านคุณตุ่มบอกว่า เธอเป็นคนใจร้อน แต่พอมาอยู่กับแดงแล้วต้องใจเย็นลงเยอะมาก แต่ทั้งนี้ก็ได้แง่คิดอะไรจากเขามากมาย ล่าสุดที่เขาไปแข่งที่พม่า เธอเป็นคนชอบสะสมจานสวย ๆ ตอนนั้นเธออยู่คนเดียวและทำจานแตก เสียดายมาก พอแดงกลับมาก็เล่าให้ฟังว่าเธอเสียดายจังทำจานแตก แดงเลยถามว่า แล้วถ้าเป็นแดงทำมั้งล่ะ คำพูดแดงคำนี้ก็ทำให้เธอฉุกคิด ซึ่งถ้าแดงทำแตกเธอคงปรี๊ดแตกแน่ ๆ แต่พอแดงพูดมาอย่างนั้น ทำให้เธอคิดได้ว่าขนาดเธอเป็นคนปกติยังพลาดเลย แล้วเขาเป็นคนไม่ปกติจะพลาดบ้างคงไม่เป็นไร ส่วนเราก็ต้องปรับตัวและก็ต้องอดทนเพิ่มมากขึ้น
สำหรับการวางแผนชีวิตไว้ในอนาคต คุณแดงเผยว่า เขาอยากจะเล่นกีฬาต่อสักพักจนกว่าร่างกายจะเล่นไม่ไหว จากนั้นก็ขอกลับบ้านไปทำธุรกิจส่วนตัว ไปโรงงานเฟอร์นิเจอร์เล็ก ๆ ที่อำนาจเจริญ ส่วนเรื่องลูกก็อยากมีเลยเหมือนกัน
ขณะที่ คุณแดงก็ให้ข้อคิดกับความรักครั้งนี้ว่า.. ไม่ต้องสนใจว่าใครจะมองอย่างไร เพราะเรื่องความรักมันอยู่ที่หัวใจและคนสองคนเท่านั้น ถ้าคุณรับไม่ได้แต่แรกก็อย่าฝืน แต่ถ้าคุณรักเขาจริงคุณก็จะมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างไปเอง จริง ๆ แล้ว ความรักระหว่างคนปกติกับคนพิการไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์ เราอยากให้ทุกคนมองว่าเราเป็นคู่รักปกติ ที่ถึงแม้ร่างกายของแดงจะไม่ปกติแต่ก็ไม่มีอุปสรรคอะไรมาขว้างกั้นความรักของเราได้..