ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Up2smileTVHD2 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เจี๊ยบ ลลนา นางสาวไทย ปี 2549 เปิดใจในรายการพราวไนท์ 28 ก.พ. 57 กับอุดมการณ์เพื่อเพื่อนมนุษย์ ในฐานะที่ เจี๊ยบ ลลนา เป็นคุณหมอ
ถ้าให้นึกถึงภาพของ เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ เชื่อว่าหลายคนคงจำเธอได้ในฐานะที่เคยเป็นนางสาวไทย ปี 2549 หรือขณะนี้กลายเป็นสาวผมซอยสั้นลุคทอมบอย แต่อีกบทบาทหน้าที่หนึ่งที่สำคัญ และสะท้อนให้เห็นอุดมการณ์ของ เจี๊ยบ ลลนา อย่างแรงกล้าก็คือ การทำหน้าที่แพทย์นั่นเอง และหลายคนก็ยังไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้ ว่าแล้วก็ตามรายการพราวไนท์ ที่ออกอากาศเมื่อคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ไปรู้จักเธอให้มากขึ้น
แต่ก่อนที่จะนั่งจับเข่าคุยกับหมอเจี๊ยบ ทางรายการก็ขอโชว์รูปสมัยที่เธอประกวดนางสาวไทยซะหน่อย ขอบอกว่าสมัยที่เธอยังไว้ผมยาวเข้าประกวดนั้นดูสวยน่ารักไม่ใช่เล่น แต่ตอนนี้หมอเจี๊ยบตัดผมสั้นกุดซะแล้ว ซึ่งเธอก็บอกว่าจริง ๆ ไว้ผมสั้นมานานแล้ว เพราะรู้สึกไว้แล้วทะมัดทะแมงดี เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเธอ เพียงแต่ไม่ได้เล่นอินสตาแกรม คนก็เลยไม่เคยเห็นลุคนี้เท่านั้นเอง
ส่วนตอนนี้ สาวเจี๊ยบเรียนจบแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดีมาได้เกือบปีแล้ว และกำลังทำหน้าที่เป็นแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี แต่เธอกลับบอกว่าบุคลิกจริง ๆ ของเธอไม่น่าจะเป็นได้ทั้งนางสาวไทยและแพทย์เลยด้วยซ้ำ แต่ที่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่เวทีประกวดและเลือกเรียนแพทย์ด้วย ก็เพราะมีความฝันว่าอยากเปิดคลินิกรักษาคนไข้แบบไม่คิดเงิน และเธอก็เชื่อว่าถ้าได้เป็นทั้งนางสาวไทยและเป็นแพทย์ด้วย จะทำความฝันนี้ให้เป็นจริงได้แน่ ๆ
ว่าแล้ว เจี๊ยบ ก็เล่าถึงที่มาที่ไปของความฝันที่อยากเปิดฟรีคลินิกว่า ตอนช่วงที่เรียน ม.ปลาย เธอไม่ได้คิดอยากจะเป็นหมอเลย แต่เป็นคนชอบไปทำข้อสอบของหลาย ๆ ที่ เลยอยากลองทำข้อสอบของแพทย์ศิริราชดูบ้าง แต่ต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาลก่อนถึงจะสอบได้ เจี๊ยบเลยตัดสินใจไปดูงานในโรงพยาบาลแถวบ้าน
แล้วรู้ไหมว่า เจี๊ยบไปถึงโรงพยาบาลวันแรกก็ถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นคนไข้จำนวนมากนั่งรอหมออยู่นานแสนนาน ในตอนนั้นเธอก็เลยเกิดความคิดขึ้นมาทันทีเลยว่า ถึงมีเงินก็ช่วยเขาไม่ได้ แต่ถ้าเธอได้เป็นหมอ คงวิ่งเข้าไปช่วยคนไข้ได้ทันทีเลย และยิ่งถ้าเปิดฟรีคลินิกรักษาคนไข้แบบไม่คิดเงินช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ได้ก็คงดีมาก นับแต่นั้นมา เจี๊ยบก็เลยเปลี่ยนความคิด ตัดสินใจลงสนามสอบเข้าสายแพทย์ และตั้งใจเลือกเรียนแพทย์ฉุกเฉินด้วย เพราะคิดว่าถ้ามีเคสด่วน ๆ มา เธอจะได้ช่วยได้ทันที
เห็นเจี๊ยบสอบแพทย์ได้ หลายคนต้องคิดว่า สมัยเด็ก ๆ เจี๊ยบต้องเรียนเก่งมาก ๆ แน่เลยใช่ไหมล่ะ แต่เจี๊ยบกลับบอกว่า "ไม่เลยค่ะ" อย่างวิชาเลขเธอเรียนได้เกรด 0 ด้วยซ้ำ และที่บ้านก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องการเรียนด้วย แต่เมื่อเธอตั้งใจจะเป็นแพทย์ให้ได้ เธอก็เลยต้องฝึกฝนวิชาเลขอย่างหนัก จนเกิดความเข้าใจได้
"อยากบอกน้อง ๆ ที่อยากจะเป็นแพทย์ แต่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง อย่าคิดอย่างนั้นเลย เพราะคนเราเวลาตั้งใจจะทำอะไร ให้ไปให้ถึงความฝัน มันสามารถเราไปถึงจุดนั้นได้จริง ๆ แต่เราต้องอดทน ตั้งใจ และมุ่งมั่น"
อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของเจี๊ยบก็คือการเข้าเวทีประกวดนางสาวไทย ซึ่งไม่เคยอยู่ในความคิดมาก่อนเหมือนกัน แต่เจี๊ยบก็บอกว่า ในตอนนั้นเมื่อสอบเข้าแพทย์ได้แล้ว ก็เริ่มคิดถึงการเปิดฟรีคลินิก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จนได้รับคำแนะนำจากคุณแม่มาว่าถ้าเราเป็นคนมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่าเชื่อถือเลยแนะนำให้เจี๊ยบไปประกวดนางสาวไทยที่รับสมัครในช่วงนั้นพอดี เผื่อได้ตำแหน่งมาคนจะได้รู้จักเธอ และเป็นใบเบิกทางในการเปิดฟรีคลินิก
ตอนแรกเจี๊ยบก็ไม่คิดจะไปประกวด เพราะไม่ได้เป็นคนรักสวยรักงาม แถมดูแล้วไม่ใช่ทางของเธอเลยถ้าต้องมาโพสท่าถ่ายรูป เดินแบบ แต่สุดท้ายก็กลั้นใจยอมไปสมัครประกวดในวันสุดท้ายพอดี เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นทางที่ทำให้เธอหาเงินทุนมาเปิดฟรีคลินิกได้
งานเลยเข้าสาวเจี๊ยบอย่างจังที่ต้องมาใส่รองเท้าส้นสูงที่ไม่ถนัดเอาเสียเลย แถมยังต้องโพสท่า ยิ้มแย้มใส่กล้อง โบกมือชมนกชมไม้ ทำเอาเธอแอบขำในใจเหมือนกัน เพราะไม่ใช่ตัวเองเลย แต่รอยยิ้มจริงใจในสไตล์ของเธอนี่แหละที่ทำให้เจี๊ยบได้ตำแหน่งขวัญใจช่างภาพมาแบบงง ๆ เธอเลยบอกว่าน่าจะเป็นเพราะเธอบ้ายุ ช่างภาพให้จับสัตว์น้ำ ให้กอดลิงอุรังอุตังถ่ายรูป เธอก็กล้าทำหมด
จนในที่สุด เจี๊ยบ ลลนา ก็คว้ามงกุฎนางสาวไทยปี 2549 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเจี๊ยบก็เชื่อว่าที่ได้ตำแหน่งมาอาจเป็นเพราะกรรมการมองที่ตัวตนของเธอ รวมทั้งความคิด ความตั้งใจที่จะทำ และเหตุผลที่มาประกวดมากกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้ตำแหน่งมาแล้ว แต่เจี๊ยบก็ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องการเรียนมาเป็นอันดับหนึ่ง และด้วยความที่อยากเปิดฟรีคลินิกให้ได้จริง ๆ เจี๊ยบก็ยังวางแผนเขียนจดหมายไปขอทุนกับบิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ ซะด้วย แต่คิดว่า บิล เกตส์ คงไม่ได้อ่าน เพราะคนคงเขียนไปหาเขามากเหมือนกัน
ส่วนที่มีข่าวว่าหลังจากเรียนจบมีโรงพยาบาลมาทาบทามให้ไปทำงานด้วย โดยเสนอเงินเดือนให้เป็นแสน แต่ต้องเรียนด้านความงาม เจี๊ยบก็ยอมรับว่ามีติดต่อมาจริง ตอนแรกก็เคลิ้มไปเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่สุดท้ายก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าไม่ไปดีกว่า เพราะเธออยากจะช่วยคนในวิธีที่เธอตั้งใจไว้แต่แรก เลยตัดสินใจกลับมาเรียนด้านฉุกเฉิน เรียกได้ว่ายอมทิ้งเงินเดือนหลายแสนมาแลกกับชั่วโมงละไม่กี่ร้อย
นอกจากจะยึดอุดมการณ์อย่างแรงกล้าในการเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แล้ว หลายคนคงไม่รู้ว่า เจี๊ยบ ยังรับอุปการะดูแลคนอีก 4 คน โดยส่งเสียเงินให้ทุกเดือนตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นนักศึกษาแพทย์ ทั้งคุณยายที่เจอกันโดยบังเอิญ เด็กที่สูญเสียแม่กะทันหัน ผู้ป่วยอัมพาต รวมทั้งน้องปกรณ์พล มงคลวงศ์ เด็กหนุ่มที่สอบติดแพทย์ได้ แต่ไม่มีเงินเรียน ซึ่งเมื่อเจี๊ยบเห็นข่าวก็ยินดีอุปการะค่าเล่าเรียนให้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดนานเลย เพื่อให้น้องคนนี้ได้เรียนจบแพทย์ไปช่วยเหลือคนอื่นต่อไป
เห็นเจี๊ยบเป็นคนจิตใจดีงามขนาดนี้ เธอบอกว่ามีคุณแม่เป็นไอดอล เพราะเห็นคุณแม่ช่วยเหลือคนอื่นมาตั้งแต่เธอยังเด็ก ๆ เลยซึมซับสิ่งเหล่านี้มาเรื่อย ๆ ว่าถ้าช่วยได้ก็ช่วย เพราะมีคนที่ด้อยโอกาสกว่าเราเยอะ
"ถ้ามีโอกาสเราจะหยิบยื่นให้เขา และการที่เราเกิดเป็นคน ในชีวิตหนึ่งตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราได้ทำความดีไว้ หรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ มันดีที่สุดแล้ว ในชีวิตหนึ่งเราจะมีบ้านมีรถหรืออะไร ก็แค่นั้น แต่ถ้าเราทำความดี เราจะรู้สึกภูมิใจในความที่เราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง"
นี่ก็คืออีกมุมหนึ่งของเจี๊ยบ ลลนา ที่น่าชื่นชมมากจริง ๆ แต่ก่อนจะจบรายการ ขอแวบมาถามเรื่องส่วนตัวกันบ้างดีกว่า เพราะตอนนี้มีหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า เห็นเป็นสาวห้าวซอยผมสั้นขนาดนี้ เจ้าตัวเป็นทอมหรือเปล่านะ
งานนี้ เจี๊ยบ ถึงกับหัวเราะร่วนที่มีข่าวเขียนว่าเจี๊ยบโตแล้วจากสาวเป็นหนุ่ม แต่จริง ๆ เธอตัดผมมาตั้ง 4-5 ปีแล้ว ชีวิตประจำวันก็ใส่กางเกงขาสั้น กางเกงยีนส์ เสื้อยืดธรรมดา แต่งหน้าไม่เป็นเลย คนจะมองว่าเป็นเด็กผู้ชายก็ไม่แปลก ขนาดตัวเองยังมองตัวเองเหมือนทอมบอยเลย เพราะตัวเองสนิทกับพี่ชาย ชอบเล่นเตะต่อยเหมือนเด็กผู้ชาย และไม่ค่อยสนใจเรื่องความสวยความงาม
"แต่เจี๊ยบว่าคนเราไม่ควรไปนิยามว่าใครเป็นอะไร คือเจี๊ยบเป็นเจี๊ยบ เป็นตัวของตัวเอง ชอบใส่กางเกงยีนส์ ชอบใส่รองเท้าผ้าใบ ถ้าถามว่าเป็นทอมหรือเปล่า ก็จะตอบว่าเจี๊ยบไม่ใช่ทอมนะ แต่เจี๊ยบเป็นเจี๊ยบ ลลนา นี่แหละ"
พร้อมกับแย้มเรื่องหัวใจให้ฟังว่า ก็มีผู้ชายมาจีบเหมือนกัน แต่ยังไม่ใช่ ส่วนสเปกนั้นตัวเองชอบคนที่เป็นคนดี จิตใจดี รับในสิ่งที่เราเป็นได้
เห็นทำหลายอย่างขนาดนี้ เจี๊ยบ บอกเลยว่า ทุกอย่างที่ทำคือความสุข อาจมีบางคนคิดว่าเราไปช่วยเขาแบบนี้ไม่กลัวเขาหลอกเหรอ แต่เจี๊ยบไม่ได้กลัวตรงนั้น เพราะเราเห็นเขาเป็นแบบนี้แล้วตัดสินใจไปแล้วว่าคนนั้นควรจะได้รับโอกาสนี้ เราก็ให้เขาไป ไม่มานั่งคิดว่าเขาจะเอาเงินไปทำอะไร อย่างน้องปกรณ์พล เธอไม่เคยไปถามว่าน้องเรียนได้คะแนนดีไหม บอกแค่ว่าถ้าจบมาแล้วขอให้เป็นหมอที่ดีก็พอ เราช่วยเขาแล้วเราก็มีความสุขของเราเอง
ความสุขจากการให้เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่และไม่มีใครสามารถอธิบายความรู้สึกนี้ได้ ถ้าเราไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง อย่างที่ เจี๊ยบ ลลนา แบ่งปันเรื่องราวการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทนของเธอให้เราได้รู้จักเธอมากขึ้น บอกได้เลยว่า ความสวยความงามของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้การันตีแค่มงกุฎนางสาวไทยเท่านั้น แต่ เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ เป็นคุณหมอที่งดงามทั้งจิตใจจริง ๆ
