ตอนเด็ก ๆ อาจจะไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักกันสักเท่าไรนัก เพราะในตอนนั้นทั้งครอบครัวและเพื่อนก็ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา จะไปไหนก็ไม่เคยรู้สึกว่าความโสดเป็นเรื่องเลวร้ายเลยสักครั้ง จนกระทั่งเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ทุกคนต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปมีครอบครัวของตัวเอง ทำให้สาวโสดหลายคนเริ่มมองว่าความโสดเป็นเรื่องเลวร้ายในชีวิต ทั้งที่จริงแล้วทุกอย่างต่างก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง และความโสดก็เช่นเดียวกัน หากคุณลองมองดูอีกด้านก็จะพบว่าความโสดไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคิดเลยสักนิด อีกทั้งยังมีข้อดีมากมายที่คนมีคู่ไม่มีทางเจอด้วย
หลายต่อหลายครั้งที่คนรอบตัวมักจะพูดแง่ร้ายของความโสดให้ฟังอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ที่คนรอบตัวต่างมีครอบครัวไปทีละคนสองคน จนเหลือคุณโสดอยู่คนเดียว และเมื่อฟังเรื่องแบบนี้ทุกวันก็เริ่มคิดมากจนคิดว่าชีวิตโสดเป็นเรื่องน่ากลัว ทำให้เลือกคนคบอย่างไม่คิด ทั้งที่จริงแล้วมันก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อยเลย อีกทั้งอย่าลืมว่าชีวิตเป็นของคุณ ดังนั้นหากตอนนี้คุณคิดว่าสามารถดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจได้ดีอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นต้องแคร์เสียงเหล่านั้นเลย ที่สำคัญหากไม่ดีจริงจะคบให้เสียเวลาทำไม รอคนที่คุณคิดว่าเป็นคนที่ใช่แล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย ดีกว่าแต่งงานไปแล้วมารู้ว่าไม่ใช่ทีหลังน่าเสียใจกว่าเยอะ
2. ไม่จำเป็นต้องโกหกเพื่อสร้างภาพ
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลาย ๆ คนอยากมีแฟนก็เพราะว่า เวลาที่เปิดดูโซเชียลเน็ตเวิร์กก็มักจะเห็นเพื่อนหรือพี่ ๆ น้อง ๆ ตั้งสเตตัส โพสต์รูป หรือแชร์ข้อความหวาน ๆ ให้กับคนรัก ซึ่งเป็นเรื่องที่แทงใจดำคนโสดอย่างมาก และทำให้ลืมคิดไปว่าคนส่วนใหญ่มักจะแสดงเฉพาะเรื่องดี ๆ ออกมากันทั้งนั้น ตอนที่เกิดดราม่ากันคงไม่มีใครอยากให้คนอื่นเห็นหรอก ฉะนั้นคุณโชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ต้องโกหกตัวเองหรือใคร ๆ ว่าตอนนี้กำลังมีความสุขกับคนรัก ทั้งที่ความจริงแล้วทะเลาะกันแทบทุกวัน
3. รู้จักกับรักที่แท้จริง
คนโสดส่วนใหญ่มักจะรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะไม่มีใครอยู่เคียงข้างเหมือนคนอื่น ๆ ซึ่งหากลองมองดูดี ๆ แล้วเป็นเรื่องที่คุณคิดไปเองทั้งสิ้น เพราะถึงแม้คุณจะไม่มีคนรักอย่างใครเขา แต่คุณก็ยังมีเพื่อนฝูงที่พร้อมจะอยู่กับคุณตลอดเวลาไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือคุณยังมีครอบครัว ซึ่งเป็นคนที่ห่วงใย ใส่ใจและแคร์คุณมากที่สุดด้วย
4. เลือกทางเดินชีวิตได้ตามใจชอบ
หากย้อนกลับไปในอดีตผู้หญิงส่วนใหญ่ก็อาจจะให้ความสำคัญกับเรื่องการแต่งงานก่อนเป็นอันดับแรก และนิยมแต่งงานกันตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น แต่ในปัจจุบันนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะสังคมเปิดโอกาสให้ผู้หญิงมีทางเลือกมากขึ้น ดังนั้นหากคุณจะโสดไปตลอดชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนต่างมีอิสระในการใช้ชีวิตอีกทั้งชีวิตของแต่ละคนนั้นมีเส้นทางต่างกัน ฉะนั้นอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนรอบข้างเลย เลือกใช้ชีวิตอย่างที่ชอบดีกว่า
5. ทำตามความฝันได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ความโสดทำให้คุณยังมีเวลาเหลืออีกมากมายที่จะทำตามความฝันของตัวเอง ในขณะที่คนมีคู่ไม่สามารถจะทำอย่างที่ใจต้องการได้อย่างสะดวกใจมากนัก เนื่องจากต้องคอยคิดถึงความรู้สึกของคนรอบข้าง และผลกระทบที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นเมื่อคุณมีโอกาสดี ๆ แบบนี้ก็ควรจะใช้มันให้เต็มที่จะได้ไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง
6. มีอิสระในการคบคน
ความหึงหวงเป็นอารมณ์ที่รุนแรง น่ากลัว และทำให้เกิดศัตรูง่ายที่สุด ซึ่งเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ สำหรับคนมีความรัก เพราะอยากจะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของคนคนนั้นเพียงคนเดียว แต่คนโสดนอกจากจะไม่ต้องเจอกับอารมณ์ที่น่ากลัวแบบนี้แล้ว ยังสามารถสร้างสังคมและเพื่อนใหม่ ๆ ได้อีกมากมายเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ตามสถานที่ท่องเที่ยว หรือที่ใดก็ได้บนโลกใบนี้ ที่สำคัญไม่ต้องมีใครมาหึงหวงหรือห้ามไม่ให้คุณเลือกคบคนด้วย
ความโสดไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอย่างที่ใครหลายคนคิด เพียงแค่คุณลองเปิดใจยอมรับความโสดในอีกด้านหนึ่งดูบ้าง แล้วคุณก็จะพบว่าความโสดนั้นมีข้อดีและสามารถสร้างความสุขให้กับชีวิตคุณได้ ด้วยเช่นกัน แถมความสุขเหล่านั้นยังมีแต่คนโสดเท่านั้นที่สามารถทำได้อีกด้วย รู้แบบนี้แล้วจะเศร้าโศกเสียใจกับความโสดไปทำไม...จริงไหมคะ
