ฉีดฟิลเลอร์ หว่างคิ้ว ร่องแก้ม เสี่ยงเนื้อตาย-ตาบอด


ฉีดฟิลเลอร์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          แพทย์เตือน ฉีดฟิลเลอร์ เสี่ยงเนื้อตาย-ตาบอด-อัมพฤกษ์ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงบริเวณหว่างคิ้วและร่องแก้ม แนะฉีดกับแพทย์ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง

          เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนัง แถลงข่าวเรื่อง ตาบอดเนื้อตาย ภัยร้ายจากฟิลเลอร์ โดยระบุว่า การฉีดฟิลเลอร์เสริมความงามที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนั้น เสี่ยงทำให้เนื้อตาย และหากร้ายแรงอาจเข้าเส้นเลือดจนทำให้ตาบอดได้

          โดย นพ.นภดล นพคุณ กล่าวว่า ปัจจุบันการฉีดสารเติมเต็ม หรือฟิลเลอร์ เป็นที่นิยมสูงมาก ส่วนใหญ่นิยมฉีดที่จมูกและคาง ซึ่งฟิลเลอร์มีอยู่หลายรูปแบบ ทั้งที่ไม่สลายตัวตามธรรมชาติ คือแบบซิลิโคนเหลว และแบบที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ คือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด ซึ่งเป็นสารเติมเต็มตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

          สำหรับผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ มีความร้ายแรงและรักษาได้ยาก โดยเริ่มจากการอักเสบมีหนองบริเวณที่ฉีด และติดเชื้อซ้ำซาก ร่างกายกำจัดออกได้ยาก ซึ่งเชื้อนี้จะปนอยู่กับฟิลเลอร์และไม่สลายตัว แม้จะรักษาอย่างไรก็ไม่สามารถเอาเชื้อออกได้หมด หรือเป็นตุ่มหนองจนทำให้เกิดเนื้อตาย และหากฉีดบริเวณใบหน้าสารฟิลเลอร์อาจเข้าเส้นเลือด จนทำให้ตาบอดได้ โดยตำแหน่งที่ฉีดแล้วเสี่ยงมากที่สุดคือ หว่างคิ้ว 58.3% และร่องแก้ม 33.3% เนื่องจากบริเวณนี้มีเส้นเลือดจำนวนมาก หากฉีดแล้วไปอุดตันหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา ก็จะทำให้สูญเสียการมองเห็น จนตาบอดสนิทได้ และหากมีการอุดตันของเส้นเลือดที่สมองร่วมด้วย อาจส่งผลให้เป็นอัมพฤกษ์ได้เช่นกัน

          ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ป่วยที่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการฉีดสารฟิลเลอร์ทั่วโลกถึง 61 ราย และพบผู้ป่วยที่ตาบอดในประเทศเกาหลี 44 ราย สหรัฐฯ 3 ราย และในประเทศไทยมีการยืนยันพบผู้ป่วยที่ตาบอดจากการฉีดสารฟิลเลอร์แล้ว 8 ราย แต่ 1 ใน 8 คนนี้ มีอาการไม่รุนแรงสามารถรักษาได้ทันเวลาและมีกลับมามองเห็นได้แล้ว ดังนั้น จึงขอแนะนำให้รับบริการในสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง และฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องเช่นกัน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฉีดฟิลเลอร์ หว่างคิ้ว ร่องแก้ม เสี่ยงเนื้อตาย-ตาบอด อัปเดตล่าสุด 5 มิถุนายน 2557 เวลา 16:02:45 3,312 อ่าน
TOP
x close