เนื่องจากหลายคนมองว่าการมีคนรักอยู่ข้าง ๆ ทำให้มีความสุขมากกว่า ดังนั้นก็เลยใช้ทั้งชีวิตไปกับการตามหาความรัก ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าทุกคนสามารถมีความสุขกับชีวิตโสดได้เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะเพิ่งย่างเข้าสู่วัยรุ่น โตเป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่การงานที่มั่นคง หรืออายุล่วงเลยไปถึงเลข 6 แล้วก็ตาม
วันนี้เราก็เลยนำวิธีสร้างความสุขสำหรับคนโสด โดยแบ่งตามช่วงอายุมาฝากกัน หลังจากนี้คนโสดจะได้มีความสุขกันถ้วนหน้าอย่างไรล่ะ
1. สาวโสดอายุ 20-30 ปี
หากในตอนนี้เพื่อนจะค่อย ๆ มีแฟนไปทีละคนสองคน หรือเจอคู่แท้จนถึงขั้นแต่งงาน ในขณะที่ตัวเองยังเป็นสาวโสดก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะในช่วงเวลานี้เป็นช่วงของการค้นหาตัวเอง และมีสาว ๆ อีกมากมายที่ยังโสดเหมือนกันกับคุณ ฉะนั้นแทนที่จะพยายามไขว่คว้าหาความรัก เอาเวลาเหล่านี้ไปตามหาฝันของตัวเองดีกว่า เนื่องจากหลายครั้งที่พบว่าสาวโสดหลายคนมักจะรู้สึกเสียดายกับการปล่อยให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ อีกทั้งการหมกมุ่นกับเรื่องนี้มากเกินไป ยังเป็นการกดดันตัวเองและทำให้สูญเสียความมั่นใจไปพร้อมกันด้วย
2. สาวโสดอายุ 30-40 ปี
แม้สาว ๆ ในวัยเดียวกันนี้จะมีครอบครัวไปเกือบหมดแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าอายุที่ย่างเข้าเลข 3 พร้อมกับสถานะโสดจะเป็นเรื่องแปลกอย่างที่ใครคิด อีกทั้งไม่มีอะไรมาการันตีสักหน่อยว่าสาวโสดที่อายุย่างเข้าเลข 3 แล้วจะต้องอยู่อย่างเดียวดายเสมอ เพราะอย่าลืมว่าในวัยนี้ผ่านโลกมามาก ทั้งที่เจอกับตัวเองและคนรอบข้าง เป็นธรรมดาที่จะมีประสบการณ์มากกว่าสาวที่อายุยังน้อย และอาจจะเนื้อหอมกว่าสมัยสาว ๆ ด้วยซ้ำ ฉะนั้นใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าโดยการทำสิ่งที่ทำให้ชีวิตสนุกสนานกันดีกว่า
3. สาวโสดอายุ 40-50 ปี
ต่อให้คนรอบข้างจะมีครอบครัวกันไปจนหมดแล้ว สาวโสดในวัยนี้ก็สามารถมีความสุขอย่างที่พวกเขามีได้เช่นกัน โดยนอกจากจะอาศัยงานอดิเรกที่ชอบทำ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ฟังเพลง ออกกำลังกาย หรือดูแลสวนแล้ว คุณยังมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่เพื่อออกไปสู่สังคมใหม่ ๆ มากกว่าคนที่มีครอบครัวแล้วด้วย ซึ่งพวกเขาเหล่านี้นี่แหละที่จะทำให้ชีวิตสาวโสดในวัย 40 มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ที่สำคัญก็คือสามารถคุยกับคนอื่นทั้งเพื่อนเพศเดียวกันหรือต่างเพศได้อย่างอิสระด้วย
4. สาวโสดอายุ 50-60 ปี
สำหรับในเวลานี้ก็ถึงเวลาที่คุณควรจะพึงพอใจและภูมิใจกับสิ่งที่มี เพียงเท่านี้ชีวิตของคุณก็เต็มไปด้วยความสุขแล้ว หากมีเวลาว่างก็ออกไปเยี่ยมหลาน ๆ ญาติ ๆ หรือเพื่อนบ้างก็ได้ เพราะคงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะคิดถึงเรื่องความรักแบบหนุ่มสาวอีกต่อไป หรือหากยังยึดติดอยู่กับมันอย่างเช่นที่เคยผ่านมา นอกจากจะทำให้ตัวเองรู้สึกหดหู่และเป็นกังวลมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้เกิดความเครียด ซึ่งเป็นต้นเหตุของหลายโรคร้ายแรงด้วย
5. อายุ 60 ปีขึ้นไป
ชีวิตของคุณจะมีความสุขที่สุดจนถึงบั้นปลายของชีวิต หากคุณอยู่กับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบันให้ได้ ไม่ว่าจะโสดมานานหรือเพิ่งมาโสดเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ก็ตาม เพราะส่วนใหญ่แล้วอายุเฉลี่ยของผู้หญิงจะสูงกว่าผู้ชาย ซึ่งถ้าหากจะอยู่คนเดียวตอนวัยนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย พร้อมกันนี้ยังมีคนโสดอีกมากที่เจอปัญหาเดียวกันกับคุณ ฉะนั้นใช้เวลาที่เหลือทำชีวิตให้มีความสุขเพื่อตัวเองและคนรอบข้างดีกว่า
เห็นไหมล่ะว่าไม่ว่าคุณจะเป็นโสดตอนอายุเท่าไรก็สามารถมีชีวิตที่ดีและมีความสุขได้ เพียงแค่หันมาโฟกัสที่ชีวิตของตัวเองให้มากกว่าการพยายามมองหาแต่ความรักที่ไม่ทางเจอเพียงอย่างเดียว ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระทำที่เสียเวลาแล้ว ยังอาจทำให้คุณรู้สึกเสียใจภายหลังที่ปล่อยให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
theguardian.com และ sixtyandme.com
