Endotine หรือ เอนโดไทน์ คืออะไร ช่วยเรื่องใดบ้าง ทำแล้วยกกระชับใบหน้าและลดริ้วรอยได้จริงไหม ใครที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย มาดูข้อดีของ Endotine กัน เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลดลง จึงทำให้ผิวหน้าเกิดความหย่อนคล้อย เป็นริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่และไม่สดใส ซึ่งปัญหาความหย่อนคล้อยนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ในปัจจุบันจึงมีวิธีศัลยกรรมแบบ Endotine อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดและได้ผลลัพธ์ในระยะยาว วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอพาไปรู้จักวิธีการดึงหน้า Endotine ว่าคืออะไร เหมาะกับใคร ทำแล้วช่วยเรื่องอะไรบ้าง พร้อมข้อดีและข้อเสียของ Endotine ตามมาดูกันเลยค่ะ เอนโดไทน์ (Endotine) คือ วัสดุทางการแพทย์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อยึดเกาะผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น ซึ่งวัสดุ Endotine จะมีลักษณะเป็นหมุด มีก้านคล้ายกับหนามยื่นออกมาทั่วบริเวณหมุด ขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตร ใช้สำหรับยึดและดันผิวที่หย่อนคล้อยหรือยุบตัวลงให้กลับมาตึงอีกครั้ง ด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง ทำให้เกิดแผลขนาดเล็ก พักฟื้นไม่นาน ทั้งยังใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยสูงและสามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ การผ่าตัดดึงหน้า Endotine เหมาะกับผู้ที่ประสบปัญหาใบหน้า ดังนี้ ผู้ที่มีปัญหารอยย่น ร่องลึก และริ้วรอยบริเวณหน้าผากอย่างชัดเจน แม้ไม่ได้แสดงสีหน้า ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก หางตาตก หรือตาสองชั้นหลบใน ที่เกิดจากความหย่อนคล้อย ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยจากความหย่อนคล้อยของใบหน้าส่วนบน เช่น ระหว่างคิ้ว คิ้ว และดวงตา ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดยกกระชับที่เปิดแผลกว้าง หรือผู้ที่กังวลเรื่องรอยแผล ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว 5-10 ปี โดยไม่ต้องทำหัตถการอื่นบ่อย ๆ การผ่าตัดดึงหน้า Endotine ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้าดังต่อไปนี้ ลดขนาดหน้าผากให้เล็กลง ด้วยการผ่าตัดเพื่อปรับกรอบหน้าบริเวณไรผมให้หน้าผากมีความแคบลง แก้ปัญหาคิ้วตกได้อย่างตรงจุด จากการผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วให้ยกสูงขึ้น และทำให้มีช่องว่างระหว่างคิ้วกับชั้นตาเพิ่มขึ้นด้วย ลดรอยย่นที่หน้าผากได้ดี จากการใช้ Endotine ยึด เพื่อให้เกิดการดึงผิวด้วยแรงที่สม่ำเสมอมากกว่าการผ่าตัดดึงหน้าด้วยไหมแบบทั่วไป ปรับให้ดวงตาดูกลมโตและสดใสขึ้น ด้วยการผ่าตัดดึงผิวหนังบริเวณหน้าผาก ทำให้หนังตาและหางตาถูกยกขึ้น เผยให้เห็นชั้นตาที่ชัดเจนขึ้น เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการยอมรับจาก FDA สหรัฐอเมริกา ว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ผ่าตัดผ่านกล้อง Endoscopic ที่มีความแม่นยำและปลอดภัยสูง จึงให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม วัสดุ Endotine ช่วยเพิ่มแรงดึงผิวที่สม่ำเสมอกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบทั่วไป ทำให้กระชับผิวหน้าได้ดีกว่า Endotine เป็นวัสดุที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ใช้เทคนิคการเปิดแผลขนาดเล็ก และซ่อนรอยแผลไว้หลังแนวผม จึงหมดกังวลเรื่องรอยแผลเป็น และผสานแผลรวดเร็ว ใช้ระยะเวลาการผ่าตัดสั้นกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม เกิดผลข้างเคียงหลังผ่าตัดน้อย อาการบวมช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบทั่วไป แผลผ่าตัดสมานตัวเร็ว และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว สามารถคงอยู่ได้นาน 5-10 ปี การผ่าตัดดึงหน้า Endotine มีความซับซ้อนและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จึงต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญสูง และต้องใช้ห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ Endotine เป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้ยาสลบ หากไม่ได้รับการดูแลจากวิสัญญีแพทย์ที่เชี่ยวชาญอาจเกิดอันตรายขณะผ่าตัดได้ หลังการผ่าตัดอาจมีอาการชาบริเวณหนังศีรษะ หน้าผาก หรือคิ้วชั่วคราว เนื่องจากเส้นประสาทได้รับความกระทบกระเทือน การดึงหน้า Endotine เป็นการผ่าตัดที่สามารถเลือกตำแหน่งและควบคุมทิศทางที่ต้องการยกกระชับได้ดี รวมทั้งให้ผลลัพธ์ในระยะยาวกว่าการร้อยไหม เนื่องจาก Endotine เป็นการผ่าตัดที่ใช้ยาสลบ ดังนั้นจึงไม่รู้สึกเจ็บในขณะทำ แต่หลังจากฟื้นแล้วอาจรู้สึกปวดตึงบริเวณแผล โดยให้รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อลดอาการได้ Endotine ทำมาจากวัสดุ Bio-Plastic ที่มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก USFDA ซึ่งหลังการผ่าตัดจะสามารถย่อยสลายได้เองภายใน 1 ปี โดยไม่เหลือตกค้างในร่างกาย การดึงหน้า ยกคิ้ว Endotine เป็นการยกกระชับที่ให้ผลลัพธ์แบบกึ่งถาวร สามารถอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดของแต่ละคนด้วย จะเห็นได้ว่า การศัลยกรรมดึงหน้า Endotine เป็นการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยที่เห็นผลในทันที ช่วยให้ผิวเรียบตึงเหมือนย้อนวัย และให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานโดยไม่ต้องทำหัตถการบ่อย ๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์และการดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน ขอบคุณข้อมูลจาก : th.yanhee.net, bangkokhospital.com, rattinan.com
แสดงความคิดเห็น