โรส ศิรินทิพย์ เปิดใจหลังผ่าตัดเอาหน้าอกออก เผยเหตุผลที่ตัดสินใจแบบนี้ ไม่รู้จะเก็บไปทำไม จนได้ตัดจริงเพราะเสื้อกล้ามหมด กับโมเมนต์ขิง แฟนดูแลดีสุด ๆ ทำเอาหลายคนเห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ สำหรับนักร้องดัง โรส ศิรินทิพย์ หลังเจ้าตัวไปผ่าตัดหน้าอกออก โดยก่อนหน้านี้ทาง ไนน์เอ็นเตอร์เทน ก็ได้เผยบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของโรสเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งสาเหตุตัดสินใจผ่าตัด และอัปเดตเกี่ยวกับความรัก ที่มีแฟนคอยซัพพอร์ตอย่างดี ทั้งดูแลหลังการผ่าตัด และคอยเป็นกำลังใจในเรื่องต่าง ๆ ทั้งนี้ โรส ศิรินทิพย์ ได้ตอบแบบขำ ๆ ว่า เป็นการผ่าตัดเสริมนม เสริมเป็น 6 เต้า จากตอนแรกมี 2 (ล้อเล่น) ความจริงคือเป็นการตัดหน้าอก รู้สึกว่าเราโตมาในระยะนึงแล้ว รู้สึกว่าไม่รู้จะเก็บไปทำไม รู้สึกว่าเราไม่ได้ชอบ เราไม่คงจะไม่ได้ใส่ชุดราตรีเกาะอกอะไรอยู่แล้ว มันก็คงไม่มีอะไรให้เกาะอยู่แล้ว เราก็เลยก็ออกไปชะจะได้แต่งตัวง่าย ๆ มันมีช่วงนึงตอนที่ตนไปเรียนดำน้ำบ่อย ๆ รู้สึกว่าเราต้องมาใส่อะไรเยอะแยะ มันอึดอัด มันเหนื่อย เรารู้สึกว่าแต่งตัวอะไรก็ยาก ต้องใส่เสื้อกล้าม ก็รู้สึกว่าเอาออกไปเลยละกัน จะได้สบาย ๆ แล้วก็สบายจริง กว่าจะตัดสินใจไปเอาออกไม่ยากเลย คิดแล้วก็หาสถานที่ คือเราอยากทำนานแล้วแต่ติดด้วยหลายอย่าง ด้วยงาน ต้องมีเวลาพักฟื้น ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง พอช่วงนึงเหมือนเสื้อกล้ามหมด เราก็รู้สึกว่าจะสั่งซื้อเสื้อกล้ามเพิ่มหรือเราจะตัดออกเลย ก็คิดว่าตัดเลยแล้วกัน ถามว่าน่ากลัวไหม ตนไม่กลัวเลย รู้สึกว่าไม่ชอบก็เอาออกไป ตอนที่ผ่าตัดก็ไม่เจ็บ ตอนจะผ่าตัดก็ไม่ได้คิดอะไรเลย จนแฟนถามว่ากลัวหรือเปล่า ก็คิดว่าเราต้องกลัวหรือเปล่า หรือต้องกลัว พอจะเข้าผ่าตัดหมอพยาบาลก็ถามกลัวไหมคะ ไม่ต้องกลัวนะคะ เราก็คิดว่าหรือฉันต้องกลัว มันไม่น่ากลัว เพราะเราก็วางยาสลบ มันไม่ได้เจ็บ แต่ตอนหลังผ่าตัดจะมีอยู่ไม่กี่วันที่เรายังดูแลตัวเองไม่ได้ อาจต้องมีคนมาดูแล ถ้าไม่มีแฟนก็ลำบากหน่อยนะ คือมีคนดูแลก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็พอได้แหละ ใช้เงินจ้างคนดูแลไป แต่เราไม่ต้องเสียเงินเพราะมีพยาบาลส่วนตัว ก็จะง่ายกว่าบางคนหน่อย (หัวเราะ) พยาบาลส่วนตัวก็ดูแลดีมาก ชีวิตมันก็ง่ายไง ใครที่ไม่มีก็ลำบากหน่อย เรื่องแฟนก็ดี ช่วยกันทำมาหากินดี ดูแลในทุก ๆ ด้าน เป็นแอดมินคอยดูแล ถ้าอยากรู้ว่าเขาเป็นใครก็ โทร. มาจ้างงานได้เลย เขาเหมือนทำให้เรากล้าขึ้น รวมถึงเรื่องการทำหน้าอกด้วย หรือการทำซิงเกิลใหม่ รู้สึกว่าเชื่อมั่นในตัวเรากว่าที่เราเชื่อในตัวเองอีก ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น เพราะเขาอยู่ข้างหลัง คอยซัพพอร์ตเราตลอด ปีหน้าสมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว ก็อยากจะทำให้ตัวเองมั่นคงกว่านี้ ได้มีอะไรทุกอย่างพร้อม วันนั้นจะมาถึงหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าได้ก็โอเค ถ้าเขายอมก็โอเค อาจจะไม่ได้ถาม สวมแหวนไปเลย กับแฟนเราก็ค่อนข้างเข้าใจกัน ปรับตัวกันมาประมาณนึงแล้ว คิดว่าเขาเป็นคนที่เข้าใจเรามากที่สุดแล้ว ต่างคนต่างเข้าใจกัน คิดว่าแต่งหรือไม่แต่งก็โอเค แต่แต่งก็ดี เพราะในเรื่องของกฎหมาย อะไรหลายอย่างที่เราเคยกังวลกันมา ตอนนี้ถูกต้องแล้ว ก็ยินดีกับทุก ๆ คนด้วย
แสดงความคิดเห็น