เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยดุสิต หนึ่งในชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบ ในการเสด็จทอดพระเนตรการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในงานโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เมื่อคืนวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงปรากฏพระองค์ด้วยพระสิริโฉมอันเปล่งประกาย สะท้อนความผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมไทยกับแฟชั่นร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยทรงเลือกฉลองพระองค์ ชุดไทยดุสิต ซึ่งเป็นชุดไทยพระราชนิยม แบบที่ 7 ในบรรดาชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบ เป็นแบบที่ใช้ในโอกาสกลางคืน แทนการสวมชุดราตรีแบบตะวันตก จุดเด่นอยู่ที่โครงเสื้อไม่มีแขน คอกว้างทั้งด้านหน้าและหลัง เพิ่มความอ่อนช้อยอย่างไทย พร้อมการปักลวดลายวิจิตรด้วยไข่มุก ดิ้นเงิน ดิ้นทอง และลูกปัด ที่สะท้อนรสนิยมชั้นสูงได้อย่างสง่างาม สำหรับ "ชุดไทยดุสิต" ตั้งตามชื่อพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งชุดไทยดุสิตที่ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงในครั้งนี้ ออกแบบและตัดเย็บโดย ธีระพันธ์ วรรณรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบแฟชั่น) ประจำปี 2562 ซึ่งเลือกใช้ผ้าไหมยกดอกสีดำ ผสมผสานลวดลายแบบโบราณเข้ากับเทคนิคตัดเย็บสมัยใหม่ จนเกิดเป็นผลงานชิ้นเอกที่ทั้งหรูหราและเปี่ยมด้วยอัตลักษณ์ไทย เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเป็นผู้นำด้านแฟชั่นที่ยืนหยัดในความเป็นไทย และทรงสืบสานพระราชปณิธานของ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงนำความงดงามของวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ พระองค์ยังทรงสานต่อพระราชกรณียกิจด้านศิลปหัตถกรรมไทย โดยเฉพาะงานแฟชั่นและผ้าไทย ด้วยพระวิสัยทัศน์อันล้ำค่า ทั้งนี้ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงอนุรักษ์ชุดไทยพระราชนิยมไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม “ชุดไทยดุสิต” จึงไม่เพียงเป็นเครื่องแต่งกาย หากแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาติไทย ซึ่งพระองค์ทรงสวมใส่ด้วยพระสิริโฉมและพระเกียรติอย่างงดงาม การปรากฏพระองค์ของ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ในชุดไทยดุสิตครั้งนี้ ไม่เพียงแสดงถึงพระสิริโฉมที่งดงามจับตาเท่านั้น แต่ยังเป็นการย้ำเตือนว่า แฟชั่นไทยมีคุณค่าเหนือกาลเวลา และด้วยพระปรีชาด้านศิลปะของพระองค์ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาภาคภูมิใจในรากเหง้าแห่งความเป็นไทย
แสดงความคิดเห็น