ผลตรวจคลิปเสียง คิมซูฮยอน - คิมแซรน ออกมาแล้ว หลังถูกกล่าวหาใช้ AI หลังใช้เวลาพิสูจน์นาน 7 เดือน ด้านทนายความคิมซูฮยอน ไม่พอใจผล ตอบโต้ทันที เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา กรณีข้อพิพาทระหว่าง คิมซูฮยอน และครอบครัวของ คิมแซรน ผู้ล่วงลับ กลายเป็นคดีอื้อฉาว ภายหลังจากทางผู้แทนกฎหมาย และช่อง Garosero Research Institute ได้อ้างว่า มีคลิปเสียงของคิมแซรนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศตั้งแต่เธอยังเป็นผู้เยาว์ ซึ่งในขณะนั้นทาง Gold Medalist ต้นสังกัดคิมซูฮยอน ได้ออกมาตอบโต้และปฏิเสธทันที โดยอ้างว่าสร้างขึ้นโดยใช้ AI และฟ้องร้องดำเนินการทางกฎหมาย ความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นนี้ วันที่ 18 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์ The Chosun Daily เผยว่า หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทางตำรวจได้ขอให้สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติเกาหลีใต้ (NFS) ช่วยทำการวิเคราะห์คลิปวิดีโอดังกล่าว ล่าสุด ทางสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ฯ ได้แจ้งผลการตรวจสอบคลิปเสียงมายังสถานีตำรวจกังนัม ในกรุงโซล โดยผลปรากฏว่า "ไม่สามารถระบุได้" ว่าการบันทึกเสียงนั้นถูกดัดแปลงโดย AI หรือไม่ โดยรายงานชี้ให้เห็นว่า สาเหตุหลักคือตัวอย่างที่ส่งไปตรวจสอบนั้นไม่ใช่ "ไฟล์บันทึกเสียงต้นฉบับ" แต่เป็นไฟล์ที่ตำรวจถอดเสียงมาจากงานแถลงข่าว ไฟล์ดังกล่าวมีเสียงรบกวนมาก ทำให้เทคโนโลยีในปัจจุบันยากที่จะระบุได้ว่ามีร่องรอยการดัดแปลงโดย AI หรือไม่ อย่างไรก็ดี ทางตำรวจกำลังตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อสิ่งของที่ยึดมาได้ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตพีซี เพื่อพิจารณาประกอบว่าเนื้อหาในไฟล์บันทึกเสียงนั้นเป็นเท็จหรือไม่ หลังจากผลสรุปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ทางด้านทนายความของคิมซูฮยอน ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจ และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจ ทั้งทำงานล่าช้า หลังจากฟ้องร้องไปถึง 3 เดือน ถึพิ่งส่งคลิปเสียงไปตรวจวิเคราะห์ และยังมีบกพร่องร้ายแรงในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน กล่าวหาว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ขอรับคลิปบันทึกเสียงต้นฉบับ ทำให้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง "เพียงเพราะผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถระบุได้ว่ามีการดัดแปลงด้วย AI หรือไม่ ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จ" โกซังรก ทนายความของคิมซูฮยอน กล่าว ขณะที่บนโลกออนไลน์ผู้คนต่างมีความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้แตกต่างกันออกไป โดยส่วนหนึ่งสังเกตว่า ในคลิปเสียงดังกล่าวมีช่วงหยุดพูดและเสียงสั่นเครือ ซึ่งดูเป็นธรรมชาติเกินกว่าที่ AI จะเลียนแบบได้ ทั้งยังตั้งคำถามว่าฝ่ายของคิมซูฮยอนกำลังใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แฟนคลับบางส่วนของ คิมซูฮยอน ได้ออกมาปกป้องนักแสดง โดยโต้แย้งว่า ไม่ควรเชื่อเนื้อหาที่เผยแพร่ออกไปโดยปราศจากหลักฐานที่แน่ชัด พร้อมทั้งเรียกร้องให้สาธารณชนเคารพคิมแซรนผู้ล่วงลับ และหยุดการแสวงหาประโยชน์จากผู้เสียชีวิต