ภาพจาก Garosero Research Institute
ภาพจาก Instagram ron_sae
ความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นนี้ วันที่ 18 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์ The Chosun Daily เผยว่า หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทางตำรวจได้ขอให้สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติเกาหลีใต้ (NFS) ช่วยทำการวิเคราะห์คลิปวิดีโอดังกล่าว ล่าสุด ทางสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ฯ ได้แจ้งผลการตรวจสอบคลิปเสียงมายังสถานีตำรวจกังนัม ในกรุงโซล โดยผลปรากฏว่า "ไม่สามารถระบุได้" ว่าการบันทึกเสียงนั้นถูกดัดแปลงโดย AI หรือไม่
โดยรายงานชี้ให้เห็นว่า สาเหตุหลักคือตัวอย่างที่ส่งไปตรวจสอบนั้นไม่ใช่ "ไฟล์บันทึกเสียงต้นฉบับ" แต่เป็นไฟล์ที่ตำรวจถอดเสียงมาจากงานแถลงข่าว ไฟล์ดังกล่าวมีเสียงรบกวนมาก ทำให้เทคโนโลยีในปัจจุบันยากที่จะระบุได้ว่ามีร่องรอยการดัดแปลงโดย AI หรือไม่ อย่างไรก็ดี ทางตำรวจกำลังตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อสิ่งของที่ยึดมาได้ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตพีซี เพื่อพิจารณาประกอบว่าเนื้อหาในไฟล์บันทึกเสียงนั้นเป็นเท็จหรือไม่
ภาพจาก Instagram soohyun_k216
หลังจากผลสรุปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ทางด้านทนายความของคิมซูฮยอน ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจ และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจ ทั้งทำงานล่าช้า หลังจากฟ้องร้องไปถึง 3 เดือน ถึพิ่งส่งคลิปเสียงไปตรวจวิเคราะห์ และยังมีบกพร่องร้ายแรงในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน กล่าวหาว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ขอรับคลิปบันทึกเสียงต้นฉบับ ทำให้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง
"เพียงเพราะผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถระบุได้ว่ามีการดัดแปลงด้วย AI หรือไม่ ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จ" โกซังรก ทนายความของคิมซูฮยอน กล่าว
ภาพจาก Instagram ron_sae
ขณะที่บนโลกออนไลน์ผู้คนต่างมีความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้แตกต่างกันออกไป โดยส่วนหนึ่งสังเกตว่า ในคลิปเสียงดังกล่าวมีช่วงหยุดพูดและเสียงสั่นเครือ ซึ่งดูเป็นธรรมชาติเกินกว่าที่ AI จะเลียนแบบได้ ทั้งยังตั้งคำถามว่าฝ่ายของคิมซูฮยอนกำลังใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แฟนคลับบางส่วนของ คิมซูฮยอน ได้ออกมาปกป้องนักแสดง โดยโต้แย้งว่า ไม่ควรเชื่อเนื้อหาที่เผยแพร่ออกไปโดยปราศจากหลักฐานที่แน่ชัด พร้อมทั้งเรียกร้องให้สาธารณชนเคารพคิมแซรนผู้ล่วงลับ และหยุดการแสวงหาประโยชน์จากผู้เสียชีวิต
ภาพจาก Instagram soohyun_k216






