x close

เมโสแฟต ฉีดหน้าเรียว-สลายไขมันส่วนเกิน ดีจริงไหม ?

          เมโสแฟต หรือ Meso Fat ที่หลายคนกำลังสงสัยว่า เมโสแฟต คืออะไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาไขข้อสงสัยให้สาว ๆ ได้กระจ่างแจ้งกันแล้ว สำหรับใครที่อยากรู้ ตามมาศึกษาไว้เป็นข้อมูลกันเลย

เมโสแฟต

          ก่อนอื่นต้องขอเฉลยก่อนว่า เมโสแฟต (Meso Fat) คือการสลายไขมันส่วนเกินนั่นเอง โดยในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย รวมถึงช่วยดูแลรักษาหุ่นให้กับสาว ๆ ที่อยากสวยเร็วทันใจด้วยการฉีดยาสลายไขมันส่วนเกิน ซึ่งวิธีนี้สามารถจะกำจัดไขมันในจุดที่ไม่พึงประสงค์ในร่างกายของเราได้ตั้งแต่จุดเล็ก ๆ ไปจนถึงจุดใหญ่ ๆ อย่างเช่น แก้ม คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก เป็นต้น สำหรับวิธีนี้แม้จะเป็นวิธีที่เจ็บตัวนิดหน่อย แต่ก็สามารถทำให้สาว ๆ สวยได้ทันใจ และสร้างความมั่นใจให้กลับมาได้เร็วขึ้น จึงไม่แปลกเลยค่ะที่วิธีการทำเมโสแฟต หรือฉีดสลายไขมันนี้จะกำลังเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ อยู่ในขณะนี้

          สำหรับการทำเมโสแฟตในระยะแรก ๆ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว จะยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไรนัก เพราะตัวยาที่นำมาฉีดในช่วงแรก ๆ จะได้ผลช้า และมีผลข้างเคียง เจ็บ และมีรอยฟกช้ำหลังฉีดค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาตัวยาฉีดสลายไขมันให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ได้ผลมากขึ้น เร็วขึ้น มีผลข้างเคียงและฟกช้ำหลังฉีดน้อยลง

          โดยแพทย์จะใช้เข็มฉีดยา ฉีดส่งยาซึ่งมีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมอยู่ในชั้นไขมันเข้าไปในจุดที่เราต้องการ โดยจะฉีดเข้าไปลึกถึงส่วนชั้นไขมัน ซึ่งกลไกของตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะทำให้ผนังไขมันแตกตัวออก ทำให้ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อน ๆ อยู่สลายออกมา และกลายเป็นไขมันเหลว จากนั้นกลไกของร่างกายก็จะขับไขมันออกทางปัสสาวะและทางอุจจาระ ซึ่งระยะเวลาในการฉีดในแต่ละจุดนั้นจะใช้เวลาแตกต่างกันไป อาจจะอาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ต่อครั้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นไขมันของแต่ละคน

เมโสแฟต

เมโสแฟต ทำตรงไหนได้บ้าง ?

          ตำแหน่งที่สามารถทำการสลายไขมันด้วยวิธีเมโสแฟตได้นั้นมีหลายตำแหน่งด้วยกัน แต่ที่มักจะนิยมทำกันก็คือ ฉีดลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก, ลดคางหรือเหนียง, ลดต้นแขน ต้นขา น่อง, ลดพุง-หน้าท้อง, แก้ไขจมูกบานให้เล็กลง หรือแก้ไขหนังตาบนที่หย่อนคล้อย เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่ทำเมโสแฟตแล้ว สาว ๆ ควรดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร และออกกำลังกายเบา ๆ ควบคู่กันไปด้วยนะคะ เพราะการดื่มน้ำจะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกทางปัสสาวะได้เร็วขึ้น และการออกกำลังกายก็จะทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น ทั้งฟิตทั้งเฟิร์มแบบนี้ รับรองว่าหุ่นของสาว ๆ จะสวยเป๊ะได้แล้วเร็วทันใจแน่นอน

เมโสแฟต อยู่ได้นานไหม ?

          สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่า เมโสแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน ? คำตอบก็คือประมาณ 4-6 เดือนค่ะ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีด รวมถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลด้วย

เมโสแฟต ราคาประมาณเท่าไร ?

          การฉีดเมโสแฟตมักจะคิดค่าบริการเป็นจุด ๆ เฉพาะส่วน รวมทั้งตามจำนวนที่ฉีด ซึ่งนับเป็นยูนิตด้วย โดยทั่วไปราคาฉีดเมโสแฟตจะมีตั้งแต่ 1,500-15,000 บาท แตกต่างกันไปตามโปรโมชั่น ปริมาณ จำนวนครั้ง และตำแหน่งที่ฉีด

เมโสแฟต

ข้อควรระวังในการทำเมโสแฟต

          สำหรับการทำเมโสแฟตปัจจุบันก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ โดยสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกคนนะคะ เพราะวิธีนี้ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์ คนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ สำหรับสาว ๆ ที่มีอาการหรือเป็นโรคเหล่านี้อยู่ห้ามทำเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะโรคที่กล่าวมานี้ต้องรักษาด้วยยาหลายขนาน ดังนั้นการฉีดสลายไขมันด้วยวิธีเมโสแฟตอาจจะเป็นอันตรายต่อโรคที่เป็นอยู่ได้

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงจากเมโสแฟต

          เนื่องจากเทคนิคเมโสแฟตยังไม่เคยมีงานวิจัยทางการแพทย์ที่รองรับอย่างชัดเจนว่าสลายไขมันได้ผล  อีกทั้งยาบางตัวนั้นได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาเพื่อการทาเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับฉีด ดังนั้นเมื่อยาประเภทนี้เข้าสู่ร่างกายจึงไม่ปลอดภัย และยิ่งถ้าวิธีการฉีดไม่สะอาดพอก็อาจเกิดผลข้างเคียงบริเวณที่ฉีดสารเข้าไปได้ โดยอาจก่อให้เกิดอาการดังต่อไปนี้

          - เกิดอาการแพ้บริเวณที่ฉีดสารเข้าผิวหนัง

          - เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราที่ผิวหนัง

          - ผิวหนังบริเวณที่ฉีดสารมีสีเปลี่ยนแปลงไป

          - เกิดรอยฟกช้ำบริเวณที่ฉีดสาร

          - เกิดแผล หรือแผลเป็นบริเวณที่ฉีดสารเข้าไป

          - ผิวหนังเป็นคลื่นจากการสลายไขมันเป็นหย่อม ๆ เนื่องจากเวลาฉีดไม่ได้ฉีดเพียงจุดเดียว

           - โรคชั้นไขมันอักเสบ (Panniculitis)


เมโสแฟต

          เพื่อความปลอดภัย ผู้ป่วยจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเปิดเผยข้อมูลสุขภาพที่อาจส่งผลกับการทำเมโสแฟต เพื่อป้องกันผลข้างเคียงซึ่งอาจเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง ทั้งนี้การฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย สารที่ฉีดต้องได้รับการรับรองจาก อย. และผู้ฉีดต้องเป็นแพทย์เท่านั้น หากฉีดกับหมอเถื่อนอาจจะเกิดอันตรายรุนแรงจนเสียโฉมได้ อย่างที่มีข่าวออกมาอยู่บ่อย ๆ

          สาว ๆ ที่รักสวยรักงาม ไม่ว่าเทรนด์ความงามแบบใดจะมาแรง ควรศึกษาถึงผลดี-ผลเสียให้ละเอียดก่อน เพราะหากพลาดไปแล้วจะต้องมานั่งทุกข์ใจ สูญเสียเงินรักษาซ้ำ แถมยังได้รอยตำหนิมาเป็นของแถม ทางที่ดี ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่านะคะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมโสแฟต ฉีดหน้าเรียว-สลายไขมันส่วนเกิน ดีจริงไหม ? อัปเดตล่าสุด 13 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 09:43:08 47,215 อ่าน
TOP