เมโสแฟต หรือ Meso Fat ที่หลายคนกำลังสงสัยว่า เมโสแฟต คืออะไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาไขข้อสงสัยให้สาว ๆ ได้กระจ่างแจ้งกันแล้ว สำหรับใครที่อยากรู้ ตามมาศึกษาไว้เป็นข้อมูลกันเลย

สำหรับการทำเมโสแฟตในระยะแรก ๆ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว จะยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไรนัก เพราะตัวยาที่นำมาฉีดในช่วงแรก ๆ จะได้ผลช้า และมีผลข้างเคียง เจ็บ และมีรอยฟกช้ำหลังฉีดค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาตัวยาฉีดสลายไขมันให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ได้ผลมากขึ้น เร็วขึ้น มีผลข้างเคียงและฟกช้ำหลังฉีดน้อยลง
โดยแพทย์จะใช้เข็มฉีดยา ฉีดส่งยาซึ่งมีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมอยู่ในชั้นไขมันเข้าไปในจุดที่เราต้องการ โดยจะฉีดเข้าไปลึกถึงส่วนชั้นไขมัน ซึ่งกลไกของตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะทำให้ผนังไขมันแตกตัวออก ทำให้ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อน ๆ อยู่สลายออกมา และกลายเป็นไขมันเหลว จากนั้นกลไกของร่างกายก็จะขับไขมันออกทางปัสสาวะและทางอุจจาระ ซึ่งระยะเวลาในการฉีดในแต่ละจุดนั้นจะใช้เวลาแตกต่างกันไป อาจจะอาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ต่อครั้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นไขมันของแต่ละคน

ตำแหน่งที่สามารถทำการสลายไขมันด้วยวิธีเมโสแฟตได้นั้นมีหลายตำแหน่งด้วยกัน แต่ที่มักจะนิยมทำกันก็คือ ฉีดลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก, ลดคางหรือเหนียง, ลดต้นแขน ต้นขา น่อง, ลดพุง-หน้าท้อง, แก้ไขจมูกบานให้เล็กลง หรือแก้ไขหนังตาบนที่หย่อนคล้อย เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่ทำเมโสแฟตแล้ว สาว ๆ ควรดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร และออกกำลังกายเบา ๆ ควบคู่กันไปด้วยนะคะ เพราะการดื่มน้ำจะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกทางปัสสาวะได้เร็วขึ้น และการออกกำลังกายก็จะทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น ทั้งฟิตทั้งเฟิร์มแบบนี้ รับรองว่าหุ่นของสาว ๆ จะสวยเป๊ะได้แล้วเร็วทันใจแน่นอน
เมโสแฟต อยู่ได้นานไหม ?
สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่า เมโสแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน ? คำตอบก็คือประมาณ 4-6 เดือนค่ะ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีด รวมถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลด้วย
การฉีดเมโสแฟตมักจะคิดค่าบริการเป็นจุด ๆ เฉพาะส่วน รวมทั้งตามจำนวนที่ฉีด ซึ่งนับเป็นยูนิตด้วย โดยทั่วไปราคาฉีดเมโสแฟตจะมีตั้งแต่ 1,500-15,000 บาท แตกต่างกันไปตามโปรโมชั่น ปริมาณ จำนวนครั้ง และตำแหน่งที่ฉีด

สำหรับการทำเมโสแฟตปัจจุบันก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ โดยสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกคนนะคะ เพราะวิธีนี้ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์ คนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ สำหรับสาว ๆ ที่มีอาการหรือเป็นโรคเหล่านี้อยู่ห้ามทำเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะโรคที่กล่าวมานี้ต้องรักษาด้วยยาหลายขนาน ดังนั้นการฉีดสลายไขมันด้วยวิธีเมโสแฟตอาจจะเป็นอันตรายต่อโรคที่เป็นอยู่ได้
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงจากเมโสแฟต
เนื่องจากเทคนิคเมโสแฟตยังไม่เคยมีงานวิจัยทางการแพทย์ที่รองรับอย่างชัดเจนว่าสลายไขมันได้ผล อีกทั้งยาบางตัวนั้นได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาเพื่อการทาเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับฉีด ดังนั้นเมื่อยาประเภทนี้เข้าสู่ร่างกายจึงไม่ปลอดภัย และยิ่งถ้าวิธีการฉีดไม่สะอาดพอก็อาจเกิดผลข้างเคียงบริเวณที่ฉีดสารเข้าไปได้ โดยอาจก่อให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
- เกิดอาการแพ้บริเวณที่ฉีดสารเข้าผิวหนัง
- เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราที่ผิวหนัง
- ผิวหนังบริเวณที่ฉีดสารมีสีเปลี่ยนแปลงไป
- เกิดรอยฟกช้ำบริเวณที่ฉีดสาร
- เกิดแผล หรือแผลเป็นบริเวณที่ฉีดสารเข้าไป
- ผิวหนังเป็นคลื่นจากการสลายไขมันเป็นหย่อม ๆ เนื่องจากเวลาฉีดไม่ได้ฉีดเพียงจุดเดียว
- โรคชั้นไขมันอักเสบ (Panniculitis)

สาว ๆ ที่รักสวยรักงาม ไม่ว่าเทรนด์ความงามแบบใดจะมาแรง ควรศึกษาถึงผลดี-ผลเสียให้ละเอียดก่อน เพราะหากพลาดไปแล้วจะต้องมานั่งทุกข์ใจ สูญเสียเงินรักษาซ้ำ แถมยังได้รอยตำหนิมาเป็นของแถม ทางที่ดี ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่านะคะ