หากคุณมัวแต่มองหาข้อเสียของเขา คุณเองก็จะไม่มีทางเห็นส่วนดีของเขาเช่นกัน ที่สำคัญเลยคือไม่มีใครสมบูรณ์แบบรวมทั้งตัวคุณเองด้วย ก่อนจะเอาความเป็นตัวเองตัดสินว่าเขาผิดอย่างนั้นอย่างนี้ ลองถามตัวเองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณก็มีข้อผิดพลาดหรือข้อเสียด้วยเหมือนกันไม่ใช่หรือ หากแต่เขายังรับได้ในความเอาใจแต่ใจหรือความเหวี่ยงวีนของคุณ แล้วทำไมคุณจะไม่อภัยในสิ่งที่เขาทำพลาดไปบ้างล่ะ
2. เชื่อมั่นในส่วนดีของเขา
หันมามองในส่วนดีของเขาดีกว่ากันเยอะเลย ลองคิดดูว่าในยามที่คุณเจ็บไข้ได้ป่วย ใครกันที่ดูแลคุณไม่ห่าง หรือในยามที่คุณต้องการกำลังใจ เขาก็ไม่เคยทิ้งคุณไปไหนเลย ไหนจะคอยตามใจ เอาใจ และห่วงใยคุณอีก เห็นไหมล่ะว่าคุณรักของคุณก็มีส่วนดีไม่น้อยเลย
3. คุณโชคดีที่มีเขาเคียงข้าง
ในขณะที่เพื่อน ๆ ของคุณต้องเจอกับแฟนหนุ่มที่คอยทำให้ช้ำใจ เพราะนอกใจหรือทำร้ายร่างกาย แต่คุณเองกลับมีคนรักที่คอยเคียงข้างคุณเสมอ แม้เขาจะทำผิดพลาดหรือทำตัวหน้าเบื่อไปบ้างก็เถอะ แต่ผู้ชายที่ซื่อสัตย์กับคุณทั้งต่อหน้าและลับหลังหาไม่ได้ง่าย ๆ นะ ยิ่งหากคนรอบข้างมาบอกกับคุณว่าอิจฉาที่คุณมีแฟนอย่างเขาด้วยแล้ว ก็การันตีได้เลยว่าเขาดีกับคุณจริง ๆ เพราะฉะนั้นอย่ามัวคิดเล็กคิดน้อยทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ
4. หัวเราะให้กับความผิดพลาด
แม้ว่าเขาจะทำอะไรไม่ได้ดั่งใจคุณไปบ้างก็เถอะ แต่บางทีคุณก็คงอดขำไม่ได้กับความใสซื่อในบางเรื่องของเขา ดังนั้นเปลี่ยนจากการตำหนิเป็นให้กำลังใจและยิ้มรับไปกับสิ่งที่เขาพยายามทำเพื่อคุณดีกว่า แม้มันจะไม่ดีเว่อร์แต่หากว่าเขาทำให้คุณด้วยหัวใจก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ ที่สำคัญอย่าเอาคนรักของตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น ไม่สำคัญเลยว่าใครจะมีดอกไม้ช่อโตให้กัน เพียงแค่เขารักคุณจริง ๆ ก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว
5. ยอมรับในข้อเสียของเขาแทนที่จะหงุดหงิด
แฟนหนุ่มของคุณอาจจะขี้หลงขี้ลืม ไม่กระตือรือร้น น่าเบื่อหน่าย ไม่โรแมนติก หรืออะไรก็ตาม บางครั้งการยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นก็ดีกว่าการพยายามจะเปลี่ยนเขา แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้เขาเป็นอย่างนี้ต่อไป อย่างน้อย ๆ คุณอาจจะให้กำลังใจเขาเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง เช่น ทำให้เขารู้จักมีระเบียบวินัยในการเก็บข้าวของมากขึ้น และการหงุดหงิดหรือบ่นต่อว่าไม่ช่วยทำให้เขาดีขึ้น พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบดีกว่า
6. ไม่ทำอย่างที่เขาทำ
การเรียนรู้ข้อเสียของเขาแบบจริง ๆ คือการที่คุณไม่ทำอย่างที่เขาทำ ไม่ใช่ว่าคุณกลับบ้านดึกได้แต่เขาทำไม่ได้ หรือกฎต่าง ๆ ที่คุณตั้งไว้แบบไม่แฟร์สำหรับเขา ที่สำคัญการเป็นตัวอย่างที่ดีจะทำให้เขาเกรงใจโดยที่คุณไม่ต้องพูดอะไรเลย และคุณก็ควรมองคนรักในแง่ดีและเชื่อว่าข้อเสียที่เขามีสามารถปรับปรุงแก้ไขได้เช่นกัน
7. เปิดใจพูดคุยกับเขา
ข้อสุดท้าย...หากคุณรู้สึกเกินทนหรือว่าเขาทำผิดพลาดซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ มากเกินไป คุณควรเปิดใจพูดกับเขาตรง ๆ ถึงความรู้สึกที่คุณต้องอดทนกับการไม่ยอมเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงข้อเสียของเขาสักที ทั้งนี้ก็ต้องเป็นฝ่ายให้เขาได้พูดในข้อเสียของคุณเช่นกัน รวมทั้งคุณเองก็ต้องเปิดใจรับฟังความรู้สึกของเขาด้วยว่ามีอะไรบ้างที่เขาชอบหรือไม่ชอบในตัวคุณ
การมองข้ามข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ของกันและกันไม่ใช่อดทนเมื่อคนรักทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากแต่เป็นการรู้จักยอมรับ เข้าใจ และให้อภัยในสิ่งความผิดพลาดของเขา รวมทั้งคุณเองก็เช่นกันที่ต้องรู้จักปรับปรุงแก้ไขในข้อผิดพลาดของตนเองด้วย ทางที่ดีเป็นกำลังใจให้กันและกันในการปรับตัวหรือแก้ไขในข้อบกพร่องต่าง ๆ ดีกว่า