แป้ง อรจิรา แถลงข่าวเปิดใจสาเหตุที่หย่ากับ ผู้กองต้อม ร.ต.อ. ทรงพันธ์ กุลดิลก เป็นเพราะทัศนคติไม่ตรงกัน ไม่เกี่ยวกับถูกพ่อแม่สามีกดดันเรื่องมีลูก
กำลังเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยและอยากรู้มากที่สุดว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ความรักของนักแสดงสาว แป้ง อรจิรา และสามีหนุ่ม ผู้กองต้อม ร.ต.อ. ทรงพันธ์ กุลดิลก ได้จบความสัมพันธ์จดทะเบียนหย่ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังแต่งงานกันได้เพียง 2 ปีกว่า ๆ เท่านั้น โดยทางฝ่ายผู้กองต้อม ได้ออกมาเผยว่าที่เลิกกันนั้นเป็นเพราะอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ความคิดเห็นทัศนคติต่าง ๆ ก็แตกต่างกัน เลยตัดสินใจแยกทางกัน
ล่าสุด วันนี้ (25 มีนาคม 2558) แป้ง อรจิรา ได้เปิดใจถึงสาเหตุที่เลิกรากับ ผู้กองต้อม ว่า ที่เลิกกันเป็นเพราะทัศนคติของเราทั้งคู่ไม่ตรงกัน แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่มีคนบอกว่าแป้งชอบเที่ยว แล้วอดีตสามีเป็นคนติดบ้าน และไม่มีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ส่วนข่าวที่บอกว่า ถูกพ่อแม่สามีกดดันเรื่องไม่ยอมมีลูกนั้นก็ไม่เกี่ยว อย่างไรก็ตามถึงจะหย่ากันแล้ว ก็ยังคุยกันได้เหมือนเดิม
มีข่าวออกมาว่าหย่าแล้ว ?
"เป็นไปตามอย่างที่ข่าวพูดถึง ก็แยกทางกันมาสักพักแล้วแต่ว่าเพิ่งจะจดทะเบียนหย่าเรียบร้อย หลังวันเกิดแป้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สาเหตุที่เลิกกันก็อย่างที่เขาได้พูดไปค่ะ เราแต่งงานกันมาสัก 2 ปีครึ่งแล้วพบว่าทัศนคติของเราไม่ตรงกันและวิถีชีวิตของเราไม่ตรงกัน วิธีการใช้ชีวิตก็ไม่ตรงกัน จุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน เรา 2 คนก็เลยตัดสินใจร่วมกันว่าเราแยกทางกันเเล้วเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันดีกว่า"
เป็นเพราะฝ่ายชายชอบอยู่บ้านแต่เราเป็นคนติดเพื่อน ?
"จริง ๆ มันก็ไม่เกี่ยวค่ะ คือเราไม่ได้ติดปาร์ตี้เเต่เราชอบทำงานเเละทำงานค่อนข้างหนัก วิถีชีวิตมันไม่เหมือนกันมากกว่า สิ่งที่เขาเอ็นจอยกับสิ่งที่เราเอ็นจอยมันไม่ตรงกัน เวลาอยู่ด้วยกัน 2 คนแล้วมันทำให้เราอึดอัด ไม่มีความสุข เราก็คิดว่าเรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เลิกกันด้วยดี ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองน่าจะมีความสุขกว่า"
มีกระแสว่าเพราะเราไม่ยอมมีลูก ?
"จริง ๆ เเล้วอาจจะเป็นเพราะว่าเรา 2 คนยังจูนกันไม่ได้มันเลยทำให้เรายังไม่พร้อมจะมีลูก ถามว่าครอบครัวเขากดดันไหม คือทางเขาก็อยากมีแต่เขาไม่กดดันอะไร ประเด็นนี้มันอยู่ที่เรา 2 คนเพราะเราเข้ากันไม่ได้มากกว่าค่ะ"
ที่บอกว่าเข้ากันไม่ได้ก่อนแต่งงานทำไมถึงไม่มีปัญหากัน ?
"ก่อนแต่งงานกับหลังแต่งงานมันไม่เหมือนกันนะ พอเราได้มาใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกันมันไม่ได้เหมือนแฟนที่คบกัน ไปมาหาสู่กันทั่วไป พอเราได้มาใช้ชีวิตร่วมกันจริง ๆ มันก็มีหลายประเด็นที่เราชอบ เขาไม่ชอบ แล้วมันเข้ากันไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เขาอยากให้เราอยู่บ้านหรือไม่อยากให้รับงานหรอกค่ะ เพราะมันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่ตรงกัน อย่างเราก็เข้าใจเขาไม่ได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เขาก็ไม่ได้เข้าใจเรา 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนมันไม่เข้าใจกันพอมาอยู่ด้วยกันมันก็อึดอัด"
มีข่าวว่าก่อนเลิกกันมีทะเลาะกันบ่อยมาก ?
"ก็มีปัญหากันค่อนข้างนาน แต่เราก็พยายามปรับ พยายามจูน ก็มีคุยกันมาหลายครั้ง แต่พอมันมาถึงระยะเวลาที่มันพูดจนหมดเเล้วก็ยังจูนกันไม่ลงตัว ถามว่าเฮิร์ทมากไหมมันก็ไม่ถึงขั้นว่าอยู่คนเดียวไม่ได้ ตอนนี้แข็งแรงขึ้นแล้ว แต่ช่วงอ่อนแอมันก็มี คนเราเคยมีกันอยู่ อยู่ดี ๆ ต้องออกมาอยู่คนเดียวมันก็ต้องได้กำลังใจจากเพื่อนบ้างเพราะเราก็ไม่แข็งแรงพอที่จะให้กำลังใจตัวเองได้ทุกวัน ส่วนเรื่องหย่าเราตกลงร่วมกันค่ะ"
ทางครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่ายได้ช่วยอะไรบ้างไหม ?
"ก็มีทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ คุณพ่อคุณแม่ของแป้งก็รับรู้และทางผู้ใหญ่บ้านเขาก็รับรู้ ก็ต้องขอขอบคุณครอบครัวเขาที่ในระยะ 2 ปีครึ่งที่ผ่านมาเขาให้การต้อนรับดูแลเรามาอย่างดี ส่วนเรื่องมือที่สามไม่มีแน่นอนค่ะ ทางครอบครัวของเขาก็เห็นปัญหามาตั้งแต่ต้นมันไม่ใช่ว่าเพิ่งมีเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เขาก็เห็นว่าไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเป็นระยะเวลาพอสมควรเเล้ว เรามีปัญหาอะไรก็คุยกับเขา เขาก็บอกว่าถ้าลูกไม่มีความสุขทางนี้อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้"
เรื่องสินสมรส เห็นบอกว่าเราจะคืนให้ ?
"เรื่องสินสมรส คุณพ่อคุณแม่เขาน่ารักมาก เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรคืน แต่อันนี้ก็ขอเก็บไว้เป็นข้อตกลงของแป้งและอดีตสามีดีกว่าว่าเราจะจัดแจงยังไงก็ขอเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วกัน"
ตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง ?
"ดีขึ้นค่ะ ช่วงแรก ๆ มันก็ไม่ชินค่ะมากกว่าจากที่เคยมีคนอยู่ข้าง ๆ พอเราออกมาใช้ชีวิตคนเดียวจริง ๆ มันก็ต้องใช้เวลาค่ะ ถามว่ายังติดต่อกันไปด้วยความที่สุนัขของเราก็ยังอยู่ที่บ้านเขาคือบางทีเราก็ไปรับมาเลี้ยงบ้าง อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้เลิกกันด้วยการทะเลาะเบาะเเว้งที่มันรุนแรง ฉะนั้นเราก็ยังคุยกันได้อยู่ ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ นับจากนี้ก็ยังหวังดีกับเขา ก็อยากให้เขามีอนาคตที่มีความสุขและก็ขอให้เขาได้เจอแต่สิ่งดี ๆ"
รู้สึกเสียดายเวลาไหม ?
"ชีวิตมันก็ต้องเดินต่อไป คือเราก็ไม่คิดว่ามันจะมาจบแบบนี้ อย่างที่บอกไปว่าปีที่ผ่านมาเราก็พยายามปรับแล้ว พยายามมาหลายวิธีแล้ว จนลองแยกกันอยู่ดูว่าแยกกันแล้วมันจะเป็นยังไงทั้งเขาและเรา พอเรามีเวลาได้มาไตร่ตรองอะไรแล้ว ก็คิดว่าทางออกนี้คงเป็นทางที่ดีสำหรับเราทั้ง 2 คน ก็ไม่ได้เสียดายอะไรหรอกอย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้คนหนึ่งคนที่เคยมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกันมา ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงแต่งงานกับเขาอยู่ดีเพราะว่าประสบการณ์ครั้งนี้มันทำให้แป้งโตขึ้นมาก ถามว่ามีโอกาสที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมมันก็เป็นเรื่องของอนาคตเราก็ตอบไม่ได้"
มีเพื่อนในวงการให้คำปรึกษาบ้างไหม ?
"จริง ๆ แป้งจะปรึกษาพี่วุ้นตลอดค่ะ เพราะพี่วุ้นค่อนข้างโตเป็นผู้ใหญ่ เวลาเรามีปัญหาอะไร เราก็ไม่มีใครให้พูดเรื่องพวกนี้ด้วยก็เลยไปปรึกษาพี่วุ้น เเล้วพี่วุ้นก็เป็นพี่ที่น่ารักและคอยอยู่ข้าง ๆ เร็ว ๆ นี้ก็จะบินไปนิวยอร์กกับพี่วุ้นด้วย เพราะตั้งแต่รู้ว่ามีข่าวเราก็เลยอยากไปพักผ่อน ก็ไม่เชิงพักใจเหมือนเราอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ทุกวัน มันก็เครียดก็ขอไปพักผ่อนประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ"
ถ้าไม่มีกระแสข่าวหลุดออกมาเราจะปิดข่าวนี้ไปอีกนานแค่ไหน ?
"จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดนะคะ แต่บังเอิญไม่มีใครถาม เราก็ไม่รู้ว่าอยู่ดี ๆ จะให้ออกมาพูดว่า เออขอโทษนะคะตอนนี้แยกทางกันแล้ว มันก็ไม่ใช่ คือเราก็ให้เกียรติครอบครัวเขาด้วย ไม่ได้อยากทำให้มันเอิกเกริก ไม่ได้อยากให้มันเป็นการแถลงข่าวที่มันครึกโครม"
ติดตามข่าว แป้งเลิกผู้กองต้อม แบบอัพเดททั้งหมดคลิกเลย
*หมายเหตุ อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558 เวลา 15.40 น.