แซมมี่ ปัณฑิตา เครียดจัด เล่นละครดราม่าเยอะ จนเป็นโรคหอบ-หายใจไม่ออก-ร้องไห้ไม่หยุด เผยหากเป็นอีกคงต้องไปพบจิตแพทย์แล้ว
หลังเคยมีข่าวนางเอกสาว แซมมี่ ปัณฑิตา เครียดจัดปล่อยโฮร้องไห้ไม่หยุดกลางกองละคร เหตุเพราะเครียดสะสมหลังต้องเข้าซีนดราม่าเยอะจนเป็น "โรคหอบจากอารมณ์" (Hyperventilation syndrome) ซึ่งละครเรื่องใหม่ของเจ้าตัวอย่าง ไฟรักเกมร้อน ก็มีบทดราม่าไม่แพ้กัน ทำเอาหลายคนเป็นห่วงกันใหญ่ว่าสาวแซมมี่จะอาการกำเริบขึ้นมาอีกหรือไม่
ล่าสุด (28 กันยายน 2558) แซมมี่ ปัณฑิตา ก็ได้ออกมาอัพเดทอาการป่วยว่า "โรคหอบที่เคยเป็นแล้วร้องไห้ไม่หยุดอันนี้ดีขึ้นค่ะ อย่างที่เคยบอกไปว่ามันต้องใช้เวลาในการปรับตัว ในการควบคุมมัน หลังจากที่เมื่อก่อนร้องไห้แล้วหยุดไม่ได้ ตอนนี้เริ่มดีขึ้น ได้คุยกับผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านที่เขาเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มา ท่านก็แนะนำบ้าง"
เคยถ่ายละครหนัก จนติดบทเป็นตัวละครกลับบ้านบ้างไหม ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : อาจจะมีแต่ไม่รู้ตัว คือวันนั้นอยู่ที่บ้านและไม่ได้ออกไปถ่ายละคร อยู่ดี ๆ ก็หายใจไม่ออกแล้วก็ร้องไห้ออกมา ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ต้องใช้ถุงช่วยหายใจด้วย ช่วงที่หนักหน่อยไปหาหมอมาบ้างหรือยัง ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : ยังไม่ได้ไปเลยค่ะ ถ้าไปคงต้องไปพบจิตแพทย์ค่ะ จริง ๆ ก็อยากไปแต่ด้วยเวลาที่มันไม่ว่าง อีกอย่างคือช่วงนี้มันดีขึ้นแล้วเลยคิดว่าเอาไว้ก่อนก็ได้ แต่ถ้าเป็นอีกก็คงต้องไป ตอนนี้ก็ฟังเพลงให้มันผ่อนคลาย ไม่คิดถึงละคร โรคนี้เขาเรียกว่า Hyperventilation syndrome ค่ะ มันเป็นหอบจากอารมณ์ มันหายใจไม่ออกเหมือนสัญชาตญาณมันสั่งให้หายใจถี่ขึ้น ๆ จนเราควบคุมมันไม่ได้ หยุดร้องไม่ได้ ตอนที่เป็นก็ตกใจโชคดีที่มีผู้ใหญ่เขาให้คำปรึกษา บอกให้เราไปฝึกสมาธิ มีโทรปรึกษากับครูการสอนการแสดงด้วย ครูบอกว่าต้องเอาธรรมะเข้าข่มบ้างนะ จะเบรกงานไปรักษาเลยไหม ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : คงไม่หรอกค่ะ จริง ๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะพอมันเป็นแล้วมันเหมือนทำให้เราก้าวเข้ามาในเรื่องของการแสดงมากขึ้น เป็นตัวละครได้มากขึ้นจะขอผู้ใหญ่เปลี่ยนบทไม่รับดราม่าบ้างไหม ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : จริง ๆ เรื่องละครไม่เคยเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่เรื่องขอบทแบบนั้นแบบนี้เลยค่ะ ผู้ใหญ่ให้อะไรมาเราก็รับ โชคดีที่แต่ละเรื่องมันเป็นเรื่องที่ทำให้หลาย ๆ คนเห็นว่าเราพัฒนาตัวเองได้ ถามว่าชอบดราม่าไหม ก็ชอบนะ คือบู๊ก็ชอบแต่ดราม่าได้ใช้อารมณ์ด้วย
ละครเรื่อง ไฟรักเกมร้อน มีเครียดบ้างไหม ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : เรื่องนี้ก็เครียดนะคะ คือตอนที่ถ่ายควบกันกับละคร เลื่อมสลับลาย อยู่ดี ๆ ก็เป็น เราก็งงว่าทำไมมันเป็น จนผู้กำกับต้องมานั่งกุมมือ มาลูบหลังแต่หลัง ๆ ก็ดีขึ้น แต่เรื่องนี้ด้วยบทมันก็ยาก มีเลิฟซีนที่ต้องใช่อารมณ์มาร่วมด้วย ก็ยากเหมือนกัน ส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยถนัดเรื่องเข้าพระเข้านางด้วยค่ะ ไม่ใช่ทางแสดงว่าเลิฟซีนเรื่องนี้เยอะมาก ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : เยอะนะ อ่านในบทแล้วตกใจอะ มีลงอ่างกับพระเอก อันนี้ยังไม่ได้ถ่ายนะคะเราไปเห็นมาจากบท แต่ก่อนหน้าที่จะเปิดกล้องเรื่องนี้เราก็ไปอ่านนิยายมา เรื่องนี้พระเอกแซ่บนะ ถึงเขาจะเป็นหมอก็ตาม แต่เรื่องบทเตียงนี่แซ่บมากเลิฟซีนเยอะแบบนี้เราต้องเซฟตัวเองเยอะไหม ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : จริง ๆ แล้วด้วยความที่เป็นละครมันจะมีลิมิตอยู่แล้วค่ะ เราเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไร ส่วนเรื่องเซฟก็คงเป็นเรื่องเสื้อผ้ามากกว่า เพราะเสื้อผ้าก็มีส่วนให้มันทำให้ภาพออกมาดูโป๊ด้วยช่วงนี้รับงานละครเยอะขึ้น จะทิ้งงานเดินแบบแล้วหรือเปล่า ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : จริง ๆ ก็เดินอยู่นะคะ แต่ว่ามันน้อยลง หลายคนอาจจะเห็นเราในบทบาทของนักแสดงมากกว่า ด้วยเรื่องของเวลาด้วยค่ะ ด้วยความที่เราอยู่กองละครตลอด เรามีละครแค่แป๊บเดียว หลังจบเลื่อมสลับลายก็มาต่อเรื่องใหม่เลย ถ้ามีเวลาจริง ๆ เราก็อยากพักเพราะการเล่นละครดราม่ามันเหมือนเราต้องเล่นกับสภาพจิตใจด้วย เล่นกับอารมณ์ กลัวคนลืมภาพนางแบบของเราไหม ?
แซมมี่ ปัณฑิตา : ไม่ซีเรียสนะคะ เราอยากให้คนเห็นในหลาย ๆ บทบาท อย่างละครก็อยากเปลี่ยนบทไปเรื่อย ๆ จะพักงานนางแบบเลยไหมก็ไม่ได้พักค่ะ แค่เวลามันไม่ตรงกัน อีกอย่างละครเราก็รับคิวมาแล้ว คือมันต้องทำงานเป็นทีม ถ้าเราไม่ว่างแค่คนเดียวเราก็รู้สึกกดดันด้วย อะไรที่ส่วนรวมไม่เดือดร้อนก็เลือกอันนั้นดีกว่า ถ้าถามว่าเลือกละครเป็นหลักไหม มันเป็นที่จังหวะมากกว่าค่ะ เนื้อหาละครต้องทำการบ้านเยอะด้วย
