กอล์ฟ พิชญะ รับเหนื่อยและกดดันนั่งแท่นผู้จัดละคร ดีใจได้รับหน้าที่เป็นทูตของญี่ปุ่น ยันสัมพันธ์ พิกเล็ท ชาราฎา แค่พี่น้อง ตอนนี้โสดสนิท
ผันตัวมาทำงานเบื้องหลังอีกคนนึงแล้ว สำหรับนักร้อง นักแสดงหนุ่ม กอล์ฟ พิชญะ ที่ตอนนี้ได้นั่งแท่นเป็นผู้จัดละครให้กับซีรีส์แนวโรแมนติกไซไฟของช่อง GMM 25 อย่างเรื่อง Devil Lover เผลอใจให้นายปีศาจ ล่าสุด (1 ตุลาคม 2558) เจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจกับ กระปุกดอทคอม ว่ามีกดดันและเหนื่อยบ้าง แต่ก็ขอทำให้ดีที่สุด พร้อมอัพเดทเรื่องหลานชายอย่าง น้องแม็กซ์เวลล์ ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปหาเพราะตนยุ่งมาก ส่วนกับน้องชาย ไมค์ พิรัชต์ ก็มีคุยเรื่องนี้บ้างเหมือนกัน
โดยได้หนุ่มกอล์ฟเผยถึงเรื่องซีรีส์ว่า "กอล์ฟว่ามันเป็นละครแนวใหม่สำหรับประเทศไทย มีความเป็นไซไฟผสมกับโรแมนติก จะมีความเป็นแอคชั่น เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย จะมีความโรแมนติกที่ความรักของคู่พระนางและความรักของครอบครัวด้วย"
เรื่องนี้เป็นผู้จัดเองด้วย
กอล์ฟ พิชญะ : เรื่องนี้เป็นทุกอย่างครับ นอกจากจะเป็นนักแสดงที่ต้องเหนื่อยแล้ว การเป็นผู้จัดมันก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย ทั้งการจัดการทุกอย่าง ในการสร้างละครเรื่องนี้ ต้องรับผิดชอบมากกว่าเดิม 3-4 เท่า เพราะว่าต้องแบกรับดูแลชีวิต 30-40 ชีวิต ที่ต้องร่วมเดินทางไปด้วยกันในการผลิตละครเรื่องนี้ ต้องควบคุมบัตเจ็ตว่าจะจัดการยังไงให้มันสร้างงานที่ดีได้ ไม่ขาดทุน ไม่เข้าเนื้อ ให้ผลงานออกมาได้ดี ช่วยในการถ่ายทำ CG ด้วย มันเป็นงานที่เราถนัด หาเรฟเฟอร์เร้นท์ ในหน้าเซตก็ช่วยดูด้วยว่าจะตั้งกล้องถ่ายทำยังไง ผู้กำกับก็จะดูเรื่องตัวละคร
พอได้ทำงานผู้จัดแล้วคิดว่าการทำงานของเราในการเป็นนักแสดงจะเปลี่ยนไปไหม
กอล์ฟ พิชญะ : คิดว่าพอมาเป็นผู้จัดแล้วหลังจากนี้คงทำงานกับที่อื่นง่ายขึ้นครับ เหมือนกับว่าพอเราเริ่มทำเบื้องหลังมาสักพักเราก็จะรู้ว่าจริง ๆ มันก็เหนื่อยนะ แต่ปกติเวลาทำงานเราก็เป็นคนที่เคารพทุกคนอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าพอเป็นดาราแล้วจะมาเยอะ หยิ่ง เวลาทำงานเราต้องเห็นใจคนทำงานเบื้องหลังด้วย เพราะว่าเขาก็เหนื่อยที่มาสร้างงานให้นักแสดงมีชื่อเสียง พอเราได้ทำงานเบื้องหลังเราก็รู้ว่าทุกคนเหนื่อยเหมือนกันไม่ใช่แค่นักแสดงที่เหนื่อย เหมือนเป็นการปรับทัศนคติเราไปด้วย ทำให้เรามีความอดทนมากขึ้น อดทนกับปัญหาที่เข้ามา ซึ่งเป็นปัญหาที่เราไม่เคยเจอมาก่อนตอนที่เป็นนักแสดง
คิดว่าซีรีส์ของเราจะแตกต่างจากเรื่องอื่นยังไง เพราะตอนนี้บ้านเราก็มีซีรีส์เยอะมาก
กอล์ฟ พิชญะ : แตกต่างแน่ ๆ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ เพราะตอนนี้บ้านเราก็มีซีรีส์เรื่องความรักเยอะ อย่างความรักของเพศเดียวกันก็เยอะ พวกรักกุ๊กกิ๊ก รักจิ้น ซึ่งในซีรีส์เราก็มีพวกเรื่องจิ้น ๆ แต่ของเราจะแตกต่างคือการใช้ CG ที่เรียกได้ว่าเป็น CG ระดับหนังซึ่งเป็น CG ที่ไม่เคยเห็นในซีรีส์ไทยแน่นอน เป็นการถ่ายทำแบบภาพยนตร์ ซึ่งจุดแตกจ่างมันมีความเป็นไซไฟและใช้ CG เข้ามาร่วมด้วย เป็นแบบไม่น่าจะโดนด่าครับ
กดดันไหมมาเป็นผู้จัดละครเอง
กอล์ฟ พิชญะ : กดดันไหมก็มีบ้างเล็กน้อย คือมันเป็นงานแรกของเราที่ได้ทำซีรีส์ คิดว่าถ้ามันมีข้อบกพร่องอะไรก็ตามเราก็พร้อมที่จะรับฟัง พร้อมที่จะเอากลับไปแก้ไขกับผลงานในอนาคต เพราะสิ่งที่ดีที่สุดก็คือคอมเม้นท์จากคนดู เราจะเอาตรงนี้มาปรับใช้ แต่สำหรับตัวเราเอง สำหรับงานชิ้นแรกได้ขนาดนี้ก็โอเคแล้วครับ
ส่วนตัวเราพอใจกับภาพรวมที่ออกมาไหม
กอล์ฟ พิชญะ : ก็พอใจนะครับ คือเราก็รู้ว่าดีหรือไม่ดี แต่เราก็คิดแค่ว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เราทำก็ตาม เราควรจะภูมิใจกับมัน ต่อให้มันจะดีหรือไม่ดี แต่เรารู้แค่ว่าเราเต็มที่ที่สุดแล้ว ทำในทักษะหรือศักยภาพที่เรามี ก็พยายามดันมันให้สุดให้เต็มที่ ที่สำคัญคือทำไปด้วยแล้วสนุกไปกับมันด้วย สนุกและรักสิ่งที่ตัวเองทำมันจะทำให้คนที่ดูหรือแฟน ๆ ที่ติดตามได้เห็นถึงเนื้องานของเรา
ไปถ่ายที่ญี่ปุ่นจนได้รับเลือกเป็นทูต
กอล์ฟ พิชญะ : ส่วนตัวก็ไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะมีเรื่องนี้เข้ามาในชีวิต คืออาจจะด้วยการที่เราไปถ่ายทำที่คิตะคิวชู แล้วนายกเทศมนตรีเขาเห็นว่าเราทำแล้วมันออกมาสวย มันจะทำให้คนดูรู้สึกว่าอยากไปเที่ยวบ้าง ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไป เขาเห็นว่าเราตั้งใจทำอย่างเต็มที่ เขาก็โทร. มาว่าอยากให้เรารับเกียรตินี้ไปเป็นทูตทางวัฒนธรรม ซึ่งเราก็โอเค เพราะเราก็ฟังและพูดภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง น่าจะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีของไทยกับญี่ปุ่นด้วย
ช่วงนี้เห็นหันมาทำงานด้านการแสดงเยอะ แล้วงานเพลงจะมีออกมาให้ได้ฟังบ้างไหม
กอล์ฟ พิชญะ : ถ้าเป็นอัลบั้มเดี่ยวก็อาจจะยัง แต่ถ้าเป็นเพลงก็มีแน่ ๆ เพราะเรื่องนี้เราก็ร้องเองก็ร้องคู่กับ พิกเล็ต ชื่อเพลงชื่อ ใช่ใช่ไหม ก็ปล่อยออกมาให้ฟังกันแล้วตั้งแต่วันนี้ครับ เดี๋ยวหลังจากนี้ก็จะมีเอ็มวีออกมาครับ
เรื่องหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง
กอล์ฟ พิชญะ : หัวใจเต้นดีครับ สถานะโสดครับ ถามว่ามีคนเข้ามาคุยบ้างไหม คือวัน ๆ เราก็อยู่แต่กับงาน
แล้วกับ พิกเล็ท เป็นยังไงบ้าง
กอล์ฟ พิชญะ : คืออาจจะเป็นเพราะเราทำงานด้วยกัน เหมือนช่วงไปญี่ปุุ่นเราก็ถ่ายรูปเล่นกันบ่อย ๆ ก็เลยเอารูปลง คนก็เลยจิ้นไป มันอาจจะเป็นเคมีของตัวละครที่มีลุคเข้าทางกัน ส่วนโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ก็เราก็ขอปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นธรรมชาติ ไม่ได้มานั่งมองว่าเราจะรีบพัฒนา ปล่อยให้เป็นไป ตอนนี้ก็ทำงานกับน้องเขาแล้วสบายใจก็สนุกดีครับ
มาที่เรื่องหลานชายบ้าง ช่วงนี้ได้ไปหา น้องแม็กซ์เวลล์ บ้างไหม
กอล์ฟ พิชญะ : ไม่ได้เจอเลยครับ แต่ก็มีคุยเรื่องนี้กับไมค์บ้าง เล็ก ๆ น้อย ๆ คือถามเขาว่าได้ไปเจอไหม ไมค์เขาก็ไปบ่อยอยู่แล้ว แต่กอล์ฟไม่ค่อยว่างเพราะทำเรื่องตัดต่อด้วย เพราะถ้ากอล์ฟจะไปก็ต้องไปพร้อมไมค์ แล้วเวลานัดกันแต่ละทีเวลาก็ไม่ค่อยตรงกัน