x close

คดี ไมเคิล แจ็กสัน พลิก หลักฐานอ่อน หมอพ้นข้อหา

ไมเคิล แจ็กสัน


เจอร์เมนขึ้นแสดงคอนเสิร์ตกับไมเคิลครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 ปีก่อน


ดร.คอนราด เมอร์เรย์



คดี "แจ็กสัน" พลิก วงในแฉหลักฐานอ่อน หมอรอดข้อหาฆาตกรรม (สยามดารา)

          คดีพลิก! ทีมสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ "คิง ออฟ ป็อป" ไมเคิล แจ็กสัน เผยหลักฐานไม่เพียงพอจะตั้งข้อหาฆาตกรรมกับหมอ หรือผู้ที่มีส่วนรู้เห็นในการจัดหายาฤทธิ์ร้ายแรงมาให้เจ้าของท่าเต้นลูบเป้าใช้จนหัวใจวายตาย เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยอาจเล่นงานได้แค่ข้อหาปลอมแปลงใบสั่งยาที่โทษสุดจิ๊บจ๊อย

          โดย 1 ในเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนคดีการเสียชีวิตของราชาเพลงป็อปที่ไม่อาจเปิดเผยชื่อ ยืนยันกับหนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิส ไทมส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า "ไม่มีอะไรที่ผมได้รับรู้ว่าสามารถตั้งข้อหาฆาตกรรม การสืบสวนยังห่างไกล และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานที่พวกเขารวบรวมมาได้ มันมีเรื่องของความรู้สึกมากมายมาเกี่ยวข้อง"

          ความเชื่อว่าตำนานเพลงผู้ล่วงลับที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน เป็นการวางแผนฆาตกรรมของกลุ่มคนผู้ไม่หวังดีเพื่อต้องการฉกฉวยผลประโยชน์ของเขาหลังการตาย กลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้นนับตั้งแต่สมาชิกครอบครัวแจ็กสัน ไม่ว่าจะเป็น โจ ผู้เป็นพ่อ, ลา โทย่า พี่สาว และ ติโต้ พี่ชาย เรียงหน้าออกมาให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขาสงสัยการกระทำของคนที่อยู่รอบตัวไมเคิลในระยะหลัง ที่พยายามกีดกันญาติพี่น้อง และจัดหายาร้ายแรงต่างๆ ที่เขาเรียกร้องมาให้ใช้ตลอดเวลาเพื่อควบคุมพฤติกรรม

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คนเดิม ยอมรับว่าตลอด 3 สัปดาห์ที่ทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจลอสแอนเจลิส, สำนักงานชันสูตร, อัยการรัฐ และสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (ดีอีเอ) พวกเขายังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสรุปผลการสืบสวน รวมทั้งไม่มีการจับกุมหมอที่ออกใบสั่งยาให้ไมเคิลในช่วงเวลานี้ "พวกเขายังไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย ทุกคนมีการบันทึกประวัติการออกใบสั่งยา และมีการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่มาตลอด"

          แต่หากผลการชันสูตรที่เวลานี้คาดว่าจะต้องเลื่อนออกไปจากวันจันทร์นี้ ออกมาว่าแจ็กสันเสียชีวิตเพราะการใช้ โปรโปฟอล ยาแก้ปวดชนิดร้ายแรงที่พบในแมนชั่นของเขา อัยการจะตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาทกับหมอ หรือผู้ที่จัดหายานี้ให้กับเขาทันที

          "มีคดีฆาตกรรมมากมายที่ไม่มีใครถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรหรือฆ่าคนตายโดยประมาท" เจ้าหน้าที่อีกรายให้ความเห็น โดยหมอที่เป็นคนออกใบสั่งยาให้กับซูเปอร์สตาร์ผู้นี้อาจถูกตั้งข้อหาเพียงใช้ชื่อปลอมในการออกใบสั่งยาที่เป็นการผิดกฎหมายรัฐ หรือจัดหายาด้วยวิธีการผิดกฎหมาย เหมือนกับคดีการเสียชีวิตของ แอนนา นิโคล สมิธ อดีตนางแบบเพลย์บอย เมื่อปี 2007

  แค้นฝังลึก! เจอร์เมน โต้จวก หมอเมอร์เรย์ ไร้ฝีมือ

          เจอร์เมน แจ็กสัน ออกมาแสดงความไม่พอใจการรักษาของ ดร.คอนราด เมอร์เรย์ หมอโรคหัวใจประจำตัวของไมเคิล แจ็กสัน น้องชายของเขา หลังจากปล่อยให้เสียชีวิตทั้งที่สุขภาพยังดูแข็งแรงเป็นปกติ และเตรียมจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ต 50 รอบที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

          อดีตสมาชิก Jackson 5 วัย 54 ปี เล่าถึงการเผชิญหน้ากับ ดร.เมอร์เรย์ หลังจากน้องชายเสียชีวิตกับหนังสือพิมพ์เดอะ ซัน ของประเทศอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า "ถ้าเขาเป็นหมอจริง ทำไมไมเคิลถึงตายล่ะ? หมอควรจะมีหน้าที่ดูแลทุกคนให้สุขภาพดี แต่ไมเคิลที่ดูแข็งแรงกลับเสียชีวิตในระยะเวลาห่างกันเพียงวันเดียว"

          แพทย์ผิวสีรายนี้ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย หลังจากเสียงบันทึกโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือในช่วงเที่ยงของวันที่ 25 มิถุนายน อัลเบอร์โต้ อัลวาเรซ บอดี้การ์ดของเขาได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า แจ็กสันกำลังได้รับการปฐมพยาบาลโดยหมอซึ่งก็คือ เมอร์เรย์ ก่อนที่รถพยาบาลจะไปถึงบ้านในย่านโฮล์มบี้ ฮิลล์ ทางตะวันตกของนครลอสแอนเจลีส

          ในการให้สัมภาษณ์ เจอร์เมนต้องเสียน้ำตาอีกครั้งเมื่อพูดถึงตอนที่เขาไปบอกลาไมเคิล หลังจากหมอของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยยูซีแอลเอไม่อาจกู้ชีวิตของราชาเพลงป็อปกลับมาได้ "ทำไมนายต้องหนีไปก่อนด้วย? นายอยากให้ฉันทำอะไรก็บอกมาซิ?" พี่ชายวัย 54 ปี เผยประโยคที่บอกกับร่างไร้วิญญาณของน้องชาย

          ขณะที่ ติโต้ พี่ชายอีกคนเชื่อว่าไมเคิลมีโอกาสรอดชีวิตหาก ดร.เมอร์เรย์ บอกให้คนที่อยู่ในบ้านให้โทร.แจ้งหน่วยฉุกเฉินเร็วกว่านี้ "ตามความคิดของผมเขาคงรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากเมื่อน้องชายของผมไม่ยอมตื่นขึ้นมา และคิดว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย เขาพยายามช่วยชีวิต ไมเคิลยังมีชีพจรเต้นอยู่ แต่หมอกลับไม่สามารถช่วยกลับมา"

          "ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเวลานานแค่ไหนระหว่างที่หมอมาพบตัวเขา และโทร.เรียกรถพยาบาล ผมเชื่อว่าถ้าเขาโทร.ขอความช่วยเหลือทันที เราอาจจะมีน้องชายอยู่ในวันนี้ เขาอาจรอดชีวิตก็ได้ ผมเชื่อว่าเขา (เมอร์เรย์) คือผู้ต้องสงสัย แต่เป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องอะไร? ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"

  หมอโฉดโผล่ปัดข่าวให้ยาแจ็กโก้จนตาย

          ดร.คอนราด เมอร์เรย์ ยอมออกมาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันกับหนังสือพิมพ์ซันเดย์ มิร์เรอร์ โดยยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นออกใบสั่งยาโปรโปฟอล ให้กับนักร้องซูเปอร์สตาร์หรือมีส่วนในการทำให้เขาต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

          คุณหมอวัย 55 ปี แสดงความผิดหวังที่ต้องกลายเป็นแพะรับบาปมาตลอดนับตั้งแต่แจ็กสันเสียชีวิตเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน "ผมไม่เคยให้อะไรที่จะนำไมเคิลไปสู่ความตาย ผมไม่รู้อะไรมากกว่าคนอื่นว่าอะไรที่ฆ่าไมเคิล แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน"

          อย่างไรก็ตาม เมอร์เรย์ตกเป็นข่าวว่าปฏิเสธจะให้ปากคำตำรวจเป็นรอบที่ 3 หลังจากถูกเรียกตัวอีกครั้ง โดยโฆษกประจำตัวของ เอ็ด เชอร์นอฟฟ์ ทนายความของหมอรายนี้ เปิดเผยว่า "ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในคดีนี้ ดร.เมอร์เรย์ จะเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเขากระทำผิด เขาไม่ได้หลบหนี แต่อยู่กับครอบครัว และพยายามกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง"

  โซนี่ทุ่ม 1.7 พันล้าน ซื้อภาพซ้อมคอนเสิร์ตสุดท้าย

          วาไรตี้ แม็กกาซีนของประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า โซนี่ พิคเจอร์ส กำลังเจรจากับเออีจี ไลฟ์ เพื่อซื้อภาพวิดีโอการซ้อมคอนเสิร์ต "This Is It" ของ ไมเคิล แจ็กสัน มาตัดต่อเพื่อออกขายทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,750 ล้านบาท

          ตามข่าวระบุว่าภาพการซ้อมของแจ็กสันมีความยาวรวม 80 ชั่วโมง พร้อมมิวสิคที่เพิ่งถ่ายเสร็จรวมถึงเพลงฮิตตลอดกาล "Thriller" ในแบบ 3 มิติที่วางแผนจะใช้ในคอนเสิร์ต ที่จะต้องมีขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม หากเขาไม่เสียชีวิตไปก่อน

          โดยคาดว่าโซนี่ พิคเจอร์ส ที่อยู่ในเครือเดียวกับโซนี่ มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่ถือลิขสิทธิ์เพลงของแจ็กสัน จะมอบหมายให้ เคนนี่ ออร์เตก้า ผู้กำกับหนังเพลงวัยรุ่น "High School Musical" และเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นของคอนเสิร์ต "This Is It\'" เข้ามารับผิดชอบในการตัดต่อวิดีโอเพื่อให้ออกขายภายในสิ้นปีนี้


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คดี ไมเคิล แจ็กสัน พลิก หลักฐานอ่อน หมอพ้นข้อหา อัปเดตล่าสุด 22 กรกฎาคม 2552 เวลา 15:22:53
TOP