ศัลยกรรมคาง เอาใจคุณสาว ๆ ที่อยากมีใบหน้าเรียวเป๊ะ ด้วยวิธีการเสริมคาง หนึ่งในศัลยกรรมปรับรูปหน้ายอดนิยม ดูสิจะต้องรู้เรื่องอะไรก่อนทำคางกันบ้าง ตามมาดูกัน
สมัยนี้ไม่ว่าใครจะมีคางสั้น คางยาว หรือคางยื่น ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป เพราะเราสามารถแก้ไขปรับรูปหน้าให้ดูสมบูรณ์แบบได้ด้วยการทำ "ศัลยกรรมคาง" ซึ่งปัจจุบันก็เป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก่อนที่จะคิดไปเสริมคางนั้น มีเรื่องอะไรที่สาว ๆ ควรรู้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ทำคางที่ไหนดี ต้องเตรียมตัวอย่างไร มีความเสี่ยงแค่ไหน ดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมยังไงดี ? ถ้ายังไม่รู้ กระปุกดอทคอมขออาสารวบรวมสิ่งสำคัญที่คุณควรจะต้องรู้ก่อนไปเสริมคางมาให้ศึกษากันค่ะ งานนี้ใครที่กำลังวางแผนจะไปขึ้นเขียงทำคางอัปสวยพลาดไม่ได้
เสริมคาง ช่วยอะไร ?
ก่อนอื่นเลยเราอยากให้สาว ๆ เข้าใจก่อนว่าศัลยกรรมคางช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างไรบ้าง จะได้รู้ว่าเราเหมาะกับการเสริมคางหรือไม่ ปกติแล้วการเสริมคางเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องคางสั้น คางเล็ก คางเหลี่ยม คางบุ๋ม ที่ทำให้ใบหน้าดูสั้นกลม รวมถึงใบหน้าบริเวณส่วนกลางดูกว้างและบาน ซึ่งการเสริมคางสามารถปรับรูปหน้าให้ยาวขึ้น ดูสมส่วน และเรียวสวย มีมิติมากขึ้น เมื่อเข้าใจแล้วเราก็ไปดูข้อมูลที่น่ารู้ก่อนศัลยกรรมคางกันเลยค่ะ
10 เรื่องน่ารู้ ก่อนทำศัลยกรรมคาง
1. ศัลยกรรมคาง อายุเท่าไรถึงจะทำได้
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่คิดจะทำศัลยกรรมคาง ช่วงอายุที่เหมาะสม ได้แก่ ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่แนะนำให้ทำอายุน้อยกว่านี้ เพราะโครงสร้างร่างกายของเรายังเติบโตไม่เต็มที่ รวมถึงการศัลยกรรมอื่น ๆ ด้วย ก่อนที่จะผ่าตัดแก้ไขปรับรูปหน้าควรรอให้โครงหน้าชัดเจนก่อนเพื่อจะได้เห็นปัญหาที่แท้จริง
2. ศัลยกรรมคางที่ไหนดี เลือกสถานที่อย่างไรให้สวยอย่างปลอดภัย
สำหรับการทำศัลยกรรมคาง หรือแม้แต่การทำศัลยกรรมอื่น ๆ เราควรจะพิจารณาดังนี้
- เลือกทำกับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการอย่างชัดเจน มีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง มีเครื่องมือ วัสดุเสริมคางมีคุณภาพ สะอาดปลอดเชื้อ เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการ
- มีทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมตกแต่ง เป็นแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างถูกต้องตามแพทยสภากำหนด มีผลงานการรักษาจากเคสที่ผ่านมา
- บริการด้วยความเอาใจใส่ สามารถให้คำแนะนำอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา
- มีช่องทางติดต่อฉุกเฉิน เพื่อให้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยทั้งก่อนและหลังเสริมคางกับหมอที่ทำเคสของตัวเอง
ทั้งนี้ ควรเลือกโรงพยาบาลที่เป็นตัวเลือกไว้สัก 2-3 ที่ จากนั้นให้ลองเข้าไปคุยกับคุณหมอเพื่อขอคำปรึกษา พร้อมกับดูผลงานของคุณหมอประกอบการตัดสินใจ วิธีนี้จะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
3. เสริมคางมีกี่แบบ ใช้วัสดุอะไรบ้าง
สำหรับวัสดุที่ใช้เสริมคางมีทั้งแบบ "ซิลิโคนแท่ง" และแบบ "ฉีดไขมันหรือสารเสริมคาง" ซึ่งแบบเสริมด้วยซิลิโคนก็จะเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก โดยวิธีเสริมด้วยซิลิโคนนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การศัลยกรรมจากด้านในช่องปาก และการศัลยกรรมจากด้านนอกช่องปาก ส่วนวิธีฉีดก็จะเป็นการนำสารที่เป็นของเหลวมาฉีดเสริมเข้าไปที่คาง แต่ทั้งนี้การเสริมคางด้วยซิลิโคน ปัจจุบันจะได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในวงการแพทย์มากกว่า เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาแบบถาวร
4. ศัลยกรรมคาง ควรเลือกขนาดแบบไหนดี
การเสริมคางใช่ว่าจะสามารถเลือกทำขนาดเท่าไรก็ได้นะคะสาว ๆ ซึ่งของอย่างนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและขนาดใบหน้าของแต่ละคนด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อความสวยงาม และหลีกเลี่ยงผลเสียในระยะยาว ซึ่งถ้าหากใครที่เสริมคางขนาดที่ไม่เหมาะสมหรือใหญ่เกินไปก็อาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังและกระดูกคางในอนาคตได้
5. ก่อนศัลยกรรมคางต้องเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนทำศัลยกรรมเสริมคาง แพทย์ที่ทำการผ่าตัดจะแจ้งข้อมูลเพื่อให้คนไข้เตรียมตัว โดยมีรายละเอียดดังนี้
- งดยาหรือวิตามินที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น ยาแอสไพริน วิตามินในกลุ่มวิตามินอี น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด ในกรณีที่มีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบ ควรแจ้งข้อมูลกับแพทย์ ทั้งนี้ ถ้าใครที่รับประทานยาตัวใดหรืออาหารเสริมตัวใดอยู่ ควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบก่อนการผ่าตัด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1-2 วัน คนไข้ที่สูบบุหรี่ควรงดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด เพราะมีผลต่อการผ่าตัด เสี่ยงติดเชื้อ และทำให้แผลหายช้า
- เตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ตื่นเต้นมากเกินไป จนเกิดความกังวลและต้องเตรียมใจล่วงหน้าถึงอาการหลังผ่าตัดที่จะเกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในพักฟื้นและให้รูปคางเข้าที่
- การผ่าตัดเสริมคางเป็นการผ่าตัดเล็ก คนไข้ไม่ต้องอดอาหาร แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่ต้องดมยาสลบ
- ก่อนผ่าตัดควรทำความสะอาดช่องปากและฟันให้เรียบร้อย รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า
6. ทำคาง ดูแลยังไงหลังผ่าตัด
หลังจากผ่าตัดคางจะมีอาการบวม ซึ่งสาว ๆ สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมได้ นอกจากนี้ จนกว่าแผลจะหาย ไม่ควรให้คางได้รับการกระทบกระเทือน เวลานอนก็ควรนอนหงายและหนุนหมอนสูง ๆ เพื่อลดการคั่งตัวของเลือดที่จะทำให้เกิดอาการบวม รวมถึงควรงดรับประทานอาหารรสจัด ช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัด งดอาหารแสลง อาหารทะเล ของสุก ๆ ดิบ ๆ ที่เสี่ยงให้แผลบวมนานกว่าปกติ และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จทุกครั้งควรบ้วนปากทำความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ที่สำคัญจะต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
7. เสริมคางเจ็บไหม
การเสริมคางเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ที่ทำการผ่าตัดร่วมกับการฉีดยาชา ดังนั้นความรู้สึกเจ็บจะมีแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น หลังยาชาออกฤทธิ์ ระหว่างที่ผ่าตัดจนเสร็จคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังยาชาหมดฤทธิ์อาจจะมีอาการตึง หรือรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย ซึ่งสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ รวมถึงมีการประคบเย็น เพื่อลดปวดและลดบวม
8. เสริมคาง พักฟื้นกี่วัน
การพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดเสริมคาง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 วัน แต่สามารถไปไหนมาไหนได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่กระทบกิจวัตรประจำวัน 7 วัน จะนัดเข้ามาเพื่อเช็กแผลหรือตัดไหม ซึ่งกว่าทรงคางจะเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน
9. ศัลยกรรมคาง ข้อเสียและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับเคสที่ทำศัลยกรรมคางแล้ว บางรายอาจเกิดการผิดพลาดหรือมีผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมาได้ ใครที่อยากจะทำควรต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้เอาไว้ด้วย ซึ่งผลที่อาจเกิดขึ้นได้โดยส่วนใหญ่ก็คืออาการอักเสบหรือติดเชื้อในระยะแรก ๆ ที่แผลยังไม่หาย ควรจะรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้จนรุนแรงอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเอาซิลิโคนออกได้
นอกจากนี้หลาย ๆ คนก็อาจจะมีอาการคางเบี้ยว ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการกระแทกหรือกระทบอะไรแรง ๆ รวมถึงแพทย์ที่ทำการผ่าตัดไม่ชำนาญพอในการวางตำแหน่งซิลิโคนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเคสนี้ควรไปให้แพทย์ช่วยแก้ไข หรือบางรายก็อาจมีอาการชาที่ปากได้ เนื่องจากแท่งซิลิโคนอาจจะไปกดทับเส้นประสาท ในกรณีนี้อาการจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และจะกลับมาเป็นปกติได้เองค่ะ
10. ศัลยกรรมคาง ราคาประมาณเท่าไร
สาว ๆ ที่กำลังสืบราคาศัลยกรรมคางอยู่ ต้องบอกว่ามีหลายระดับราคา ตั้งแต่ประมาณ 10,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของรูปหน้า เกรดซิลิโคนที่เลือก วิธีการผ่าตัดด้านนอกหรือด้านในปาก ค่าบริการเสริมอื่น ๆ และโปรโมชั่นของแต่ละที่ค่ะ
เมื่อได้ศึกษาข้อมูลดี ๆ กันไปแล้ว คราวนี้สาว ๆ คนไหนที่กำลังคิดอยากจะไปเสริมคางอัปสวยก็ไม่ต้องกลัวพลาดแล้วล่ะค่ะ แค่เตรียมตัวให้พร้อมตามข้อมูลที่เราได้บอกไป เท่านี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : th.yanhee.net, bangmodaesthetic.com, totsapaet.com, weclinicbkk.com
เสริมคาง ช่วยอะไร ?
ก่อนอื่นเลยเราอยากให้สาว ๆ เข้าใจก่อนว่าศัลยกรรมคางช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างไรบ้าง จะได้รู้ว่าเราเหมาะกับการเสริมคางหรือไม่ ปกติแล้วการเสริมคางเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องคางสั้น คางเล็ก คางเหลี่ยม คางบุ๋ม ที่ทำให้ใบหน้าดูสั้นกลม รวมถึงใบหน้าบริเวณส่วนกลางดูกว้างและบาน ซึ่งการเสริมคางสามารถปรับรูปหน้าให้ยาวขึ้น ดูสมส่วน และเรียวสวย มีมิติมากขึ้น เมื่อเข้าใจแล้วเราก็ไปดูข้อมูลที่น่ารู้ก่อนศัลยกรรมคางกันเลยค่ะ
10 เรื่องน่ารู้ ก่อนทำศัลยกรรมคาง
1. ศัลยกรรมคาง อายุเท่าไรถึงจะทำได้
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่คิดจะทำศัลยกรรมคาง ช่วงอายุที่เหมาะสม ได้แก่ ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่แนะนำให้ทำอายุน้อยกว่านี้ เพราะโครงสร้างร่างกายของเรายังเติบโตไม่เต็มที่ รวมถึงการศัลยกรรมอื่น ๆ ด้วย ก่อนที่จะผ่าตัดแก้ไขปรับรูปหน้าควรรอให้โครงหน้าชัดเจนก่อนเพื่อจะได้เห็นปัญหาที่แท้จริง
2. ศัลยกรรมคางที่ไหนดี เลือกสถานที่อย่างไรให้สวยอย่างปลอดภัย
สำหรับการทำศัลยกรรมคาง หรือแม้แต่การทำศัลยกรรมอื่น ๆ เราควรจะพิจารณาดังนี้
- เลือกทำกับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการอย่างชัดเจน มีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง มีเครื่องมือ วัสดุเสริมคางมีคุณภาพ สะอาดปลอดเชื้อ เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการ
- มีทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมตกแต่ง เป็นแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างถูกต้องตามแพทยสภากำหนด มีผลงานการรักษาจากเคสที่ผ่านมา
- บริการด้วยความเอาใจใส่ สามารถให้คำแนะนำอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา
- มีช่องทางติดต่อฉุกเฉิน เพื่อให้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยทั้งก่อนและหลังเสริมคางกับหมอที่ทำเคสของตัวเอง
ทั้งนี้ ควรเลือกโรงพยาบาลที่เป็นตัวเลือกไว้สัก 2-3 ที่ จากนั้นให้ลองเข้าไปคุยกับคุณหมอเพื่อขอคำปรึกษา พร้อมกับดูผลงานของคุณหมอประกอบการตัดสินใจ วิธีนี้จะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สำหรับวัสดุที่ใช้เสริมคางมีทั้งแบบ "ซิลิโคนแท่ง" และแบบ "ฉีดไขมันหรือสารเสริมคาง" ซึ่งแบบเสริมด้วยซิลิโคนก็จะเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก โดยวิธีเสริมด้วยซิลิโคนนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การศัลยกรรมจากด้านในช่องปาก และการศัลยกรรมจากด้านนอกช่องปาก ส่วนวิธีฉีดก็จะเป็นการนำสารที่เป็นของเหลวมาฉีดเสริมเข้าไปที่คาง แต่ทั้งนี้การเสริมคางด้วยซิลิโคน ปัจจุบันจะได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในวงการแพทย์มากกว่า เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาแบบถาวร
4. ศัลยกรรมคาง ควรเลือกขนาดแบบไหนดี
การเสริมคางใช่ว่าจะสามารถเลือกทำขนาดเท่าไรก็ได้นะคะสาว ๆ ซึ่งของอย่างนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและขนาดใบหน้าของแต่ละคนด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อความสวยงาม และหลีกเลี่ยงผลเสียในระยะยาว ซึ่งถ้าหากใครที่เสริมคางขนาดที่ไม่เหมาะสมหรือใหญ่เกินไปก็อาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังและกระดูกคางในอนาคตได้
5. ก่อนศัลยกรรมคางต้องเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนทำศัลยกรรมเสริมคาง แพทย์ที่ทำการผ่าตัดจะแจ้งข้อมูลเพื่อให้คนไข้เตรียมตัว โดยมีรายละเอียดดังนี้
- งดยาหรือวิตามินที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น ยาแอสไพริน วิตามินในกลุ่มวิตามินอี น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด ในกรณีที่มีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบ ควรแจ้งข้อมูลกับแพทย์ ทั้งนี้ ถ้าใครที่รับประทานยาตัวใดหรืออาหารเสริมตัวใดอยู่ ควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบก่อนการผ่าตัด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1-2 วัน คนไข้ที่สูบบุหรี่ควรงดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด เพราะมีผลต่อการผ่าตัด เสี่ยงติดเชื้อ และทำให้แผลหายช้า
- เตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ตื่นเต้นมากเกินไป จนเกิดความกังวลและต้องเตรียมใจล่วงหน้าถึงอาการหลังผ่าตัดที่จะเกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในพักฟื้นและให้รูปคางเข้าที่
- การผ่าตัดเสริมคางเป็นการผ่าตัดเล็ก คนไข้ไม่ต้องอดอาหาร แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่ต้องดมยาสลบ
- ก่อนผ่าตัดควรทำความสะอาดช่องปากและฟันให้เรียบร้อย รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า
หลังจากผ่าตัดคางจะมีอาการบวม ซึ่งสาว ๆ สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมได้ นอกจากนี้ จนกว่าแผลจะหาย ไม่ควรให้คางได้รับการกระทบกระเทือน เวลานอนก็ควรนอนหงายและหนุนหมอนสูง ๆ เพื่อลดการคั่งตัวของเลือดที่จะทำให้เกิดอาการบวม รวมถึงควรงดรับประทานอาหารรสจัด ช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัด งดอาหารแสลง อาหารทะเล ของสุก ๆ ดิบ ๆ ที่เสี่ยงให้แผลบวมนานกว่าปกติ และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จทุกครั้งควรบ้วนปากทำความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ที่สำคัญจะต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
7. เสริมคางเจ็บไหม
การเสริมคางเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ที่ทำการผ่าตัดร่วมกับการฉีดยาชา ดังนั้นความรู้สึกเจ็บจะมีแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น หลังยาชาออกฤทธิ์ ระหว่างที่ผ่าตัดจนเสร็จคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังยาชาหมดฤทธิ์อาจจะมีอาการตึง หรือรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย ซึ่งสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ รวมถึงมีการประคบเย็น เพื่อลดปวดและลดบวม
8. เสริมคาง พักฟื้นกี่วัน
การพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดเสริมคาง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 วัน แต่สามารถไปไหนมาไหนได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่กระทบกิจวัตรประจำวัน 7 วัน จะนัดเข้ามาเพื่อเช็กแผลหรือตัดไหม ซึ่งกว่าทรงคางจะเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน
9. ศัลยกรรมคาง ข้อเสียและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับเคสที่ทำศัลยกรรมคางแล้ว บางรายอาจเกิดการผิดพลาดหรือมีผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมาได้ ใครที่อยากจะทำควรต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้เอาไว้ด้วย ซึ่งผลที่อาจเกิดขึ้นได้โดยส่วนใหญ่ก็คืออาการอักเสบหรือติดเชื้อในระยะแรก ๆ ที่แผลยังไม่หาย ควรจะรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้จนรุนแรงอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเอาซิลิโคนออกได้
นอกจากนี้หลาย ๆ คนก็อาจจะมีอาการคางเบี้ยว ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการกระแทกหรือกระทบอะไรแรง ๆ รวมถึงแพทย์ที่ทำการผ่าตัดไม่ชำนาญพอในการวางตำแหน่งซิลิโคนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเคสนี้ควรไปให้แพทย์ช่วยแก้ไข หรือบางรายก็อาจมีอาการชาที่ปากได้ เนื่องจากแท่งซิลิโคนอาจจะไปกดทับเส้นประสาท ในกรณีนี้อาการจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และจะกลับมาเป็นปกติได้เองค่ะ
10. ศัลยกรรมคาง ราคาประมาณเท่าไร
สาว ๆ ที่กำลังสืบราคาศัลยกรรมคางอยู่ ต้องบอกว่ามีหลายระดับราคา ตั้งแต่ประมาณ 10,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของรูปหน้า เกรดซิลิโคนที่เลือก วิธีการผ่าตัดด้านนอกหรือด้านในปาก ค่าบริการเสริมอื่น ๆ และโปรโมชั่นของแต่ละที่ค่ะ
เมื่อได้ศึกษาข้อมูลดี ๆ กันไปแล้ว คราวนี้สาว ๆ คนไหนที่กำลังคิดอยากจะไปเสริมคางอัปสวยก็ไม่ต้องกลัวพลาดแล้วล่ะค่ะ แค่เตรียมตัวให้พร้อมตามข้อมูลที่เราได้บอกไป เท่านี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : th.yanhee.net, bangmodaesthetic.com, totsapaet.com, weclinicbkk.com