ศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ก่อนคิดที่จะทำมีเรื่องอะไรที่สาว ๆ ควรรู้และศึกษาเอาไว้บ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันค่ะ
ทุกวันนี้การทำศัลยกรรมถือเป็นทางลัดทำสวยที่ได้ผลและเห็นผลเร็วที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็อยากทำศัลยกรรม โดยเฉพาะการทำศัลยกรรมส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามอย่าง ใบหน้า เช่น ทำตา ทำจมูก ทำปาก ทำหน้าเรียว และอีกอย่างหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้กันในตอนนี้ก็คือ "การทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก" นั่นเอง
1. เลือกทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
อันดับแรกสิ่งสำคัญเลยก็คือควรเลือกทำศัลยกรรมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น นอกจากนี้ควรเดินเข้าไปปรึกษาหมอก่อนทำศัลยกรรม เพื่อที่จะได้ทำการวิเคราะห์ใบหน้าว่าเราควรจะแก้ไขรูปหน้าผากหรือทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากด้วยรูปแบบใด ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไร ซึ่งสาว ๆ ควรจะสอบถามข้อมูลให้ละเอียด อีกทั้งควรบอกประวัติของตัวเองด้วยว่ามีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา แพ้สารอะไรหรือไม่
2. ศัลยกรรมเสริมหน้าผากเหมาะกับใครบ้าง
การทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าผากไม่เรียบเนียน หน้าผากแบน หรือมีปัญหาหน้าผากกว้างหรือแคบเกินไป ซึ่งการทำศัลยกรรมนี้จะช่วยปรับรูปหน้าให้สวยเด่นสะดุดตา และสมดุลดูมี 3 มิติยิ่งขึ้น นอกจากนี้คนที่มีอายุมาก ๆ มีปัญหาเรื่องริ้วรอยบนหน้าผากก็สามารถทำศัลยกรรมหน้าผากเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ได้เช่นเดียวกันค่ะ
3. ลักษณะการทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
การทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากจริง ๆ แล้วมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน แต่วิธีที่เป็นที่นิยม ได้แก่
- การเสริมหน้าผากด้วยการฉีดไขมัน เป็นการนำไขมันของตัวเราเอง อย่างเช่น ไขมันบริเวณต้นขา ต้นแขน หรือหน้าท้อง มาแยกเซลล์ไขมัน จากนั้นนำมาฉีดเสริมเข้าไปที่บริเวณหน้าผาก สำหรับวิธีนี้จะไม่มีบาดแผล ไม่มีรอยแผลเป็น และจะดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ แต่ข้อเสียก็คือระยะเวลาของการเสริมหน้าผากด้วยการฉีดไขมันจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้นเอง
- การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน เป็นการผ่าตัดเพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปให้พอดีกับรูปหน้า ซึ่งข้อดีของการเสริมซิลิโคนก็คือจะได้ทรงหน้าผากที่พอดี มีรูปทรงสวย อีกทั้งยังอยู่ได้นานกว่าการฉีดไขมันค่ะ
- การเสริมหน้าผากด้วยการฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปที่บริเวณหน้าผากตามจุดต่าง ๆ สำหรับวิธีนี้จะช่วยเสริมจุดบกพร่อง แต่งเติมให้หน้าผากนูนสวยได้รูป นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย
4. ศัลยกรรมหน้าผากเสริมโหงวเฮ้งแบบไหนดี
ว่ากันว่ารูปแบบของหน้าผากที่มีโหงวเฮ้งดี และที่คนส่วนใหญ่มักจะนิยมทำกันนั้นมักจะเป็น "หน้าผากโหนกนูน" ซึ่งหน้าผากลักษณะนี้เขาว่าจะเป็นคนโหงวเฮ้งดี ทำอะไรก็จะรุ่งเรือง รับทรัพย์ และจะมีแต่ความโชคดี แต่ทั้งนี้ถ้าอยากจะให้สวยด้วยควรทำศัลยกรรมหน้าผากให้โค้งนูนพอประมาณ รับกับจมูกและใบหน้า ทุกอย่างจะต้องสมดุลกัน แบบนี้แหละจะได้ทั้งโหงวเฮ้งและความสวยเลย
5. การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
ก่อนทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากจะต้องตรวจร่างกายโดยแพทย์ให้ละเอียดเสียก่อน ทั้งนี้ก่อนวันที่จะทำศัลยกรรมประมาณ 1-3 วัน ควรงดรับประทานยาจำพวกแอสไพริน อาหารเสริมประเภทวิตามินอี อีกทั้งควรงดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วย
6. วิธีดูแลหลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
หลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ในกรณีที่เลือกการฉีดไขมันหรือสารเติมเต็ม หลังฉีดจะมีเพียงรอยเข็ม และมักจะไม่มีปัญหาปวดบวมเท่าไร ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ในกรณีที่ผ่าตัด ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยใน 1-2 วันแรกที่ผ่าตัด อาจจะมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาได้ หรือถ้าหากมีอาการบวม หลังผ่าตัด 1-2 วันแรกให้ประคบเย็น หลังจากนั้นวันที่ 3 ให้ประคบร้อนจะทำให้อาการบวมลดลงได้ นอกจากนี้ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 1 เดือน รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายประเภทหนัก ๆ ประมาณ 2-3 เดือน เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน เพราะอาจทำให้หน้าผากผิดรูปได้ค่ะ
7. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
ผลข้างเคียงของการทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากนั้น ส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดบวมช้ำจากการผ่าตัด ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ พักฟื้นประมาณ 5-7 วัน อาการเหล่านี้ก็จะดีขึ้นเอง นอกจากนี้อาการข้างเคียงอื่น ๆ ก็อย่างเช่น อาจมีปัญหาความไม่สมส่วน หน้าผากไม่เท่ากัน หรืออาจมีอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ซึ่งถ้าหากมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและทำการแก้ไขจะดีที่สุดค่ะ
และนี่ก็คือเรื่องราวที่สาว ๆ ควรจะต้องรู้ก่อนคิดทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก เมื่อศึกษาข้อมูลกันดีแล้ว ต่อไปก็แค่เตรียมตัวให้พร้อม แล้วอย่าลืมปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อความมั่นใจก่อนทุกครั้งด้วยนะคะ คราวนี้แหละได้หน้าผากใหม่ที่สวยสมใจแน่นอน
