บุ๋ม ปนัดดา ควงสามี แถลงข่าวแจงดราม่าที่จอดรถสแมชยิม กับ 911 by JT ของ เจนี่ ลั่นยังไม่เคยได้สัญญาเลย พร้อมเล่าจุดเริ่มต้นปัญหา ยื่นคำขาดขอค่าก่อสร้าง 3 ล้านบาท แล้วจะย้ายออก แจงคลิปทะเลาะพนักงานไม่มีทำร้ายร่างกาย บอกทำกันแบบนี้คงอยู่ไม่ได้แล้ว
กำลังเป็นประเด็นดราม่าร้อนฉ่าที่หลายคนจับตามอง สำหรับข้อพิพาทระหว่าง บุ๋ม ปนัดดา เจ้าของสแมชยิม เรื่องที่จอดรถกับฟิตเนส 911 by JT ของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ซึ่งต่อมาทางฝ่ายผู้จัดการยิมของเจนี่ ได้งัดหลักฐานเป็นคลิปที่ เอก สามีของบุ๋ม ยืนทะเลาะกับพนักงาน รวมทั้งเผยว่าฝั่งทาง บุ๋ม ปนัดดา ไม่จ่ายเงินค่าเช่าที่มานานถึง 3 เดือน
กำลังเป็นประเด็นดราม่าร้อนฉ่าที่หลายคนจับตามอง สำหรับข้อพิพาทระหว่าง บุ๋ม ปนัดดา เจ้าของสแมชยิม เรื่องที่จอดรถกับฟิตเนส 911 by JT ของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ซึ่งต่อมาทางฝ่ายผู้จัดการยิมของเจนี่ ได้งัดหลักฐานเป็นคลิปที่ เอก สามีของบุ๋ม ยืนทะเลาะกับพนักงาน รวมทั้งเผยว่าฝั่งทาง บุ๋ม ปนัดดา ไม่จ่ายเงินค่าเช่าที่มานานถึง 3 เดือน
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (22 มิถุนายน 2559) บุ๋ม ปนัดดา ได้ควง เอก เอกริน สามี แถลงข่าวเพื่อชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ที่ออกมาชี้แจงเพราะเรื่องเริ่มบานปลายแล้ว อย่างที่เห็นธุรกิจทั้งสองตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน มันมีปัญหาที่เกิดขึ้นสะสมมานาน หลายคนถามว่าทำไมไม่คุยกัน จริง ๆ แล้วมีการคุยกันเยอะมาก ทั้งคุยกับ เจนี่ คุณแม่ และตัวแทน มีทั้งการไลน์ โทร และเดินไปคุย แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา
โดยธุรกิจนี้เริ่มต้นจาก บุ๋ม ท็อป และเจนี่ ร่วมหุ้นกัน ทีแรกคุยว่าจะหุ้นกัน 2 คนก่อน และเจนี่มาขอร่วมหุ้นที่ 3 ฝั่งท็อปอยากเปิดสอนเทควันโด ทางบุ๋มเปิดยิม ส่วนเจนี่จะเปิดมวย ส่วนขั้นตอนการหาพื้นที่เป็นท็อปกับฝั่งบุ๋มที่หาพื้นที่เช่า เราก็ตกลงกันว่า เทควันโดกับมวยใช้พื้นที่เยอะ เราเลยให้เขาเช่าพื้นที่ใหญ่ไป ส่วนฝั่งเราใช้พื้นที่เล็ก
บุ๋ม ปนัดดา : ตนลงทุนอุปกรณ์ไป 10 กว่าล้าน ส่วนอีก 2 คน มีแค่ห้องเปล่า ๆ กับเวทีมวย ถ้าพูดกันตามจริงคุณลงทุนน้อยกว่าบุ๋ม ถ้าจะหุ้นกันแบบแฟร์ ๆ คุณเอาเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายค่าเช่าที่ ส่วนเราลงเครื่อง เราจะทำงานร่วมกัน นี่คือการเริ่มต้นธุรกิจในตอนแรก คือฝ่ายท็อปและเจนี่เป็นคนเซ็นสัญญาเป็นผู้เช่าที่
เรื่องสัญญา ?
เอก เอกริน : เรามีสัญญาเช่าเก่าระหว่างสแมชยิมกับทางเจนี่และท็อป เราได้จ่ายมัดจำค่าเช่าที่ไปแล้ว 3 เดือน
บุ๋ม ปนัดดา : ที่หลายคนถามว่าทำไมไม่มีสัญญาแล้วบุ๋มกล้าลงทุนได้ยังไง 10 กว่าล้าน เรามีค่ะ เรามีหุ้นส่วน เรามีที่ปรึกษาด้านกฎหมาย แต่ปัญหาคือทางท็อปกับเจนี่เขามีปัญหากัน ซึ่งเราจะไม่พูดถึง พอมีปัญหากันทางเจนี่ได้ซื้อหุ้นของท็อป จึงกลายเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว เราก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งที่เริ่มต้นมาด้วยกัน
ตกลงเราเป็นแค่ผู้เช่า ?
บุ๋ม ปนัดดา : บุ๋มถามสักคำหนึ่งถ้าเราเป็นแค่ผู้เช่าจริง ๆ ตั้งแต่แรก เราจะจ่ายค่าก่อสร้างทำไมอีก 3 ล้านบาทร่วมกับเขา ถ้าสแมชยิมเป็นแค่ผู้เช่าทำไมเราต้องมาสร้างตัวอาคารกับเขาด้วย เพราะเราเป็นคนลงทุนด้วยกัน แต่ในสัญญาคือเรายอมตกลงเป็นผู้เช่าจากเขาอีกทีหนึ่ง นี่คือข้อผิดพลาดของเรา เรื่องที่สองที่เขามีปัญหากันมันคือจุดเปลี่ยน แต่เราสั่งของมาแล้วส่งจากอเมริกา 3 ตู้คอนเทนเนอร์ บุ๋มเลยจำเป็นต้องเอาของลงสถานที่เริ่มต้น ทั้งที่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่เราจำเป็น
เอก เอกริน : ตอนนั้นเราเสนอให้เขาซื้อพื้นที่คืนไป แต่เขาไม่ตกลงซื้อคืนเปลี่ยนเป็นให้เราเช่าพื้นที่แทน เราก็มาคุยกันใหม่ ตอนที่เขามีปัญหากันเขาขอให้เซ็นสัญญาใหม่ แต่จนบัดนี้ผมยังไม่ได้สัญญาเลย
การจ่ายค่าเช่าพื้นที่ ?
บุ๋ม ปนัดดา : คือไม่ใช่ว่าไม่อยากจ่าย ถ้าใครทำงานบริษัทจะเข้าใจว่าการที่เราจะแนบเช็คได้เราต้องมีสัญญาแนบ เราอยากจ่าย เดินไปหาเพื่อจะจ่ายตังค์ แต่ก็ยังไม่ได้ แถมปัญหาเกิดขึ้นรายวัน
เรื่องที่จอดรถเป็นปัญหายังไงบ้าง ?
บุ๋ม ปนัดดา : สแมชยิมเป็นพื้นที่ใหญ่ ยังไม่เคยเรียกร้องพื้นที่จอดรถเลย
เอก เอกริน : ผมโดนลูกค้าร้องเรียนว่า เขามาจอดรถก่อน แต่อีกฝ่ายไม่ให้จอด แต่บอกเตรียมที่ให้คลาสซุมบ้า แต่ซุมบ้าไม่ได้มีทั้งวัน ผมเคยเดินไปยกกรวยออกด้วยซ้ำ ลูกค้าเคยโทรมาบอกว่าหาที่จอดไม่ได้ถูกกันไว้ เลยวนกลับบ้าน มีการปรึกษาแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
มีการพยายามแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง ?
บุ๋ม ปนัดดา : เคยไปปรึกษาคุณแม่เจนี่แล้ว และมีหลายคนในโลกโซเชียลที่มาคอมเมนต์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องต่าง ๆ ที่ออกมาแถลงข่าวเพราะเสียใจและเครียดมาหลายวันไม่อยากร้องไห้ด้วยเพราะเดี๋ยวจะหาว่าดราม่า (น้ำตาคลอ) เราต้องการจะแก้ปัญหาจริง ๆ จึงลงในไอจี
เรื่องคลิปเอกทะเลาะพนักงาน ?
บุ๋ม ปนัดดา : เราได้เห็นคลิปในข่าว ซึ่งทาง 911 ต้องรู้เรื่องเพราะเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิด ตอนลูกค้าบุ๋มรถกันชนหลุดขอกล้องเขาดูเขาก็ไม่ให้บอกดูไม่เป็น จะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้ แต่ที่เสียใจที่สุดคืออีกฝ่ายไม่ยอมมาเคลียร์ ไม่รับสาย บุ๋มไลน์หาทุกคนแม้กระทั่งคุณกึ้ง แต่เขาเงียบตลอดเลย ทั้งที่มีปัญหาทุกวัน
เอก เอกริน : เหตุการณ์ในคลิปคือมีคลาสซุมบ้า แล้วลูกค้าผมเล่นฟิตเนสเสร็จกำลังจะกลับ แต่อีกฝ่ายบอกออกไม่ได้ เพราะลูกค้าซุมบ้าจอดเต็มทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเข้าคลาส และยังมารู้ทีหลังว่าทางเขาเก็บกุญแจไว้แต่มาบอกว่าเลื่อนไม่ได้ ทำให้ผมโมโห เขาบอกลูกค้าผมให้รอ 2 ทุ่มค่อยออก ผมยอมรับว่าผมโกรธ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย และเข้าไปเคลียร์เรื่องการพูดจาไม่ดีที่เขาพูดกับลูกค้า
บุ๋ม ปนัดดา : ทางบุ๋มได้คุยกับนนักข่าวคนหนึ่ง เขาบอกว่ามีคนส่งมาให้แล้วบอกว่าคุณเอกทำร้ายร่างกาย ผลักกระเด็น มีการไปแจ้งความที่ สน. แต่นักข่าวโทรไปเช็กพบว่าไม่มีการแจ้งความใด ๆ คุณโกหกนักข่าว
ทางนั้นมีบอกว่าไม่จ่ายค่าเช่า 3 เดือน อาจพิจารณาไม่ต่อสัญญา ?
เอก เอกริน : ผมอยากถามว่าสัญญาอะไร เพราะทุกวันนี้เราไม่มีสัญญา มัดจำก็จ่ายแล้ว ทวงสัญญาไปแล้วก็ไม่ได้ เขาบอกว่าผมเปิดคลาสซุมบ้าซ้ำซ้อน ผมไม่ได้เปิด อีกอย่างคือเราเปิดฟิตเนสก่อน และขอรายชื่อคลาสของเขาว่ามีอะไรบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ให้ เราเลี่ยงให้ทุกอย่าง แต่คุณมาหาว่าเราเปิดคลาสซ้ำซ้อน
บุ๋ม ปนัดดา : การให้ข่าวแบบนี้มีไม่กี่คนที่รู้เรื่อง และเราก็รู้ด้วยว่าใครพูด ขอถามกลับว่าทำกันขนาดนี้เพื่ออะไร การทำธุรกิจน่าจะช่วยกันดูแลลูกค้า ที่เราตั้งใจทำกันตั้งแต่แรกคือเสริมกัน แต่มามองเหมือนเป็นศัตรู ณ วันนี้สิ่งที่ต้องการคือสัญญา เราจ่ายเงินให้เลย แต่คุณทำกันขนาดนี้ ปล่อยคลิปแบบนี้ จงใจขนาดนี้ บุ๋มขอยื่นคำขาดเลย ขอแค่ค่าก่อสร้างราคา 3 ล้านบาท ค่าตกแต่งบุ๋มไม่เอาสักบาท แล้วเราจะย้ายออก เพราะทำกันแบบนี้เราก็คงอยู่ไม่ได้แล้ว จะมองหน้ากันยังไง จะดูแลลูกค้ายังไง ดูแลลูกค้าเหมือนครอบครัว บุ๋มไว้ใจเขา แต่บุ๋มโดนทำแบบนี้ (ร้องไห้) บุ๋มเครียดจนเป็นลม
กับเจนี่มีการพูดคุยอะไรกันไหม ?
เอก เอกริน : มีการพูดคุยกับเจนี่ส่วนตัว เขาก็คุยดีมาก เข้าใจปัญหา แต่เขาไม่ได้มาดูแลเต็มตัว หรือมาดูแลทุกวัน แต่ปัญหานี้ก็ยังไม่มีการแก้ไข คิดว่าเขาไม่ได้หนี แต่คงไม่ว่าง หรือคิดว่ามันไม่สำคัญ
บุ๋ม ปนัดดา : คำเดียวที่เขาตอบคือรอเอกสารสัญญาจากทางทนายของคุณกึ้ง หลังจากนั้นก็มีลูกค้ามาเล่ากับเราว่าเคยเจออะไรบ้าง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ข่าวบิดเบือนแบบนี้
มีการฟ้องร้องไหม ?
บุ๋ม ปนัดดา : ได้ข่าวมาว่า อีกฝ่ายจะฟ้องร้อง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะฟ้องร้องเรื่องอะไร เพราะสัญญาก็ไม่มี
เอก เอกริน : เรื่องที่เป็นปัญหาหลัก ๆ ตอนนี้คือ เรื่องการรับลูกค้าของทางเรา และตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าต้องเคลียร์กับใคร เพราะต่างคนต่างโบ้ยกันไปมา เจนี่ ไม่ได้เป็นเจ้าของพื้นที่โดยตรง แต่เป็นพื้นที่ของบุคคลที่สาม คนที่มาเจอพื้นที่คนแรกคือท็อป ผมส่งทนายไปร่วมเจรจาด้วย พอเช่าเสร็จก็มามีปัญหากัน
อยากฝากอะไรถึงแฟนคลับไหม เพราะตอนนี้เหมือนจะเริ่มมีปัญหากัน ?
บุ๋ม ปนัดดา : ขอฝากไปทางแฟนคลับของตัวบุ๋มเอง และคนอื่น ๆ อย่าใช้ถ้อยคำรุนแรงกับเจนี่ และอย่าพาดพิงเรื่องส่วนตัวค่ะ รวมทั้งอยากให้ทุกคนใจเย็น ๆ และฝากผู้ใหญ่ที่อีกฝ่ายเกรงใจช่วยคุยให้หน่อย เพราะที่ลงในไอจี ก็เพราะสุด ๆ แล้ว
บุ๋ม ปนัดดา : ตนลงทุนอุปกรณ์ไป 10 กว่าล้าน ส่วนอีก 2 คน มีแค่ห้องเปล่า ๆ กับเวทีมวย ถ้าพูดกันตามจริงคุณลงทุนน้อยกว่าบุ๋ม ถ้าจะหุ้นกันแบบแฟร์ ๆ คุณเอาเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายค่าเช่าที่ ส่วนเราลงเครื่อง เราจะทำงานร่วมกัน นี่คือการเริ่มต้นธุรกิจในตอนแรก คือฝ่ายท็อปและเจนี่เป็นคนเซ็นสัญญาเป็นผู้เช่าที่
เรื่องสัญญา ?
เอก เอกริน : เรามีสัญญาเช่าเก่าระหว่างสแมชยิมกับทางเจนี่และท็อป เราได้จ่ายมัดจำค่าเช่าที่ไปแล้ว 3 เดือน
บุ๋ม ปนัดดา : ที่หลายคนถามว่าทำไมไม่มีสัญญาแล้วบุ๋มกล้าลงทุนได้ยังไง 10 กว่าล้าน เรามีค่ะ เรามีหุ้นส่วน เรามีที่ปรึกษาด้านกฎหมาย แต่ปัญหาคือทางท็อปกับเจนี่เขามีปัญหากัน ซึ่งเราจะไม่พูดถึง พอมีปัญหากันทางเจนี่ได้ซื้อหุ้นของท็อป จึงกลายเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว เราก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งที่เริ่มต้นมาด้วยกัน
ตกลงเราเป็นแค่ผู้เช่า ?
บุ๋ม ปนัดดา : บุ๋มถามสักคำหนึ่งถ้าเราเป็นแค่ผู้เช่าจริง ๆ ตั้งแต่แรก เราจะจ่ายค่าก่อสร้างทำไมอีก 3 ล้านบาทร่วมกับเขา ถ้าสแมชยิมเป็นแค่ผู้เช่าทำไมเราต้องมาสร้างตัวอาคารกับเขาด้วย เพราะเราเป็นคนลงทุนด้วยกัน แต่ในสัญญาคือเรายอมตกลงเป็นผู้เช่าจากเขาอีกทีหนึ่ง นี่คือข้อผิดพลาดของเรา เรื่องที่สองที่เขามีปัญหากันมันคือจุดเปลี่ยน แต่เราสั่งของมาแล้วส่งจากอเมริกา 3 ตู้คอนเทนเนอร์ บุ๋มเลยจำเป็นต้องเอาของลงสถานที่เริ่มต้น ทั้งที่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่เราจำเป็น
เอก เอกริน : ตอนนั้นเราเสนอให้เขาซื้อพื้นที่คืนไป แต่เขาไม่ตกลงซื้อคืนเปลี่ยนเป็นให้เราเช่าพื้นที่แทน เราก็มาคุยกันใหม่ ตอนที่เขามีปัญหากันเขาขอให้เซ็นสัญญาใหม่ แต่จนบัดนี้ผมยังไม่ได้สัญญาเลย
การจ่ายค่าเช่าพื้นที่ ?
บุ๋ม ปนัดดา : คือไม่ใช่ว่าไม่อยากจ่าย ถ้าใครทำงานบริษัทจะเข้าใจว่าการที่เราจะแนบเช็คได้เราต้องมีสัญญาแนบ เราอยากจ่าย เดินไปหาเพื่อจะจ่ายตังค์ แต่ก็ยังไม่ได้ แถมปัญหาเกิดขึ้นรายวัน
เรื่องที่จอดรถเป็นปัญหายังไงบ้าง ?
บุ๋ม ปนัดดา : สแมชยิมเป็นพื้นที่ใหญ่ ยังไม่เคยเรียกร้องพื้นที่จอดรถเลย
เอก เอกริน : ผมโดนลูกค้าร้องเรียนว่า เขามาจอดรถก่อน แต่อีกฝ่ายไม่ให้จอด แต่บอกเตรียมที่ให้คลาสซุมบ้า แต่ซุมบ้าไม่ได้มีทั้งวัน ผมเคยเดินไปยกกรวยออกด้วยซ้ำ ลูกค้าเคยโทรมาบอกว่าหาที่จอดไม่ได้ถูกกันไว้ เลยวนกลับบ้าน มีการปรึกษาแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
มีการพยายามแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง ?
บุ๋ม ปนัดดา : เคยไปปรึกษาคุณแม่เจนี่แล้ว และมีหลายคนในโลกโซเชียลที่มาคอมเมนต์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องต่าง ๆ ที่ออกมาแถลงข่าวเพราะเสียใจและเครียดมาหลายวันไม่อยากร้องไห้ด้วยเพราะเดี๋ยวจะหาว่าดราม่า (น้ำตาคลอ) เราต้องการจะแก้ปัญหาจริง ๆ จึงลงในไอจี
เรื่องคลิปเอกทะเลาะพนักงาน ?
บุ๋ม ปนัดดา : เราได้เห็นคลิปในข่าว ซึ่งทาง 911 ต้องรู้เรื่องเพราะเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิด ตอนลูกค้าบุ๋มรถกันชนหลุดขอกล้องเขาดูเขาก็ไม่ให้บอกดูไม่เป็น จะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้ แต่ที่เสียใจที่สุดคืออีกฝ่ายไม่ยอมมาเคลียร์ ไม่รับสาย บุ๋มไลน์หาทุกคนแม้กระทั่งคุณกึ้ง แต่เขาเงียบตลอดเลย ทั้งที่มีปัญหาทุกวัน
เอก เอกริน : เหตุการณ์ในคลิปคือมีคลาสซุมบ้า แล้วลูกค้าผมเล่นฟิตเนสเสร็จกำลังจะกลับ แต่อีกฝ่ายบอกออกไม่ได้ เพราะลูกค้าซุมบ้าจอดเต็มทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเข้าคลาส และยังมารู้ทีหลังว่าทางเขาเก็บกุญแจไว้แต่มาบอกว่าเลื่อนไม่ได้ ทำให้ผมโมโห เขาบอกลูกค้าผมให้รอ 2 ทุ่มค่อยออก ผมยอมรับว่าผมโกรธ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย และเข้าไปเคลียร์เรื่องการพูดจาไม่ดีที่เขาพูดกับลูกค้า
บุ๋ม ปนัดดา : ทางบุ๋มได้คุยกับนนักข่าวคนหนึ่ง เขาบอกว่ามีคนส่งมาให้แล้วบอกว่าคุณเอกทำร้ายร่างกาย ผลักกระเด็น มีการไปแจ้งความที่ สน. แต่นักข่าวโทรไปเช็กพบว่าไม่มีการแจ้งความใด ๆ คุณโกหกนักข่าว
ทางนั้นมีบอกว่าไม่จ่ายค่าเช่า 3 เดือน อาจพิจารณาไม่ต่อสัญญา ?
เอก เอกริน : ผมอยากถามว่าสัญญาอะไร เพราะทุกวันนี้เราไม่มีสัญญา มัดจำก็จ่ายแล้ว ทวงสัญญาไปแล้วก็ไม่ได้ เขาบอกว่าผมเปิดคลาสซุมบ้าซ้ำซ้อน ผมไม่ได้เปิด อีกอย่างคือเราเปิดฟิตเนสก่อน และขอรายชื่อคลาสของเขาว่ามีอะไรบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ให้ เราเลี่ยงให้ทุกอย่าง แต่คุณมาหาว่าเราเปิดคลาสซ้ำซ้อน
บุ๋ม ปนัดดา : การให้ข่าวแบบนี้มีไม่กี่คนที่รู้เรื่อง และเราก็รู้ด้วยว่าใครพูด ขอถามกลับว่าทำกันขนาดนี้เพื่ออะไร การทำธุรกิจน่าจะช่วยกันดูแลลูกค้า ที่เราตั้งใจทำกันตั้งแต่แรกคือเสริมกัน แต่มามองเหมือนเป็นศัตรู ณ วันนี้สิ่งที่ต้องการคือสัญญา เราจ่ายเงินให้เลย แต่คุณทำกันขนาดนี้ ปล่อยคลิปแบบนี้ จงใจขนาดนี้ บุ๋มขอยื่นคำขาดเลย ขอแค่ค่าก่อสร้างราคา 3 ล้านบาท ค่าตกแต่งบุ๋มไม่เอาสักบาท แล้วเราจะย้ายออก เพราะทำกันแบบนี้เราก็คงอยู่ไม่ได้แล้ว จะมองหน้ากันยังไง จะดูแลลูกค้ายังไง ดูแลลูกค้าเหมือนครอบครัว บุ๋มไว้ใจเขา แต่บุ๋มโดนทำแบบนี้ (ร้องไห้) บุ๋มเครียดจนเป็นลม
กับเจนี่มีการพูดคุยอะไรกันไหม ?
เอก เอกริน : มีการพูดคุยกับเจนี่ส่วนตัว เขาก็คุยดีมาก เข้าใจปัญหา แต่เขาไม่ได้มาดูแลเต็มตัว หรือมาดูแลทุกวัน แต่ปัญหานี้ก็ยังไม่มีการแก้ไข คิดว่าเขาไม่ได้หนี แต่คงไม่ว่าง หรือคิดว่ามันไม่สำคัญ
บุ๋ม ปนัดดา : คำเดียวที่เขาตอบคือรอเอกสารสัญญาจากทางทนายของคุณกึ้ง หลังจากนั้นก็มีลูกค้ามาเล่ากับเราว่าเคยเจออะไรบ้าง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ข่าวบิดเบือนแบบนี้
มีการฟ้องร้องไหม ?
บุ๋ม ปนัดดา : ได้ข่าวมาว่า อีกฝ่ายจะฟ้องร้อง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะฟ้องร้องเรื่องอะไร เพราะสัญญาก็ไม่มี
เอก เอกริน : เรื่องที่เป็นปัญหาหลัก ๆ ตอนนี้คือ เรื่องการรับลูกค้าของทางเรา และตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าต้องเคลียร์กับใคร เพราะต่างคนต่างโบ้ยกันไปมา เจนี่ ไม่ได้เป็นเจ้าของพื้นที่โดยตรง แต่เป็นพื้นที่ของบุคคลที่สาม คนที่มาเจอพื้นที่คนแรกคือท็อป ผมส่งทนายไปร่วมเจรจาด้วย พอเช่าเสร็จก็มามีปัญหากัน
อยากฝากอะไรถึงแฟนคลับไหม เพราะตอนนี้เหมือนจะเริ่มมีปัญหากัน ?
บุ๋ม ปนัดดา : ขอฝากไปทางแฟนคลับของตัวบุ๋มเอง และคนอื่น ๆ อย่าใช้ถ้อยคำรุนแรงกับเจนี่ และอย่าพาดพิงเรื่องส่วนตัวค่ะ รวมทั้งอยากให้ทุกคนใจเย็น ๆ และฝากผู้ใหญ่ที่อีกฝ่ายเกรงใจช่วยคุยให้หน่อย เพราะที่ลงในไอจี ก็เพราะสุด ๆ แล้ว
ติดตามข่าว บุ๋ม เจนี่ ทั้งหมดคลิกเลย