วิธีรักษากระที่หน้า ต้องทำอย่างไร สำหรับใครที่ตอนนี้กำลังมีปัญหาเรื่องหน้าเป็นกระ มาดูกันเลยว่า หน้าเป็นกระ เกิดจากอะไร แล้วต้องรักษายังไงถึงจะหาย
กระ คือ รอยด่างดำที่มักจะเกิดขึ้นบนใบหน้า ลำคอ
แขน และตามลำตัว ซึ่งจะมีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาล ทั้งนี้
จะพบมากในกลุ่มคนที่มีผิวขาว ซึ่งเกิดได้จาก 2 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
กรรมพันธุ์ และแสงแดด โดยคนที่เป็นกระจากกรรมพันธุ์จะพบได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก
และเมื่อโดนแสงแดดก็จะยิ่งเกิดการกระตุ้น ทำให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ
กระจึงมีสีคล้ำ หรือมีขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นจากกรรมพันธุ์ก็สามารถมีปัญหากระตามมาได้เช่นกัน
เนื่องจากมีแสงแดดเป็นปัจจัยกระตุ้นนั่นเอง เมื่อรู้แล้วว่ากระเกิดจากอะไร ทีนี้ก็ตามมาดูกันเลยว่า วิธีรักษากระ ต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะหาย เรามีข้อมูลมาฝากกันแล้วค่ะ
1. กระแดด เป็นกระที่มักพบได้บ่อย ๆ ลักษณะเป็นจุด ๆ สีน้ำตาล ผิวเรียบ เกิดขึ้นได้จากการที่ผิวโดนแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ
2. กระตื้น จะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ กระจายไปทั่วผิว บริเวณที่เป็นกระหากโดนแดดจะมีสีเข้มขึ้น หรือถ้าไม่โดนแดดสีก็จะจางลงได้
3. กระลึก จะเป็นจุดสีน้ำตาลอมเทา คล้าย ๆ ฝ้า มักจะเกิดขึ้นในชั้นใต้ผิวหนังบริเวณโหนกแก้ม
4. กระเนื้อ จะเป็นตุ่มนูน ๆ สีน้ำตาล หรือสีดำ มีทั้งผิวขรุขระและผิวเรียบ มักจะขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ และตามลำตัว
ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมาย แถมยังมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับคนเป็นกระแล้ว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เลือกใช้ควรมีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ พร้อมปรับผิวให้เรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น เช่น ครีมที่มีส่วนประกอบของ AHA (Alpha Hydroxy Acid), อาร์บูติน (Arbutin), กรดโคจิก (Kojic) โดยสารเหล่านี้จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ผลัดเซลล์ผิวเก่า และทำให้ฝ้าจางลงได้ ซึ่งต้องทาครีมอย่างสม่ำเสมอ
การรักษากระด้วยเลเซอร์ คือ การยิงคลื่นแสงลงไปชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ใหม่และซ่อมแซมตัวเอง แต่วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง บางรายอาจจะต้องทำหลายครั้งกว่าจะหาย แต่ก็นับว่าเป็นวิธีที่นิยมมากเลยทีเดียว เพราะเห็นผลเร็วนั่นเอง
ปัจจุบันมีครีมรักษากระวางขายอยู่ตามร้านขายยามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วครีมรักษากระที่ดีที่สุดนั้นควรจะมีปริมาณของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ผสมอยู่ไม่เกิน 2% ซึ่งถ้าจะใช้จำเป็นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ เพราะตัวยาจะมีคุณสมบัติเข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน หากไม่ระวังอาจมีผลข้างเคียงตามมาได้ และนอกจากนี้ครีมที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ ปัจจุบันก็เป็นที่นิยมใช้เช่นเดียวกัน เพราะจะช่วยปรับสภาพของสีผิวให้ขาวขึ้นและกระจางลงได้ หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
สมุนไพรบางชนิดและ AHA จากผลไม้ สามารถรักษากระ และช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้เม็ดสีเมลานินถูกผลัดออกไปด้วย ดังนั้นควรหมั่นทำทรีตเมนต์หรือพอกหน้าด้วยสมุนไพรและผลไม้ที่มีกรด AHA เป็นประจำ แต่วิธีนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลานานสักหน่อยถึงจะเห็นผล ถึงอย่างนั้นก็นับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยแน่นอน ซึ่งจะมีสมุนไพรหรือผลไม้ชนิดใด และมีวิธีทำอย่างไรกันบ้าง ตามมาดูกันเลย
- สูตรหัวไช้เท้า
หัวไช้เท้า เป็นสมุนไพรรักษากระที่กำลังเป็นที่นิยมและได้ผลดี โดยสูตรนี้ให้นำหัวไช้เท้าสด ๆ มาปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วผสมน้ำมะนาวลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นให้นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก โดยสูตรนี้ให้ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง กระจะค่อย ๆ จางลงและหายไปในที่สุด
- สูตรว่านหางจระเข้
นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกเอาแต่วุ้นใส ๆ จากนั้นบดให้ละเอียด นำไปแช่ตู้เย็นไว้ แล้วให้นำมาทาผิวบริเวณที่เป็นกระทุกวันก่อนนอน เมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะพบว่ากระจะค่อย ๆ จางลง นอกจากนี้ผิวยังจะดูใสและเนียนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้นด้วย
- สูตรหอมแดง
นำหอมแดงมาฝานให้เป็นแว่น ๆ จากนั้นนำมาแปะทิ้งไว้บริเวณผิวที่เป็นกระ พักไว้ประมาณ 15-20 นาที ค่อยเอาออก แล้วล้างหน้าให้สะอาด หากทำเป็นประจำกระก็จะค่อย ๆ จางลงได้
- สูตรมะเขือเทศ
นำมะเขือเทศมาปั่นให้ละเอียด จากนั้นผสมน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ล้างออกให้สะอาด สูตรนี้นอกจากจะช่วยให้รอยกระลดลงได้แล้ว ยังจะทำให้หน้าใสขึ้นอีกด้วย
- สูตรน้ำมะนาว
นำมะนาวสด ๆ มาบีบเอาแต่น้ำ ให้ได้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นผสมเบบี้ออยล์ลงไปในอัตราส่วนที่เท่ากัน เมื่อคนให้เข้ากันจึงนำมาทาผิวบริเวณที่เป็นกระ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เสร็จแล้วล้างออก สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวัน รอยกระจะค่อย ๆ ลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด
- สูตรมะละกอสุก
นำมะละกอสุกมาบดให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย จากนั้นให้นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออก ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง นอกจากหน้าจะขาวกระจ่างใส ยังต้องทึ่งกับรอยกระที่จางลงด้วย
สำหรับคุณสาว ๆ
ที่กำลังมีปัญหาเรื่องกระก็ไม่ต้องเครียดกันไป เพราะสามารถรักษาให้จางลงได้
แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย เพียงแค่ทำตามวิธีที่เราแนะนำ
รับรองผิวของคุณจะกลับมาขาวเนียนและไร้กระมากวนใจได้อย่างแน่นอน
แต่ทั้งนี้เมื่อกระจางหายแล้ว อย่าลืมว่าสามารถกลับมาเป็นได้อีก
ยังไงก็อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ อย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุง
หรือลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นประจำ ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน
รวมถึงหลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดแรง ๆ
เพียงเท่านี้กระก็จะไม่กลับมากวนใจแล้วล่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : victoriandermalgroup.com.au, healthshots.com, pharmeasy.in, happytouchs.com
ปัญหากระ สามารถแบ่งได้เป็น 4 ชนิด ได้แก่
1. กระแดด เป็นกระที่มักพบได้บ่อย ๆ ลักษณะเป็นจุด ๆ สีน้ำตาล ผิวเรียบ เกิดขึ้นได้จากการที่ผิวโดนแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ
2. กระตื้น จะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ กระจายไปทั่วผิว บริเวณที่เป็นกระหากโดนแดดจะมีสีเข้มขึ้น หรือถ้าไม่โดนแดดสีก็จะจางลงได้
3. กระลึก จะเป็นจุดสีน้ำตาลอมเทา คล้าย ๆ ฝ้า มักจะเกิดขึ้นในชั้นใต้ผิวหนังบริเวณโหนกแก้ม
4. กระเนื้อ จะเป็นตุ่มนูน ๆ สีน้ำตาล หรือสีดำ มีทั้งผิวขรุขระและผิวเรียบ มักจะขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ และตามลำตัว
สำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่กำลังหนักใจกับปัญหาเรื่องกระ
เมื่อได้ทำความรู้จักกับสาเหตุ ปัจจัยที่ทำให้เกิด
และชนิดของกระมากขึ้นแล้ว
คราวนี้ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิธีรักษากระแบบไหนที่สามารถรักษาให้จางลงหรือหายไปได้บ้าง
วิธีรักษากระบนใบหน้า
1. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สามารถลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ
ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมาย แถมยังมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับคนเป็นกระแล้ว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เลือกใช้ควรมีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ พร้อมปรับผิวให้เรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น เช่น ครีมที่มีส่วนประกอบของ AHA (Alpha Hydroxy Acid), อาร์บูติน (Arbutin), กรดโคจิก (Kojic) โดยสารเหล่านี้จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ผลัดเซลล์ผิวเก่า และทำให้ฝ้าจางลงได้ ซึ่งต้องทาครีมอย่างสม่ำเสมอ
2. ทำเลเซอร์รักษากระ
การรักษากระด้วยเลเซอร์ คือ การยิงคลื่นแสงลงไปชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ใหม่และซ่อมแซมตัวเอง แต่วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง บางรายอาจจะต้องทำหลายครั้งกว่าจะหาย แต่ก็นับว่าเป็นวิธีที่นิยมมากเลยทีเดียว เพราะเห็นผลเร็วนั่นเอง
3. ใช้ครีมรักษากระ
ปัจจุบันมีครีมรักษากระวางขายอยู่ตามร้านขายยามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วครีมรักษากระที่ดีที่สุดนั้นควรจะมีปริมาณของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ผสมอยู่ไม่เกิน 2% ซึ่งถ้าจะใช้จำเป็นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ เพราะตัวยาจะมีคุณสมบัติเข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน หากไม่ระวังอาจมีผลข้างเคียงตามมาได้ และนอกจากนี้ครีมที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ ปัจจุบันก็เป็นที่นิยมใช้เช่นเดียวกัน เพราะจะช่วยปรับสภาพของสีผิวให้ขาวขึ้นและกระจางลงได้ หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
4. หมั่นผลัดเซลล์ผิวด้วยสมุนไพร และ AHA จากผลไม้
สมุนไพรบางชนิดและ AHA จากผลไม้ สามารถรักษากระ และช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้เม็ดสีเมลานินถูกผลัดออกไปด้วย ดังนั้นควรหมั่นทำทรีตเมนต์หรือพอกหน้าด้วยสมุนไพรและผลไม้ที่มีกรด AHA เป็นประจำ แต่วิธีนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลานานสักหน่อยถึงจะเห็นผล ถึงอย่างนั้นก็นับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยแน่นอน ซึ่งจะมีสมุนไพรหรือผลไม้ชนิดใด และมีวิธีทำอย่างไรกันบ้าง ตามมาดูกันเลย
- สูตรหัวไช้เท้า
หัวไช้เท้า เป็นสมุนไพรรักษากระที่กำลังเป็นที่นิยมและได้ผลดี โดยสูตรนี้ให้นำหัวไช้เท้าสด ๆ มาปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วผสมน้ำมะนาวลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นให้นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก โดยสูตรนี้ให้ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง กระจะค่อย ๆ จางลงและหายไปในที่สุด
นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกเอาแต่วุ้นใส ๆ จากนั้นบดให้ละเอียด นำไปแช่ตู้เย็นไว้ แล้วให้นำมาทาผิวบริเวณที่เป็นกระทุกวันก่อนนอน เมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะพบว่ากระจะค่อย ๆ จางลง นอกจากนี้ผิวยังจะดูใสและเนียนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้นด้วย
นำหอมแดงมาฝานให้เป็นแว่น ๆ จากนั้นนำมาแปะทิ้งไว้บริเวณผิวที่เป็นกระ พักไว้ประมาณ 15-20 นาที ค่อยเอาออก แล้วล้างหน้าให้สะอาด หากทำเป็นประจำกระก็จะค่อย ๆ จางลงได้
นำมะเขือเทศมาปั่นให้ละเอียด จากนั้นผสมน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ล้างออกให้สะอาด สูตรนี้นอกจากจะช่วยให้รอยกระลดลงได้แล้ว ยังจะทำให้หน้าใสขึ้นอีกด้วย
นำมะนาวสด ๆ มาบีบเอาแต่น้ำ ให้ได้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นผสมเบบี้ออยล์ลงไปในอัตราส่วนที่เท่ากัน เมื่อคนให้เข้ากันจึงนำมาทาผิวบริเวณที่เป็นกระ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เสร็จแล้วล้างออก สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวัน รอยกระจะค่อย ๆ ลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด
นำมะละกอสุกมาบดให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย จากนั้นให้นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออก ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง นอกจากหน้าจะขาวกระจ่างใส ยังต้องทึ่งกับรอยกระที่จางลงด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : victoriandermalgroup.com.au, healthshots.com, pharmeasy.in, happytouchs.com