ตุ๊กตุ่น รจเลข เปิดใจหลังผ่านมรสุมชีวิตคู่ "ตั้ม เดอะสตาร์ 10" ขอสู้เต็มที่เพื่อลูกทั้งสองคน เผยหลังเกิดเรื่องมีคนมาเล่าข้อมูลอีกสารพัดให้ฟัง รู้สึกเสียดายที่ผู้เป็นพ่อไม่มีโอกาสได้เห็นลูกเติบโต คาดต้นเหตุรักร้าวเป็นเพราะลืมเติมความหวานให้กันจึงมีช่องว่างให้มือที่สามแทรกเข้ามา แต่จากนี้ตนก็ต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูก ทำหน้าที่เสาหลักให้ดีที่สุด
ข่าวคราวการแยกทางของเส้นทางความรักระหว่าง "ตุ๊กตุ่น" รจเลข สุรกานต์โกศล และ "ตั้ม เดอะสตาร์ 10" หรือ "ตั้ม" สุธน บู่สามสาย เป็นประเด็นที่ผู้คนในสังคม โดยเฉพาะคอข่าวสารแวดวงบันเทิง ให้ความสนใจจนเป็นข่าวใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง หลังจากฝ่ายชาย ออกมาแถลงเปิดใจ ยอมรับว่าตนเองเคยมีหญิงอื่น และเป็นฝ่ายที่ความรักจืดจางลง ทำให้ตั้มโดนกระหน่ำจากทุกสารทิศ มิหนำซ้ำยังเลือกแถลงข่าวในวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันเกิดของตุ๊กตุ่นพอดี ทำให้กระแสแง่ลบในตัวของฝ่ายชายนั้นยิ่งโหมกระหน่ำมากขึ้น พร้อมกับความเห็นใจฝ่ายหญิงที่ต้องกลายเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับน้องเฌอตาร์ และน้องมาตฤณ เพียงคนเดียวแบบไม่ได้ตั้งใจ
หลังจากเกิดเรื่องชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
ตุ๊กตุ่น : จริง ๆ แล้วยังคงใช้ชีวิตอยู่เช่นเดิม ยังคงดูแลลูก เตรียมของ และทำอาหารให้ลูก หลังจากนั้นก็เตรียมตัวออกมาทำงาน หากเป็นวันธรรมดาที่ไม่ทำงานก็อาจจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับลูก ซึ่งไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน ในส่วนที่เพิ่มเติมคืออาจมีการไปทำบุญมากขึ้น รวมถึงอาจมีการยึดหลักพุทธศาสนาบางด้านบางมุมเพื่อให้จิตใจมีความสงบให้เรามีสติในการเผชิญกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้
หลังจากแยกทางกับตั้มแล้ว การดูแลลูก แตกต่างจากเดิมหรือไม่
ตุ๊กตุ่น : จริง ๆ แล้วแทบไม่ค่อยจะมีอะไรแตกต่างเพราะโดยส่วนใหญ่หากเขาอยู่ก็จะเล่นกับลูก เพราะฉะนั้นในส่วนของความสนุกสนานหรือการเล่นกับลูกก็อาจลดน้อยลงไปบ้าง แต่หากเป็นในมุมที่เป็นอยู่ก็คือการเลี้ยงดู อบรม และดูแลลูก ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิม จากนี้จึงอาจจะต้องเล่นกับลูกมากขึ้นเพื่อให้เขารู้สึกว่าไม่ขาด โชคดีที่ช่วงนี้มีพี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนแวะเวียนกันเข้ามาเยี่ยมเยียนมาช่วยเล่นกับลูก ๆ เหมือนมาช่วยเติมให้เขารู้สึกสนุกสนานมากขึ้น ให้เขารู้สึกไม่ขาดอะไรไป ตอนนี้ยอมรับว่าการเลี้ยงลูกและทำงานไปด้วยเป็นอะไรที่ค่อนข้างหนักอยู่ ส่วนคุณแม่ที่ช่วยดูแลลูกก็อายุค่อนข้างมากแล้ว และมีพี่เลี้ยงช่วยดูแลอีก 1 คน
ทุกวันนี้นอกจากอาชีพหลักที่เป็นพิธีกร ยังมีงานอื่นนอกเหนือจากนี้อีกหรือไม่
ตุ๊กตุ่น : ทุกวันนี้ยังมีแค่งานประจำที่ทำเป็นหลักคืองานพิธีกร และผู้ประกาศ ซึ่งเป็นอาชีพที่ทำมานานกว่า 10 ปี ประกอบกับไม่ค่อยมีเวลาที่จะทำงานอย่างอื่นเพิ่มเติม และก่อนหน้านี้ตัวเราเองก็ตั้งครรภ์
ทุกวันนี้ก็เหมือนกับเพิ่งเริ่มกลับมาทำงานตามปกติเหมือนเดิม แต่มีมองในเรื่องของการทำธุรกิจหรือการทำงานอื่น ๆ ที่แตกต่างออกไป เช่น หากมีเวลามากกว่านี้อาจจะเขียนหนังสือ หรือศึกษาหาความรู้ในเรื่องอื่น ๆ ที่สนใจมากขึ้นเพื่อต่อยอดไปในอนาคต
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างสองคนจนถึงวันนี้แล้วเริ่มต้นจากอะไร
ตุ๊กตุ่น : คิดว่าส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญคือ การที่เราทั้งสองคนกอดลูก แต่ลืมกอดกัน ซึ่งเป็นคำที่มักพูดเสมอ พี่ยังคงให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว การที่เรามีลูกอาจทำให้เรามัวแต่สนใจแต่เรื่องลูกก็อาจมีการทะเลาะขัดแย้งกันบ้างในส่วนของความคิดเห็นในการเลี้ยงลูก ทำให้บางครั้งอาจจะขาดการเติมความหวานให้กันอาจมีส่วนที่ทำให้เกิดช่องว่างที่ทำให้มีใครเข้ามาได้ รวมถึงความคิดส่วนตัวของเขาที่อาจจะยังไม่พร้อมมากนักที่จะมีครอบครัว
ทุกวันนี้ยังคงติดต่อกันอยู่หรือไม่
ตุ๊กตุ่น : ถ้าเป็นช่วงตอนที่เกิดเรื่องใหม่ ๆ ก็อาจมีติดต่อเข้ามาบ้าง แต่ถ้าเป็นตอนนี้ก็ไม่มีติดต่อกันอีกเลยตั้งแต่วันที่เขาพาลูกไปและถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก และบอกว่าจะเป็นการมาพบลูกเป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากนี้ก็คงมีการคุยกันเรื่องการดูแลลูกหรือการที่เขาจะมาพบลูกกันต่อไป คิดว่าหากเขาพร้อมเขาก็คงเข้ามาคุยกันอีกครั้งว่าเอาอย่างไร แต่ในส่วนตัวไม่เคยปิดกั้นเขาที่จะพบเจอลูก และเชื่อว่าการกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด อะไรที่คิดว่าเป็นการเสียสละเพื่อลูกได้ก็ควรทำ อย่าสัญญาแล้วผิดสัญญาเพราะรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ในที่สุดแล้วเมื่อมาถึงตอนนี้แล้วพี่รู้สึกว่าช่างมันเถอะในทุก ๆ อย่าง ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หากวันหนึ่งเขาคิดแล้วค่อยมาคุยกันว่าอะไรคืออะไร
แสดงว่าตอนนี้ก็ยังไม่ปิดกั้นโอกาสที่จะคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
ตุ๊กตุ่น : คิดว่าจากนี้ยังไงก็คงไม่กลับไปเป็นครอบครัวที่แสนสุขเหมือนเดิม มีพ่อแม่ลูก อยู่ด้วยกันในบ้าน ในตอนนี้คงยังไม่สามารถตอบตรงนี้ได้ เพราะตัวพี่คงไม่สามารถอยู่กับคนที่ไม่รักได้ เพราะพ่อที่ไม่รักแม่ แต่ต้องทนอยู่เพื่อลูก จะเป็นครอบครัวที่มีความสุขได้อย่างไร ตั้มต้องไปตกผลึกทางความคิดมาให้ได้ก่อนว่าชีวิตของตั้มต้องการอะไร ส่วนตัวพี่นั้นคิดว่ามีความเข้มแข็งมากพอที่จะสามารถเลี้ยงลูกโดยลำพังโดยไม่มีปัญหา หรือจะมีตั้มในชีวิตอีกได้หรือไม่ ก็ยังไม่สามารถตอบได้ มันเป็นเรื่องของอนาคต เพราะสุดท้ายแล้วก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ถึงอย่างไรตอนนี้ก็คงต้องเป็นเสาหลักในครอบครัวเป็นทั้งพ่อและแม่ของลูกได้
ตั้มเคยโทร. มาขอคืนดีบ้างหรือไม่
ตุ๊กตุ่น : วันแรก ๆ ก็มีโทร. มาด้วยความเสียใจ หลังจากที่ได้ฟังบทสัมภาษณ์ที่บอกว่าเสียใจที่น้องมาตฤณ ไม่มีโอกาสได้นอนกับพ่อเลย ซึ่งพี่ก็เข้าใจความรักที่พ่อมีต่อลูก รู้ว่าส่วนลึกของหัวใจตั้มยังคงรักลูก แต่ว่ามันอยู่ที่ตั้มว่า บางสิ่งบางอย่างที่เป็นความสุขส่วนตัวกับความสุขบางอย่างที่เป็นของลูก ตั้มจะสามารถเสียสละได้มากน้อยแค่ไหน
ทุกวันนี้โอเคขึ้นแล้วหรือยัง
ตุ๊กตุ่น : ทุกวันนี้ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นจริง ๆ แล้วในช่วงแรกก็มีรู้สึกแย่ แต่ตลอดช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีหลาย ๆ ช่องทางติดต่อมาหา เหมือนเป็นช่วงความจริงปรากฏ ได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมของอดีตสามีในอีกหลาย ๆ ด้าน ที่เราไม่เคยทราบมาก่อน ทำให้รู้จักเขาในอีกมุมมองหนึ่ง และหลังจากที่เราทราบเรื่องเขาในทุก ๆ มุมซึ่งบางเรื่องเราอาจได้ยินมาแล้วแต่ก็หลอกตัวเองด้วยการไม่เชื่อ มันก็ทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้นไปอีก โดยที่เรารู้สึกว่าไม่เป็นไร
พ่อของลูกอย่างไรก็เป็นพ่อของลูก เราก็ต้องให้เกียรติเขาในฐานะพ่อของลูก ถ้าพ่อจะรักลูกก็รัก แต่ถ้าพ่อจะไม่รักแม่ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็ต้องแยกประเด็นออกไปให้ได้ และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจะทำอย่างไรให้ลูกมีความสุขสูงที่สุด
แสดงว่าตอนนี้โฟกัสไปที่ลูกมากที่สุด
ตุ๊กตุ่น : ความรู้สึกของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ เพราะลูกคนโตอยู่ในวัยกำลังเริ่มพูด ส่วนมาตฤณ ลูกคนเล็ก บางทีก็แอบคิดว่าบางทีก็น่าเสียดายที่คนเป็นพ่อไม่มีโอกาสได้เห็นพัฒนาการของลูกในด้านอื่น ๆ ทั้งการกิน ได้เห็นเขาคลาน เห็นเขาเดิน บางทีก็คิดเหมือนกันว่าเขาพลาดสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไป
สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงคนที่ให้กำลังใจบ้าง
ตุ๊กตุ่น : ขอบคุณทุกกำลังใจในอินสตาแกรม (tuk_toon) ที่มีคนมาให้กำลังใจและกดติดตามเป็นจำนวนมาก รวมถึงในเฟซบุ๊ก และในสื่อต่าง ๆ ที่ให้กำลังใจ รวมทั้งในกระปุกด้วย และก็อยากให้กำลังใจกลับไปเช่นกันเพราะจากที่อ่านคอมเมนต์ พบว่าทุกวันนี้ผู้หญิงเจอเรื่องแบบนี้เยอะมาก และต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแบบที่ไม่ได้ตั้งใจและตั้งตัวมาก่อน
ที่สำคัญที่สุดคือสติ ที่จะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราดำเนินชีวิตผ่านไปได้ และขอบคุณสำหรับคนที่เคยรักตั้มแต่ทุกวันนี้อาจจะรู้สึกไม่ดีไปแล้ว เลยมาติดตามน้องเฌอตาร์ น้องมาตฤณแทน ซึ่งก็จะพยายามอัพเดทความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ แต่หากใครที่ยังพอจะมีที่ยืนให้เขาได้บ้างก็ต้องขอบคุณ เพราะรู้สึกว่าเขาก็คงรู้สึกแย่มากพอสมควร ให้เขาได้มีที่ยืนในสังคม
สุดท้ายในส่วนของตนเองก็ยังคงสู้และทำเพื่อลูกต่อไป
อัพเดทข่าว ตั้ม เดอะสตาร์ 10 ทั้งหมด
ภาพจาก Instagram tuk_toon, tumslip