ทำเอาหลายคนงงกันยกใหญ่ หลังก่อนหน้านี้ ไทด์ เอกพันธ์ ได้ออกมาเปิดใจว่า จะหย่ากับภรรยา ยุ้ย คนึงนิจ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 เนื่องจากชีวิตคู่มีปัญหา ไม่มีเพศสัมพันธ์กันมาเกือบ 3 ปี และแยกกันอยู่แล้ว ในขณะที่ฝ่ายหญิงได้ร่อนจดหมายหาสื่อมวลชน บอกว่าไม่เคยคิดจะหย่ากัน วันปีใหม่ยังอยู่ด้วยกันอยู่เลย บ้านก็ไม่ได้แยกกันอยู่ แต่ไป ๆ มา ๆ แบบนี้ตั้งแต่แต่งงานแล้ว (อ่านเพิ่มเติม)
ล่าสุด (14 กุมภาพันธ์ 2560) ไทด์ เผยถึงจดหมายดังกล่าวว่า แล้วแต่เขา ถ้าเขาไม่หย่าก็ไม่เป็นไร ที่ผ่านมาคุยกันด้วยดี เขาก็บอกลูก บอกกับเรากลับมาว่าจะหย่าให้ไม่งั้นเราจะพูดได้ไง จริง ๆ ตกลงว่าจะหย่า 13 กุมภาพันธ์ แต่เขตมันปิดเลยต้องยกเลิก เดี๋ยวหาวันที่ว่างไปหย่า เรื่องจดหมายเขาจะทำยังไงเรื่องของเขา แต่สิ่งที่เราพูดไปมันเป็นเรื่องจริงที่สุด เขาพูดจะไม่หย่าอะไรต่าง ๆ นั่นเป็นเรื่องของเขา เราไม่สนใจ คือเราอยากจะหย่าเขาไม่หย่าก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวนาน ๆ ไปเราก็คงทำเรื่องฟ้องหย่า แต่เดี๋ยวต้องดูก่อน เพราะยังไม่เห็นข้อความของเขา แต่ถ้าไม่มีอะไร ก็น่าจะหย่ากันได้
ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าเคาท์ดาวน์ด้วยกัน คือเขาขอไป เราก็ให้เขาไป ทุกครั้งที่ไปไหนก็ไปเพื่อลูกเขาก็รู้อยู่ เรื่องวันครบรอบแต่งงาน 12 ปีที่เขาบอก จริง ๆ ครบรอบ 10 ปี เพราะครบ 12 ปีไม่ได้จัด จัดปี 2557 หลังจากนั้นมาก็เริ่มมีเรื่องมีราวกันมา ชีวิตของเราสองคนมันต่างขั้วกัน แต่ด้วยความที่เรามีลูกด้วยกัน เรายอมนะ ยอมทุกอย่าง เขาจะเป็นตัวของเขาก็เป็นไป เราก็ทำงานดูแลครอบครัว ทีนี้เรื่องราวต่าง ๆ มันเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นจากภายนอก เรื่องของคนรอบข้างอะไรต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย ชีวิตเราไม่มีเรื่องชู้สาว มีเรื่องเฉพาะแค่คนรอบข้าง มันต่างกันมาตั้งนานแล้ว ทีนี้เราเห็นว่ามีลูกด้วยกัน เราพยายามปรับตัวเข้ามาหากัน พยายามปรับแล้วปรับอีก สามวันดีสี่วันไข้มาตลอด
คือเราเป็นคนยังไงก็ได้ ง่าย ๆ ไม่ค่อยอะไรกับใคร เราพยายามปรับแล้ว แต่บางครั้งเขาใช้คำรุนแรง บางทีเรารับไม่ได้ ทางเราเป็นคนขอหย่า ตั้งแต่ฉลองครบรอบ 10 ปีมา มีระหองระแหงอย่างที่ออกข่าวไป คืออยู่กันไป รั้งกันไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะลูกโตแล้วรับรู้บางสิ่งบางอย่างที่พ่อแม่ทำ ทำเพื่ออะไร ถ้าทำเพื่อลูกก็โอเค ลูกก็รับได้ในส่วนหนึ่ง ถ้าตลอดไปเลยมันไม่มีความรัก มันหมดใจ อยู่กันแบบซังกะตาย วันเสาร์อาทิตย์มาเจอกัน จันทร์ถึงศุกร์ก็แยกกันอยู่แค่นั้นเอง อยู่แบบนี้มา 3 ปีแล้ว จะไปไหนไปต่างประเทศเหมือนมีความสุขดี โอเคเพื่อลูก แต่จริง ๆ แล้วเราสองคนมีปัญหากันอยู่
เรื่องมือที่สามไม่เกี่ยวเลย เราไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรทั้งสิ้น เขารู้ตัวดีว่าเป็นยังไง ไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น ก่อนหน้านี้ที่สัมภาษณ์ว่าแยกกันอยู่เลยมีคนมาคุย อันนี้ต้องยอมรับว่าคุยจริง แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเราขอเขาหย่า ปกติที่ผ่านมาเขาขอเราหย่านับครั้งไม่ถ้วน เขาท้าเราหย่าตลอด แต่เราใจเย็นเพราะลูกเรายังเล็ก แต่อยู่มาวันหนึ่งมันรู้สึกว่ามันสมควรแก่เวลาแล้ว 3 ปีที่เราไม่มีอะไรกัน เราแยกกันอยู่ วันหนึ่งเราลุกขึ้นมาหย่า แต่กลับมีปัญหา เพราะเขาไปได้ยินมาว่าเราไปมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตเลยยื้อ ไม่ยอมหย่าให้ ที่บอกว่ามีคนคุยมีหลายคนไม่ใช่คนเดียวมันไม่มีอะไร ส่วนสถานะเรากับเขา หย่าไม่หย่า ก็เหมือนหย่า อยู่ด้วยกันก็ไม่เหมือนอยู่ เพราะเราแยกกันอยู่
ทั้งนี้ ไทด์ ยังได้ย้ำด้วยว่า ถึงยังไงก็ไม่กลับไปอยู่แล้ว เพราะเคยที่จะหย่าร้างไม่คุยกันเกือบปี จนได้พี่ต๋อย ไตรภพ มาไกล่เกลี่ยให้เมื่อสองปีที่แล้ว ก็กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม ไกล่เกลี่ยได้ไม่ถึงปีมันก็เหมือนเดิม ภายนอกดูเหมือนรักกัน ครอบครัวสดชื่น มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้าถามว่าจะคุยมั้ยเรื่องหย่า เดี๋ยวให้เราว่างไปหย่าเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก