
อยู่ ๆ อดีตแฟนสาวของ เทพพิทักษ์ แอสละ เด็กปั้นของ พชร์ อานนท์ ก็ออกมาแฉผ่านโซเชียลว่า เทพพิทักษ์ แอสละ ขโมยเงินในตู้บริจาควัด จนล่าสุด (2 มีนาคม 2560) งานนี้เจ้าตัวขอชี้แจงผ่านรายการ ปากโป้ง ทาง ช่อง 8 เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์ โดยมี หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นพิธีกร ว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่อดีตแฟนสาวกล่าวหา วอนสื่ออย่าเอาไปเกี่ยว ส่วนเรื่องกับพชร์นั้น ตนดีใจที่พี่พชร์ให้โอกาสอีกครั้ง ตนสัญญาจะเป็นคนใหม่ เลิกเหล้า เลิกเกเรแน่นอน
เทพพิทักษ์ : ผมกับแฟนคนนี้เราขาดกันตั้ง 5-6 เดือนแล้ว ผมก็อยากถามเขาว่า มาลงแบบนี้เพื่ออะไร เพราะมันทำให้ผมเสียชื่อ และเสียงาน ถ้ามีหลักฐานจริง ก็ไปแจ้งตำรวจแล้วเอาใบหลักฐานมายืนยันแบบนั้นดีกว่า
เขายังแฉอีกว่าตั้งแต่เราไม่ได้ทำงาน เขาเป็นคนหาเงินให้เราใช้ ?
เทพพิทักษ์ : สมัยก่อนตอนที่ผมทำงานมีเงิน ผมไม่ให้เขาทำงานเลย ให้เงินเขาวันละพัน แต่พอช่วงที่ผมช็อต เขาเริ่มไปทำงานร้านอาหาร แต่ผมไม่เคยเอาเงินเขาสักบาท มีแต่ผมที่ให้ สุดท้ายผมต้องขายรถ สิ่งที่ผมให้เขา เขารู้อยู่แก่ใจ แต่สิ่งที่เขาพูดให้น้องเขาคิดว่ามันเป็นความจริงไหม อย่ามาพูดแบบนี้
เราให้อะไรเขาบ้าง ?
เทพพิทักษ์ : ผมให้เงินเขาใช้วันละ 1,000 บาท งานไม่ต้องทำ ให้แม่เขาเดือนละหมื่น ส่งค่าห้องให้ด้วย โทรศัพท์เขาอยากได้ และขว้างทิ้งเป็นว่าเล่น เดือนละเป็นแสน อันนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ได้พูดเพื่อให้น้องเขาโกรธ น้องไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ข่าวมันก็มาเกี่ยวโยงกับผม อยากถามว่าทำเพื่ออะไร แต่ไม่ได้ติดต่อถามเขา คือที่เลิกกันมาผมก็เสียใจ รักและเป็นห่วงเหมือนกัน ผมคอยดูข่าว แต่ถ้าทำแบบนี้ก็คนละทางกันดีกว่า
เห็นว่าหมดตัวไปเป็นล้าน ?
เทพพิทักษ์ : ไม่ได้มาหมดตัวไปเพราะน้องเขา หรือหมดเพราะน้องหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมก็หมดไปกับเขาเยอะ ผมไม่เคยได้อะไรเลย สาบานต่อหน้าไฟเลยก็ได้ ผมขอแยกดีกว่าเราไปด้วยกันไม่ได้ เวลาที่เขาไลฟ์ มีแฟนคลับถามว่าพี่เทพไปไหน ทำไมต้องแสดงว่าเทพพิทักษ์อยู่กับเขา ผมจะบอกเลยว่าผู้หญิงคนนี้รักเฉพาะเงิน เราตัดขาดกันตั้งนานแล้ว ที่เลิกกันครั้งนี้มันเป็นเรื่องการใช้ชีวิตอยู่เราไปด้วยกันไม่ได้ ผมอยู่ด้วยมีแต่เสียงาน ทำให้ชื่อเสียงผมเสียหมด ผมขอแยกดีกว่าครับ
เทพพิทักษ์ : ถ้าน้องเขาอยากดัง ให้น้องดังเรื่องงานดีกว่า อย่างดังในสังคมเฟซบุ๊กให้เขาด่า น้องไลฟ์สดก็รู้ว่าไม่มีใครชอบ ผมเองยังโดนด่าเลย การโพสต์อะไรลงไป อย่างเรื่องตู้บริจาคมันไม่สมควร มันทำให้ผมเสีย มีคนเข้ามาถามผมเรื่องนี้ตลอด ตอบไปก็เหมือนผมแก้ตัว น้องพูดได้ไงว่าผมขโมยของวัด ถ้าน้องอยากดังบอกว่าพี่ขโมยระฆังวัดดีกว่า
มันกระทบกับเราขนาดไหน ?
เทพพิทักษ์ : ผมคิดอยู่ในใจว่าพอผมกลับมาทำงานในวงการจะต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เขามาโพสต์ตอนนี้ตอนที่ผมกำลังจะมีงาน เขาทำเพื่ออะไร อยากเด่นอยากดัง อยากเก่ง ต้องใช้ความสามารถตัวเองสิ ทำอย่างนี้ไม่ดี ทำให้คนเขาด่า คุยกันดี ๆ ใช้เหตุผลดีกว่า
พี่พชร์ อานนท์ ให้โอกาสอีกครั้ง รู้สึกยังไง ?
เทพพิทักษ์ : ไม่คิดไม่ฝัน เพื่อนดาราส่งไลน์มาบอกเทพกลับมาเล่นหนังด้วยกันใหม่ ขอบคุณพี่พชร์ อานนท์ สัญญาว่ารอบนี้จะทำให้ดีที่สุด
พี่พชร์โพสไม่ค่อยไว้ใจเรื่องพฤติกรรมของเรา
เทพพิทักษ์ : ได้เข้าไปอ่าน ก็มีแฟนคลับเข้าไปถามพี่พชร์ว่า เอาพี่เทพกลับมาทำไม ให้โอกาสทำไม ไม่กลัวงูกัดเหรอ อย่าไปว่าพี่พชร์เลย พี่เขาให้อภัย และให้โอกาสผม คนอย่างผมไม่ทำแบบนั้นด้วย ยิ่งให้โอกาส จะยิ่งปรับปรุงตัวให้ดีที่สุด
ที่ผ่านมาชีวิตแย่ขนาดไหน ?
เทพพิทักษ์ : เอาเรื่องครับ ไปนอนตามวัดเลย คิดในใจว่าไม่ได้กลับมาแล้ว ที่ผ่านมาขอโทษด้วยที่ทำตัวแย่ในรอบที่แล้ว มารอบนี้ผมจะไม่ทำตัวอย่างเดิม คอยดูแล้วกันว่าจะไม่ทำตัวเหมือนเก่าแล้ว
ตอนนี้ยึดอาชีพขับรถตู้ ?
เทพพิทักษ์ : มีแฟนคลับเข้ามาถามว่าทำไมพี่เทพต้องไปนอนวัด คุณต้องมาดูหน้างานของผมก่อน ว่าผมสามารถเช่าห้องได้หรือเปล่า 3 ชั่วโมง ออกไปขับรถ เสร็จแล้วก็กลับมานอนอยู่วัด ผมเช่ารถตู้วันหนึ่ง 1,300 บาท คนโดยสารก็ไม่ได้ขึ้นเยอะนะ บางวันยังติดลบ เราต้องประหยัดต้นทุนเราไหว เพราะเราก็หมดตัว มีญาติพี่น้องเหมือนกัน จะไปพักกับเขาก็เกรงใจครับ นอนวัดดีกว่า
ได้ยินว่ายังมีติดเหล้าอยู่ ?
เทพพิทักษ์ : ตั้งแต่มีเรื่อง และมาขับรถตู้ ไม่ได้กินเลยครับ ผมไม่ได้บอกว่าเลิก ขอเป็นเทศกาล หลังปิดกล้องนิด ๆ หน่อย ๆ สังสรรค์ ผมรับปากเลยว่าวันธรรมดาไม่ดื่ม เพราะว่ารอบที่แล้วผมเสียเละเทะ รายได้ตอนนี้ก็ได้มาวันประมาณ 400-500 บาท บางวันติดลบก็มี พออยู่ได้ พอมีข้าวกิน ตอนนี้รายได้หลักมาจากการขับรถตู้ ส่วนงานในวงการพี่พชร์ค่อย ๆ ทยอยให้ แต่ก็ต้องดูความประพฤติของผมเป็นอย่างไร เขาก็คงยังกลัวอยู่ แต่ยังดีที่พี่เขาให้โอกาส
จากภาพลักษณ์จากครั้งก่อน กลัวไหมว่าคนจะไม่จ้างงานเราเหมือนครั้งก่อน ?
เทพพิทักษ์ : ทุกวันนี้ก็ยังไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมา ตอนนั้นผมก็ยอมรับว่าผมผิด กลับมารอบนี้ผมต้องปรับตัว แล้วแต่ว่างานจะมีหรือไม่มีงานกลับมา






