จากกรณีที่ แพท ณปภา ดาราสาวชื่อดัง ภรรยาของ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ "เบนซ์ เรซซิ่ง" ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและสมคบการฟอกเงินเครือข่ายไซซะนะ ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สินและรายได้ต่าง ๆ นั้น [อ่านข่าว : แพท ณปภา มาพร้อมแม่เบนซ์ เรซซิ่ง เข้าแจง ปส. ปมที่มาทรัพย์สินหลายล้าน]
ล่าสุด (20 มีนาคม 2560) พล.ต.ต. ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยถึงการสอบปากคำ แพท ณปภา ว่า ธุรกรรมการเงิน จำนวน 2 ล้านบาท ที่ตำรวจเชื่อว่ามาจากเครือข่ายยาเสพติด แต่ดาราสาวอ้างว่าเป็นเงินของตัวเองที่ได้จากการประกอบอาชีพ ที่โอนให้ เบนซ์ เรซซิ่ง และได้มีการโอนกลับ จำนวน 5 แสนบาท จึงต้องเรียกมาสอบเพิ่ม แต่จะเป็นวันใดยังไม่ทราบ
เบื้องต้นจะให้เวลา แพท ณปภา เตรียมเอกสาร อาทิ หลักฐานการจ้างงาน หลักฐานบัญชีเงินย้อนหลัง รวมถึงเตรียมเรียกบริษัทที่ว่าจ้างมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการชำระภาษี แต่ยังไม่ทราบชื่อบริษัท และตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2560 จะเรียกลูกน้องนายณัฐพล นาคคำ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดเครือข่ายไซซะนะ จำนวน 3-4 คน ที่เคยเป็นพยานมาให้การอีกครั้ง
พล.ต.ต. ชาตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารยืนยันถึงที่มาของการโอนเงินในบัญชีของ แพท ณปภา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงหาข้อมูลหลักฐานตามที่อ้างถึง ส่วนเรื่องทนายความนั้น หากดาราสาวยังยืนยันจะใช้ทนายความคนเดียวกับสามี ตามรูปคดี อาจจะทำให้ดาราสาวเสียเปรียบได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของเจ้าตัวเอง และหลังจากนี้จะมีการเรียกตัว แพท ณปภา เข้าให้ปากคำอีกครั้ง เพราะเอกสารที่นำมายืนยันไม่เพียงพอ หากดาราสาวยังไม่นำเอกสารมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งเรื่องไปยังกรมสรรพากรเพื่อยืนยันเอกสารทางการเงินของดาราสาวต่อไป และหากมีการรวบรวมเอกสารหลักฐานครบแล้วจะมีการเรียก เบนซ์ เรซซิ่ง เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
ภาพจาก ThaiCh8
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN