โบว์ แวนด้า เผยทั้งน้ำตาเล่านาทีที่คุณหมอต้องตัดขาซ้ายเพื่อยื้อชีวิตพระเอกผู้ล่วงลับอย่างปอ ทฤษฎี ก่อนที่สามีจะจากไปแบบไม่มีวันกลับ
แม้ว่าจะผ่านมาเป็นเวลากว่า 1 ปี สำหรับพระเอกขวัญใจมหาชนอย่าง ปอ ทฤษฎี แต่เรื่องราวทุกอย่างนั้น ก็ยังคงกระจ่างอยู่ในใจของภรรยา โบว์ แวนด้า เสมอ ล่าสุด (26 มีนาคม 2560) โบว์ แวนด้า ได้มาเยือนรายการคลับ ฟรายเดย์ โชว์ based on celeb story และได้เล่าถึงนาทีที่คุณหมอต้องตัดขาซ้ายเพื่อยื้อชีวิตของพระเอกหนุ่มทั้งน้ำตาว่า
ทั้งนี้ คุณหมอเขาก็ตรวจหาเชื้อว่ามันสามารถอยู่ตรงไหนได้บ้าง แล้ววินิจฉัยออกมาว่าน่าจะอยู่ที่เท้าซ้าย ก็เลยต้องตัดเพื่อที่จะคุมเชื้อไม่ให้มันกระจายเข้ามาในตัว ตอนก่อนตัดคุณหมอได้เรียกเข้าไปคุยแล้วว่าอาจจะต้องตัด เราก็ใจสลายตั้งแต่วันนั้นแล้ว ตอนนั้นเรากุมมือพ่อพี่ปอไว้แล้วบอกว่าไม่เป็นไรพ่อ ยังไม่ตัด เขาแค่บอกว่า "อาจจะ" แต่ผ่านมาแค่ 2 วันเท่านั้น ตอนเช้ารู้สึกว่าผ่าตัดปอด ซึ่งวันนั้นโบว์ไม่ไหวแล้วก็เลยไปทำบุญ แม่พี่ปอก็โทรมาบอกว่าพี่ปอจะตัดปอดนะ เราก็รีบกลับเข้ามา หมอบอกว่าอาจจะ 50/50 หรือ 70/30 นะ โบว์ก็ถามว่า 70 คืออะไร หมอบอกว่าเสียชีวิต ทุกครั้งที่ผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง พอตอนเย็นหมอก็บอกว่า ต้องตัดขาอีก 70/30 เหมือนเดิมนะครับ หรืออาจจะ 90/10 เราก็ไม่เป็นไรค่ะหมอ ก็นั่งรอจนออกมา
โบว์ไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าปอเลย
โบว์ แวนด้า : ถ้าอยู่ในห้องไม่เคย ถ้าจะร้องไห้ก็ลงไปนั่งที่พื้นแล้วก็เช็ดหน้า แล้วค่อยลุกขึ้นมาใหม่ ก็จะพยายามเล่นหัวเราะกับเขา
ตอนที่ต้องตัดขา คุณปอรู้ไหม
โบว์ แวนด้า : มันจะมีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่พี่ปอเขาดีขึ้น แล้วคุณหมอที่อยู่กับโบว์ประจำ เขาจะดูแลสภาพจิตใจโบว์ด้วย เขาบอกว่าวันนี้พี่ปอดีขึ้นแล้วนะ เราจะต้องรายงานทั้งหมดให้คนไข้ทราบ ว่าตัดขาเพราะอะไร เพราะถ้าวันหนึ่งพี่ปอมาเห็นเอง สภาพจิตใจคงไม่ได้ หมอเขาจะเล่าตั้งแต่วันแรก จนทำให้รู้สึกว่าการตัดขามันเป็นเรื่องน้อยนิดมากเลยสำหรับการยื้อชีวิตปอไว้ เราก็โอเคยืนรออยู่หน้าห้อง หมอเขาก็คุย พี่ปอก็ครับ
สักพักหมอก็หันมาหาโบว์บอกเข้ามาหน่อย เราก็ถามว่าไม่รู้เรื่องเหรอค่ะ หมอบอกว่าไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะเขาก็บอกว่าครับ ๆ โบว์ก็เลยหันไปมองเขาถามว่าปอคุยอะไรกับหมอ ไหนเล่าให้โบว์ฟังหน่อย เขาก็หันมาหาโบว์แล้วบอกว่า "ตัดขาข้างซ้าย" แล้วเราก็ก้มไปกอดเขาแล้วน้ำตาก็ไหล โบว์พยายามเช็ดแล้วถามเขาว่าปอกลัวไหม ปอตอบว่า "ไม่ครับ" ถามปอว่า เสียใจไหม ปอบอก "ไม่ครับ" แล้วเขาก็มองหน้าโบว์บอกอยากกลับบ้าน
ปอเคยแสดงอาการอ่อนแอให้เราเห็นไหม
โบว์ แวนด้า : พี่ปอเป็นคนที่ไม่เคยร้องไห้ให้คุณพ่อคุณแม่เห็น แล้วก็ไม่เคยแสดงอาการว่าเขาเจ็บเขาปวด มีวันหนึ่งเขาปวดมากแต่พ่อแม่อยู่ อยู่ ๆ พี่ปอก็หันไปหาแม่ บอกว่า "ออกไป" พอแม่กับพ่อออกไป เขาหันมาหาโบว์น้ำตาร่วงเต็มเลย เขาบอกเขาเจ็บ ก็เลยให้หมอมาช่วยทำให้เขาหายเจ็บ จน 3 วันก่อนที่เขาจะจากไป โบว์ขึ้นมาเจอแม่ คือแม่ออกมาจากห้องพี่ปอพอดี แม่ก็บอกวันนี้พี่ปอร้องไห้ จนโบว์เองทรุดเลย คือคิดในใจเลยว่าเขาไม่ไหวแล้ว เขาไปแน่ ๆ เลย
วันที่คุณหมอให้เราทำใจอีกครั้ง
โบว์ แวนด้า : วันนั้นเป็นวันที่คุยกับหมอตอนเช้าวันอาทิตย์ หมอบอกวันนี้พี่ปอหน้าใสมากเลยนะ มันเป็นสัญญาณที่ดี แต่วันนี้หมอไปคุมสอบ โบว์อยู่คนเดียวนะ ซึ่งวันนั้นเราก็คิดว่าหมอจะไม่เข้ามานั่งรออยู่หน้าห้อง ประมาณ 3 ทุ่ม หมอก็เข้ามา สักพักโทรศัพท์เข้ามาหมอก็วิ่งเข้าไปเลย โบว์ก็นั่งรออยู่ประมาณ 5 นาที ไม่ไหวแล้ว ก็เลยกด ๆ ให้เขาเปิด พอเปิดเสร็จภาพที่เห็นคือพยาบาลวิ่งกันแบบให้วุ่น คือตอนนั้นขาก้าวไม่ออกแล้วค่ะ สักพักหันไปคือเขาปั้มหัวใจพี่ปอ โบว์ก็ตัวสั่น ก้าวไม่ออก อยู่อย่างนั้นประมาณเกือบ 10 นาที สักพักคุณแม่เดินเข้ามา เราก็กอดแม่รอจนกว่าเขาจะปั้มได้ หมอก็เลยวิ่งออก โบว์ก็บอกว่า "หมอถ้าไม่ไหวก็ไม่เป็นไร พี่ปอเขาสู้เพื่อเรามามากแล้ว ให้พี่ปอนอนนะ" หมอก็มองหน้าโบว์จะเอาอย่างนั้นนะ โบว์ก็เลยบอกว่า "ให้เขาหลับไปเลย ไม่ต้องให้เขาตื่นมาฟังใครแล้ว" คืนนั้นก็เลยใส่ยานอนหลับให้พี่ปอหลับไป จนวันรุ่งขึ้นก็คือทุกคนครบแล้ว ก็เลยให้สั่งเสียกันให้เรียบร้อย
หลังจากที่ปั้มหัวใจกว่า 10 นาที คือสำเร็จ
โบว์ แวนด้า : เสียค่ะ แต่ว่ายังไม่เอาเครื่องช่วยหายใจออก คือโบว์รู้แล้วว่าเขาอยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจ คือโบว์จะอยู่โรงพยาบาลตลอด 70 วัน ก็จะมีห้องให้พักอยู่ข้างล่าง คือห้องพี่ปอจะไม่มีที่ให้ก้าวไปหาเขาเลย ก็จะเป็นเครื่องนู้นเครื่องนี้เต็มเลย หน้าจอก็จะบอกชีพจร ความดัน โบว์จะจ้องหน้าจอตลอด พอ ณ วันที่มาอยู่รวมกันแล้วหมอบอกว่า เดี๋ยวเราจะทำการปิดเครื่องแล้วนะครับ โบว์ก็ไม่ร้องไห้ พยายามไม่ร้องให้เขาเห็น พอคุณหมอเขาปิดเครื่องฟอกไตทุกอย่างมันก็จะจบ แล้วก็ชาร์ตที่เราเห็นอยู่ทุกวันมันเริ่มหล่น 100..90..70...50 แล้วโบว์ทำใจไม่ได้ก็เลยวิ่งออกมา ร้องไห้แล้วก็จะเป็นลม คุณพ่อ คุณแม่ก็สั่งเสียเรียบร้อย เราก็เลยเดินเข้าไปคนเดียว เห็นพี่ปอนอนนิ่ง ๆ อยู่ในห้องโล่ง ๆ ผ้าม่านสีขาว ๆ เราก็มองแล้วบอกตัวเองว่ามันคือเรื่องจริงใช่ไหม ที่ผู้ชายที่เคยดูแลเราแล้ว วันนี้แบบนอนนิ่ง แต่ก็ยังมีเครื่องช่วยหายใจเครื่องสุดท้ายอยู่ แล้วโบว์ก็หอมเขา แล้วหมอก็เดินเข้ามาบอกว่า "หมอจะปิดสวิตช์แล้วนะ" โบว์ก็พูดคำสุดท้ายกับเขาว่า "โบว์รักปอนะ" แล้วหมอก็ปิดเลย