ปิ่น เก็จมณี
ปิ่น เก็จมณี
ปิ่น เก็จมณี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com และ รายการ ทูไนท์โชว์
ปิ่น เก็จ มณี ป่วยจนเดินไม่ได้ โดยสาเหตุมาจากตกม้า
ปิ่น เก็จมณี วรรธนสิน ภรรยาคนสวยของนักร้องแร๊พรุ่นใหญ่ เจ เจตริน วรรธนสิน เกิดล้มป่วยด้วยอาการกระดูกตายที่สะโพกข้างซ้าย จนทำให้ถึงกับเดินไม่ได้! โดยเธอเปิดใจว่า สาเหตุทั้งหมดนั่นมาจากการตกม้าของเธอนั่นเอง ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดของเธอถูกเปิดเผยในรายการ ทูไนท์โชว์ คืนวันที่ 20 กันยายน ทางช่อง 3 โดย ปิ่น เก็จมณี วรรธนสิน คุณแม่ลูก 3 ภรรยาของ เจ เจตริน วรรธนสิน เปิดใจในรายการว่า เธอเป็นคนชอบขี่ม้า และรักม้ามาก มากจนถึงขนาดที่เตรียมตัวเปิดคอกม้าของตัวเอง ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเลี้ยงม้า และเพื่อให้มีที่ขี่ม้าเป็นของตัวเอง โดยขณะที่การดำเนินการต่าง ๆ เกือบจะเสร็จสิ้น เธอกลับประสบอุบัติเหตุครั้งสำคัญ ที่ทำให้แผนการเปิดคอกม้าของเธอต้องหยุดชะงัก
ปิ่น เก็จมณี เล่าว่า เธอประสบอุบัติเหตุจากการตกม้า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขี่ม้าแล้ว นี่นับเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องเคยเจอ และเธอเองก็เคยตกม้าในสมัยวัยรุ่น ก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็เพียงแค่ช้ำ ๆ เธอจึงเอ็กซเรย์ดู ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
เวลาผ่านไป 2 เดือน ปิ่น เก็จมณี มีอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อข้างซ้าย และเข้าใจว่ามันเป็นเพียงการเคล็ดขัดยอก แม้จะเจ็บถึงขนาดต้องใช้เครื่องช่วยเดิน แต่เธอก็ยังคงมองโลกในแง่ดี และไม่ได้สงสัยอะไรแต่แล้วปิ่น เก็จมณี ก็ตัดสินใจสแกนร่างกายด้วยเครื่องเอ็กเรย์คอมพิวเตอร์ (MRI) เพราะเธอไม่สามารถเดินเองได้อีกแล้ว และมักจะปวดกระดูกในตอนกลางคืน ปวดถึงขนาดที่ไม่สามารถนอนหลับได้ และต้องตื่นอย่างทรมานในทุกชั่วโมงของการนอน ในที่สุดเมื่อเข้ารับการตรวจด้วยเครื่อง MRI เธอก็พบว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับสะโพกข้างซ้ายของเธอที่ไม่ใช่เพียงการร้าวของกระดูก
หลังจากที่ ปิ่น เก็จมณีรู้ตัวว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอ ปิ่นต้องนอนโรงพยาบาลอยู่นานนับเดือน ท่ามกลางอาการไข้ที่กำเริบทุกวัน จากการอักเสบในร่างกาย ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจขอออกจากโรงพยาบาล และกลับไปพักผ่อนที่บ้าน เพื่อซึมซับเอาบรรยากาศดี ๆ รวมถึงกำลังใจจากสามี และลูก ๆ
แพทย์บอกกับ ปิ่น เก็จมณี ว่า กระดูกที่สะโพกข้างซ้ายของเธอตาย โดยอาการอยู่ในระดับที่ 2 จาก 3 ระดับ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องผ่าตัด แต่ผลสำเร็จจะมีเพียงแค่ 50% ซึ่งนั่นหมายความว่าเธออาจจะต้องเดินไม่ได้ตลอดไป . .
ปิ่น เก็จมณี
ปิ่น เก็จมณี
ปิ่น เก็จมณี รู้ตัวดีว่าอาการของเธอค่อนข้างหนัก แต่เธอก็ไม่เคยท้อ เพราะมีสามีคอยให้กำลังใจว่า เธอสามารถผ่าคลอดลูกมาได้ตั้ง 3 คนแล้ว การผ่าตัดเพื่อเยียวยารักษา สำหรับคนเข้มแข็งอย่างเธอ มันจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี เธอจึงอารมณ์ดีอยู่เสมอแม้จะรู้ว่าโอกาสหายมีเพียง 50% เท่านั้น
โดยเมื่อเข้ารับการผ่าตัด แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเล่าให้ ปิ่น เก็จมณี ฟังว่า หนองที่คั่งอยู่ในสะโพกของเธอ กระเด็นออกมาโดนหน้าของแพทย์ทั้ง 2 คนที่ทำการผ่าตัดทันทีที่เปิดแผลออก และขั้นตอนในการผ่าตัดครั้งนี้ แพทย์จะต้องนำกระดูกเชิงกรานของปิ่นมาเชื่อมแทนกระดูกที่สะโพกซ้ายซึ่งได้ตายไปแล้วบางส่วน ดังนั้นเธอจะต้องมีอาการเจ็บปวดเป็น 2 เท่า จากการผ่าที่เชิงกรานเพื่อนำกระดูกดีออกมา และผ่าที่สะโพกซ้ายเพื่อนำกระดูกดีใส่เข้าไปแทนกระดูกที่ตายแล้ว
เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้น ปิ่น เก็จมณี ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวด เธอเล่าว่า เธอจุกเสียจนไม่สามารถพูดออกมาได้ สายตาของปิ่นกวาดไปเห็นสามีและญาติ ๆ ที่มาคอยยืนให้กำลังใจอยู่นอกห้อง แต่ทำได้เพียงมองผ่านกระจกแล้วสลบไปอีกครั้ง
แม้ว่าจะเจ็บปวดขนาดไหน ปิ่น เก็จมณี ก็รู้ดีว่า มอร์ฟีน ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดของเธอ เธอจึงอดทนให้ได้นานที่สุด ก่อนจะใช้มอร์ฟีนเพื่อระงับความเจ็บปวดให้กับร่างกาย โดยเธออดทนได้จนถึง 2 ชั่วโมง ต่อมอร์ฟีน 1 ครั้ง และใช้มันเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดยา
เวลาผ่านไประยะหนึ่ง ปิ่น เก็จมณี เริ่มมองเห็นว่า ขาข้างซ้ายของเธอลีบลงจนเหลือขนาดเล็กเท่าแขนเท่านั้น แต่คุณหมอก็ให้กำลังใจเธอว่ามันจะต้องดีขึ้นได้แน่ เธอจึงอดทนและสู้ต่อไป ในขณะที่ความรู้สึกข้างในจิตใจ กลับเจ็บปวดยิ่งกว่าร่างกาย เมื่อเธอไม่สามารถเลี้ยงและดูแลลูกชายทั้ง 3 คน คือ น้องเจ้านาย วัย 9 ขวบ น้องเจ้าขุน วัย 7 ขวบ และน้องเจ้าสมุทร วัย 5 ขวบ ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ปิ่น เก็จมณี ตัดสินใจพูดคุยกับสามีและลูก ๆ เพื่อขอกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านของแม่เธอ โดยมีแม่และพี่เลี้ยงในสมัยเด็กคอยดูแล เพราะเธอไม่สามารถทนอยู่กับลูกในขณะที่เธอขยับตัวเพื่อดูแลพวกเขาไม่ได้ หลังจากนั้นอาการของเธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
เครื่องช่วยคำนวนการเดิน
ปัจจุบัน แม้ว่าอาการของ ปิ่น เก็จมณี จะเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว แต่เธอก็ยังต้องใส่เครื่องช่วยคำนวนการเดินไว้ที่ตัวตลอดเวลา เพื่อคอยเตือนให้เธอรู้ว่า เธอได้ก้าวเดินไปกี่ก้าวแล้ว และจำนวนจำกัดของเธออยู่ที่ 2,000 ก้าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือนตุลาคม ปิ่น เก็จมณี อาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดขาข้างขวาอีกครั้งเพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพ แต่เธอก็แอบหวังลึก ๆ ในใจว่า การตรวจ MRI ครั้งต่อไป อาจจะมีปาฏิหาริย์ให้เธอไม่ต้องผ่าตัดอีก
สุดท้าย ปิ่น เก็จมณี ทิ้งท้ายไว้ว่า สิ่งที่ทำให้เธออยู่ได้ก็คือกำลังใจจากสามี ครอบครัว และลูก ๆ ที่ทำเธอรู้ว่าเธอจะต้องสู้ต่อไป และจะไม่ท้อถอยไปกับความเจ็บปวดในครั้งนี้ ทั้งยังย้ำว่าหากเธอจะต้องพิการไปตลอดชีวิต ชีวิตของเธอก็จะยังคงมีความสุขกับตัวเอง เพราะเธอมีกำลังใจและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอนั่นเอง กระปุกดอทคอมก็ขอเป็นกำลังใจให้เธอด้วยนะคะ
ปิ่น เก็จมณี เปิดใจอาการป่วย ใน ทูไนท์โชว์ 1/3
ปิ่น เก็จมณี เปิดใจอาการป่วย ใน ทูไนท์โชว์ 2/3
ปิ่น เก็จมณี เปิดใจอาการป่วย ใน ทูไนท์โชว์ 3/3