ซาร่า AF3
ซาร่า น้ำตาคลอ ชีวิตต่างแดนแสนสาหัส แต่ต้องสู้! (ทีวีอินไซด์)
จากสัปดาห์ที่แล้วที่เราได้รู้จักเกิร์ลกรุ๊ปเลือดผสม 3 สัญชาติ ไทย จีน และเกาหลีในนามวง ไอมี่ (IME) ซึ่งมี ซาร่า AF 3 นลินธรา โฮลเลอร์ หรือ ที่แฟนเพลงชาวจีนรู้จักเธอในนาม น่าหลิน เป็นตัวแทนศิลปินไทย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทั้ง 4 สาวให้สัมภาษณ์ไว้ ทำให้ดิฉันได้รู้สึกถึงความยากลำบากของเด็กสาวที่ต้องเผชิญร่วมกัน อย่างแรกคือการปรับตัวเข้าหากันของทั้ง 4 สาว เพราะมาจากต่างชาติ ต่างภาษา และยังมีอีกมากมายที่ตามมา ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ซาร่าเธอจะมาเล่าให้เราฟัง
ซึ่งพอเราเจอซาร่า อย่างแรกที่เห็นจากตัวเธอคือ "หยดน้ำตา" และเสียงที่สั่นเครือ
ทำไมถึงเศร้าขนาดนี้ล่ะ ?ซาร่า : หนูไปเป็นตัวแทนประเทศไทยเพียงคนเดียว ภาษาก็ไม่ได้เรียน ตอนแรก ๆ ร้องไห้ทุกวัน เพราะพูดกับใครก็ไม่รู้เรื่อง ภาษาจีนก็ไม่ได้เรียน ใช้วิธีการจดแล้วก็จำเอา ตอนนี้ก็พอจะสื่อสารพูดคุยสั่งอาหารได้บ้างแล้ว อย่างเวลาเรียนเต้นแรก ๆ ก็อาศัยจำท่าเต้น ซาร่าไปอยู่ 6 เดือนแล้วไม่ได้กลับมาเลยเหงามากค่ะ ตอนแรกไปทำเพลง ถ่ายเอ็มวีที่เกาหลีก่อน ต่อจากนั้นมาอยู่ที่จีน ที่ปักกิ่ง เวลาไปโปรโมทที่จีน ต้องเดินทางเครื่องบินไปเมืองโน้นเมืองนี้ วันละ 2 เที่ยวเดินทางเยอะ อาหารเลี่ยนมาก วันแรกที่ไปกินอะไรไม่ได้ หนูเอาน้ำพริกตาแดง บะหมี่สำเร็จรูป น้ำพริกเผา กินบะหมี่ทุกวันเลย ที่โน่นเราต้องกินข้าวเอง ดูแลตัวเอง ไม่มีใครมาใส่ใจเรา เหมือนพี่ ๆ ที่เมืองไทยดูแลเราดีมาก ๆ
ไอมี่ IME
แล้วเข้าไปอยู่ในวงไอมี่ได้ยังไง ?ซาร่า : ทางบริษัทที่ทำไอมี่เค้าเดินทางมาคัดตัวเลย แล้วเค้าก็เลือกซาร่า ซึ่งตอนแรกก็ตัดสินใจยากเหมือนกันไหนจะเรื่องเรียน เรื่องงานที่มีพิธีกรรายการอยู่ด้วย แต่สุดท้าย ซาร่าก็ตัดสินใจว่ามันเป็นโอกาสที่ดีและโอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ก็เลยตัดสินใจเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมงานกับเค้า
การทำงานของทีมงานที่โน่นเป็นยังไง ?ซาร่า : ที่นั่นเป็นระเบียบมาก ของเราทำงานดูแลกันเป็นครอบครัว ของจีน จะเป็นการทำงานเป็นธุรกิจเลย บางครั้งมันเลยยาก เหมือนเราถูกขีดเส้น ห้ามทำตัวแฮปปี้ ทรงผมแต่งหน้า ต้องตามคอนเซ็ปท์ตลอดห้ามหลุดเลย ซึ่งข้อดีก็คือทำให้เราฝึกฝนตัวเองให้โตขึ้น อดทนขึ้น สู้มากขึ้น ช่วงแรก ๆท้อมาก พูดกับใครก็ไม่ได้ โทรกลับบ้านตลอด เวลาซ้อมร้องเพลง และเต้น วันหนึ่งซ้อมท่าเดียว 10 – 20 รอบ เราอยากจะซ้อมท่าอื่นบ้าง ก็ซ้อมไม่ได้
กับเพื่อน ๆ ในวงเป็นยังไงบ้าง ?ซาร่า : แรก ๆ ก็ปรับตัวเยอะมาก เราอายุมากสุด (23) ตอนเป็นเอเอฟ เด็กสุด (หัวเราะ)
กิจวัตรประจำวัน ?ซาร่า : ไปเทรนที่เกาหลี 3 เดือนเข้าฟิตเนส 3 เดือน ให้ผอม ฝึกร้องเพลง 4 – 5 ชั่วโมง กว่าจะกลับบ้านตี 1 เกือบทุกคืน
เรียนหนังสือยังไง ?ซาร่า : เรียนธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการละคร ไม่ได้ดร็อปคือหนูเรียนปีสุดท้ายแล้ว ก็เข้าไผคุยกับอาจารย์ขอความอนุเคราะห์ พอดีโชคดีอาจารย์เข้าใจก็ให้โอกาส แต่เราก็ต้องเหนื่อย เพราะเรียนแบบ e learning แต่เวลาสอบ Midterm หรือ Final เราก็ต้องกลับมาสอบ เวลาจะโทรมาถามเพื่อนก็จะยากมาก ค่าโทรศัพท์แพงมาก ค่าครองชีพแพง ค่าข้าวกล่องบ้านเรา 30 บาท บ้านเค้า 150 บาท 30 หยวน คูณ 5
สิ่งที่เราได้กับตัวเอง ?ซาร่า : ความอดทน อดกลั้น มีสติกับตัวเอง ปรับตัวให้อยู่ในแบบแผนของเค้าให้ได้ ซาร่ารู้สึกตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โตมากขึ้น แต่ไม่ถูกกลืนกับวัฒนธรรมของเค้า ทุกครั้งที่หนูแนะนำตัวหนูก็จะสวัสดีค่ะ ทุกครั้งที่ไปงานที่ไหนหนก็จะพรีเซ้นท์ประเทศไทยตลอด
แฟนคลับที่เมืองจีนเป็นไงบ้าง ?ซาร่า : มีค่ะ แฟนคลับเค้าก็สวัสดีเป็นภาษาไทยด้วย ก็ดีใจ เค้าบอกเค้าเป็นแฟนคลับฟอร์เอฟเวอร์เลย เราติดต่อแฟนคลับทางเวบไซด์ "ไบ่ดุง" เวบไซด์ยอดฮิตของจีน
เรื่องคิวงานมีทุกวันหรือเปล่า ?ซาร่า : งานมันแทรกเข้ามาอยู่เรื่อย ไม่ค่อยรู้คิวล่วงหน้าก่อน อย่างทางเอเอฟ เราจะรู้คิวล่วงหน้าตลอด เราชินกับการวางแผน แต่ทางโน้นไม่มีใครรู้คิวเลย ผู้จัดการทางโน้นไม่พูดภาษาอังกฤษ จีนอย่างเดียวเลย แม้แต่จะได้กลับเมืองไทยยังไม่รู้อะไรเลย
ท้อได้แต่อย่าถอย สู้เขานะ ซาร่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก true music
