นาย ณภัทร ไม่เสียเซลฟ์ ใหม่ ดาวิกา ให้ได้แค่สถานะพี่น้อง แจงแค่ชื่นชมในฐานะแฟนคลับ ยันไม่ดับฝันและไม่ใช่รักข้างเดียว เผยงานในวงการสำคัญ แต่ไม่คิดทิ้งการเรียน
ทำเอาเหล่าแฟนคลับจิ้นกันเป็นแถว ๆ เมื่อพระเอกหนุ่มหล่อ นาย ณภัทร ออกมายอมรับว่าปลื้มนางเอกสาว ใหม่ ดาวิกา จนหลายคนเชียร์ให้เป็นแฟนกัน แต่ฝ่ายหญิงกลับบอกว่าให้ได้แค่สถานะพี่น้องเท่านั้น ล่าสุด (25 พฤษภาคม 2560) หนุ่มนาย ก็ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า เรียกว่าดับฝันเลยไหมก็คงไม่ใช่ ผมชื่นชมพี่เขาจริง ๆ เราเป็นแฟนผลงาน เชื่อว่าใคร ๆ ก็รักพี่เขานะ เพราะเขาเป็นคนที่ร่วมงานด้วยก็แฮปปี้ เป็นพี่สาวที่ดีคอยแนะนำเวลาทำงาน ถามว่าอกหักไหมก็ไม่นะครับ
เรียกว่ารักข้างเดียวได้ไหม ?
นาย ณภัทร : ไม่ครับ คือมันเป็นอารมณ์เวลาเราเจอใครน่ารักก็ชื่นชมเขาเฉย ๆ คิดว่าเขาเป็นพี่สาวคนหนึ่งที่น่ารักมากกว่า ส่วนตัวก็ไม่นอยด์อะไรที่เขาเห็นเราเป็นน้อง เพราะผมก็เป็นน้องจริง ๆ ไม่ได้เสียเซลฟ์อะไรเลย เขายังเป็นพี่สาวที่คอยแนะนำเวลาทำงาน
เหมือนยังเขิน ๆ เวลาร่วมงานกัน ?
นาย ณภัทร : ความจริงผมเขินพี่เขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้วครับ แต่หลังจากนี้คงไม่แล้ว อย่างที่บอกว่าเขาเป็นคนน่ารัก เชื่อว่าหลาย ๆ คนหากได้ทำงานกับเขาก็คงจะเขินเหมือนกัน
คุณแม่มีเชียร์ไหม ?
นาย ณภัทร : แม่ผมชอบพี่เขานะครับ แต่ก็ไม่ได้เชียร์ มีบอกใก้ดูแลพี่เขาเวลาทำงานด้วยกัน ซึ่งปกติเวลาผมทำงานก็จะให้เกียรติทุกคนอยู่แล้วเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด
หลังจากนี้จะมีงานร่วมกันอีกไหม ?
นาย ณภัทร : ถ้าผู้ใหญ่มอบโอกาสและเวลาเหมาะสมก็ยินดีครับ ตอนนี้ก็ทีโฆษณา แต่ถ่ายแบบยังไม่ทราบ
แฟนคลับจิ้นเยอะเลย ?
นาย ณภัทร : ถ้าแฟนคลับเชียร์แล้วมันเป็นงานที่เราตั้งใจทำแล้วทุกคนแฮปปี้ชื่นชอบเยอะ ผมก็ยินดีแฮปปี้กับทุกคนที่คอยสนับสนุนครับ
แล้วอยากเป็นแฟนเขาไหม ?
นาย ณภัทร : ขอเป็นคนที่ชื่นชมผลงานเขาแบบนี้ดีกว่า ถามว่าสเปกไหมคิดว่าหลายคนก็มีพี่เขาเป็นสเปกนะครับ
ตอนนี้เรียนใกล้จบแล้ว ?
นาย ณภัทร : ใกล้ความเป็นจริงแล้วครับ ตอนนี้เหลือเพียงการจัดแสดงโชว์โปรเจคท์ในวันที่ 28-39 กรกฎาคม 2560 ถามว่าโล่งอกแล้วหรือยังอันนี้คงยังไม่โล่งเพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการเพื่อให้งานออกมาดี ถ้าจะโล่งจริง ๆ คงเป็นวันที่ 28 นู่นเลย ตอนนี้เตรียมงานไปได้ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ตอนนี้เราก็สบายใจเพราะเราทำผลงานที่รอคอยมาตลอด 4 ปีจบแล้ว
คุณแม่ปลื้มไหมที่จะจบแล้ว ?
นาย ณภัทร : เอาจริง ๆ ช่วงนี้ยังไม่ค่อยได้เจอกันเพราะผมทำงานข้ามวันข้ามคืนเลย แต่คุณแม่ก็มีเป็นห่วงให้กำลังใจและมาบอกให้นอนเยอะ ๆ เราก็ตอบว่านานแล้วแต่จริง ๆ คือปั่นงานอยู่
จบแล้วจะเรียนต่อปริญญาโทเลยไหม ?
นาย ณภัทร : มีแพลนไว้ว่าอยากเรียนครับ ส่วนตัวผมเชื่อว่าทุกคนอยากทำในสิ่งที่ตัวเองรักและชื่นชอบอยู่แล้ว เลยอยากเรียนต่อ
คนมองว่ากำลังรุ่งมีโอกาสจะพับแพลนเรียนต่อเพื่อมาทำงานในวงการก่อนไหม ?
นาย ณภัทร : โอกาสเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ ตอนนี้คงดูแล้วแต่โอกาสมากกว่า แต่ผมมีคุณแม่เป็นตัวอย่างว่าตลอด 30 ปีที่เขาทำงานในวงการคือมันเป็นอาชีพที่มี 2 ด้านเสมอ มันมีวันที่ทุกคนรู้จักแล้ววันหนึ่งก็จะมีคนใหม่มาแทน ซึ่งผมก็ทำใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต แต่สิ่งที่จะสามารถทำมาหากินได้ตลอด สามารถเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวได้ก็คือสิ่งที่ผมเรียนมา ตอนนี้เลยคิดว่าน่าจะเป็นการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยมากกว่า เพราะอย่างที่บอกว่าโอกาสสำคัญมาก และผมเองก็โชคดีที่มีคนให้โอกาสผมเลยไม่อยากทิ้งไป หลังจากนี้คงทำงานหนักหน่อยแต่ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบและก็รักมันจริง ๆ ตอนนี้ยังไม้แน่ใจว่าจบแล้วจะเรียนต่อเลยไหม แต่ว่าผมไม่ทิ้งมันแน่นอนเพราะเจอสิ่งที่ชอบแล้ว และมีเพื่อนร่วมงานที่ดีมากด้วย
ถ้าทำงานไปด้วยแสดงว่าพับโครงการไปเรียนต่อเมืองนอกตามที่เคยตั้งใจไว้เลยไหม ?
นาย ณภัทร : ส่วนตัวผมมองว่าสถาบันในไทยก็เจ๋งไม่แพ้เมืองนอกเลย ทั้งหลักสูตรและอาจารย์หลายท่านที่เก่งมาก ๆ แต่เราก็อาจจะไปเมืองนอกแบบเป็นคอร์สสั้น ๆ 1-2 เดือน เพื่อไปเรียนรู้งานออกแบบในแต่ละประเทศว่าเขาเป็นยังไงบ้างเพื่อมาพัฒนาของประเทศไทยเรา ทุกคนมีความฝัน ในของผมคือการได้ไปเรียน ไปหาประสบการณ์ ไปทำงานท้าทายที่นั่น ตอนนี้มีดู ๆ ไว้หลายที่ หลัก ๆ เลยคือ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น