ในตอนนี้ แม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้เห็น ทราย เจริญปุระ ทางหน้าจอทีวีมากสักเท่าไร แต่ชื่อเสียงและผลงานของเธอนั้นก็ยังคงมีมาให้เห็นเป็นระยะ ๆ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ กว่าจะมีเบื้องหน้าที่สวยงาม ทรายเองก็เคยประสบกับมรสุมชีวิต และเคยผ่านประสบการณ์การเป็นโรคซึมเศร้า จนเธอสามารถนำเรื่องนี้มาเล่าได้ในรายการ ยิ่งศักดิ์ ยิ่งแซ่บ
ช่วงที่คุณแม่ป่วยหนัก ๆ ก็ถึงขั้นที่มีการลงไม้ลงมือ ทุบตีกัน เพราะตนบอกคุณแม่ว่าห้ามขับรถ ทั้งที่คุณแม่ป่วย แต่คุณแม่กลับเข้าใจว่า ที่ตนไม่ให้ขับรถ เพราะกลัวคุณแม่จะขับไปชนใคร แล้วทรายจะเสียชื่อเสียง ซึ่งทรายเองต้องมาอธิบายว่าทำไมคุณแม่ขับรถไม่ได้ จนถึงขั้นที่คุณแม่ลงไม้ลงมือกับตน ตนรู้สึกว่า เวลาใครด่าตนก็ไม่รู้สึกแย่เท่ากับที่แม่ด่า
มีครั้งหนึ่งที่ตนไปถ่ายละครที่สุพรรณบุรี และคุณแม่ก็โทรศัพท์มาบอกให้ตนกลับ แต่ตนกลับไม่ได้เพราะติดถ่ายละคร จึงรับโทรศัพท์ได้บ้างไม่ได้บ้าง สุดท้ายแม่ยื่นคำขาดว่า ถ้าทรายไม่กลับแม่จะฆ่าตัวตาย ทำให้ทรายเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตอนนั้นตนยอมรับว่า ตนเครียด ตนป่วยด้วยโรคซึมเศร้า เลยถึงขั้นคิดอยากจะพาแม่นั่งรถไปด้วยกัน แล้วขับรถลงข้างทางไปเลย จนกระทั่งตนมาเรียนรู้ทีหลังว่า ต้องมีขัดใจเขาบ้าง ตนไม่รับโทรศัพท์ของแม่บ้าง เพื่อให้เขาเรียกน้องชายแทน
โรคซึมเศร้านั้น ไม่สามารถวัดจากข้างนอกได้ ภายนอกตนอาจจะดูร่าเริงปกติ แต่มันไม่เท่านั้น ซึ่งสาเหตุมาจากความเครียด อย่างแรกเลยคือเรื่องแม่ที่ป่วย เพราะตนไม่สามารถดีดนิ้วและบอกให้แม่หายได้ บางครั้งเข้าฉากอยู่ในฉากที่ต้องโกรธ ๆ แม่โทร.มาก็ต้องมาปรับเสียงให้ราบเรียบร่าเริงเหมือนไม่มีอะไร และอีกอย่างคือ มันเป็นผลกระทบมาจากการที่ตนประสบอุบัติเหตุหนัก และกลัวว่าตัวเองจะเป็นอัมพาตด้วย
ส่วนวิธีการที่ทรายผ่านช่วงเวลานั้นมาได้นั้น ทราย บอกว่า ปกติตนเป็นคนชอบทำงานมาก ตนจึงพยายามทำตัวให้แข็งแรงเพื่อให้ตัวเองทำงานได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม พร้อมกับให้คำแนะนำว่า สำหรับคนที่ป่วยอยู่ ให้ไปหาหมอ กินยา อย่าหยุดยาเอง และคนที่กำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นหรือเปล่า ตนแนะนำให้ไปหาหมอเช่นกัน เพราะถ้าหากไม่เป็นหมอเองก็ไม่มาล้อว่าเราคิดไปเอง และค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้แพงมาก ส่วนคนที่ต้องอยู่ร่วมกับคนที่เป็นโรคนั้น ก็ต้องปล่อยวางและใช้ชีวิตให้เป็นปกติบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นเราจะป่วยกันไปหมด