เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
วินาทีนี้คงไม่มีกระแสข่าวไหน ๆ ฮอตฮิตเกินไปกว่าเรื่องของดาราสาว แอนนี่ บรู๊ค และนักร้องหนุ่ม ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หลัง แอนนี่ บรู๊ค อุ้มลูกน้อยวัย 3 เดือนเศษ ออกมาเปิดตัวว่าเป็นลูกของ ฟิล์ม ซึ่ง ฟิล์ม เองก็กึ่งยอมรับกึ่งปฎิเสธ พร้อม ๆ กับต้องการให้ แอนนี่ บรู๊ค ตรวจดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันว่าเป็นลูกของตนหรือไม่ เพราะ เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ผู้บริหารต้นสังกัดของ ฟิล์ม ออกมาสกัดดาวรุ่ง ระงับผลงานของ ฟิล์ม ทั้งหมด เพื่อต้องการให้เคลียร์ตัวเอง
แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านั้น ตัวละครยังคงเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ล่าสุดเป็นนักแสดงหนุ่ม จุ๊น กิตติคุณ ที่โดนพ่วงว่าเป็นอีกหนึ่งหนุ่ม ที่หลายคนฟันธงว่าอาจเป็นพ่อของลูก แอนนี่ บรู๊ค พร้อม ๆ กับที่ เฮียฮ้อ ออกมาแถลงข่าวระบุว่าช่วงที่ผ่านมา แอนนี่ บรู๊ค ไม่ได้คบหาอยู่กับ ฟิล์ม เพียงแค่คนเดียว แต่คบหากับผู้ชายถึง 4 คน อีกทั้งยังประกาศกร้าวให้ แอนนี่ บรู๊ค ตรวจดีเอ็นเอ และออกมาเปิดเผยความจริงได้แล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 กันยายน) แอนนี่ บรู๊ค ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ แฉแต่เช้า ของคลื่น EFM ว่า ตนเองไม่ได้รู้จักกับ จุ๊น กิตติคุณ เป็นการส่วนตัว แต่เคยเห็น จุ๊น กิตติคุณ มานั่งเล่นที่บริษัทชลลัมพีครั้งหนึ่ง ยืนยันว่า ไม่เคยคบหากับ จุ๊น กิตติคุณ ส่วนเรื่องที่ว่า เธอคบผู้ชายหลายคนพร้อม ๆ กันนั้น แอนนี่ บรู๊ค กล่าวว่า เธอยอมรับว่า เป็นไปไม่ได้ที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ จะมาเป็นแฟนคนแรก แต่หากเธอจะคบใคร ก็ต้องเลิกกับคนเก่าก่อน จึงจะคบหาคนใหม่ได้
แอนนี่ บรู๊ค ยังกล่าวต่อถึงกรณีที่มีคนหาว่า เธอไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะเธอมีสติดีพอ และไม่มีคนท้องที่ไหนจะมีหน้าไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น และขอให้เลิกพูดเรื่องคนไหนเป็นพ่อของลูก เพราะเท่ากับหาแพะ พร้อมกับยืนยันว่า เธอไม่เคยเรียกเงินจากผู้ชายคนไหน และท้าให้ดูสมุดบัญชีธนาคารได้เลย หรือถ้าหากจะเธอจะเรียกเงินจากใครจริง เงินหลักแสนถือว่าตีค่าน้อยเกินไป สู้ขอเป็นหลักล้านจะดีกว่า
สุดท้าย แอนนี่ บรู๊ค ยังได้ขอให้ทุกฝ่ายสงสารลูกชายของเธอ และหยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะสิ่งที่ทำเท่ากับว่า เป็นการเหยียบย่ำลูกผู้หญิงคนหนึ่ง และเห็นเป็นเรื่องสนุกปากไปเสียมากกว่า พร้อมกับยืนยันว่า จะไม่ตรวจดีเอ็นเออย่างแน่นอน เพราะกลัวว่า หากตรวจแล้วพบว่าเป็นลูกของใครจริง จะถูกแย่งลูกไป ดังนั้นเธอจึงจะไม่เชื่อคำสัญญาของใครอีกแล้ว
แอนนี่ บรู๊ค เปิดใจ รายการตีสิบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อค่ำคืนวันที่ 28 กันยายน เสี่ยวีที-วิทวัส สุนทรวิเนตร์ แห่ง รายการตีสิบ ได้ฉกตัว แอนนี่ บรู๊ค มาเปิดใจถึงข่าวคราวต่าง ๆ พร้อมกับแนะนำอีกมุมหนึ่งของ แอนนี่ บรู๊ค ให้ประชาชนได้รู้จักเธอมากกว่าข่าว ซึ่ง แอนนี่ บรู๊ค ออกมาเปิดใจทั้งหมดว่า แอนนี่ บรู๊ค จะพูดแค่ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ถ้าต่อไปจะต้องเจอกันอีกอยากให้คุยแต่เรื่องของอนาคต ไม่ขอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยรู้จักและไม่เคยคุยกับใครเป็นการส่วนตัว คือเรามั่นใจว่าคบหาดูใจกับ ฟิล์ม แค่คนเดียว ส่วนคนที่ตกเป็นข่าวด้วยอย่าง จุ๊น กิตติคุณ ก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ยืนยันว่า ไม่เคยคบหากับ จุ๊น กิตติคุณ คือเรามั่นใจว่าคบหาดูใจกับ ฟิล์ม คนเดียว ไม่ได้สนิทกับอีก
แอนนี่ บรู๊ค ยังกล่าวอีกว่า เรื่องตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่าจะไม่ตรวจแน่นอน ณ วันนี้ไม่ต้องการใครมารับผิดชอบลูก ไม่ต้องการเงินทอง ไม่ต้องการใครมาเป็นพ่อ แอนนี่ สามารถเป็นพ่อและแม่ของลูกได้ จริง ๆ แล้วการตรวจมันผลข้างเคียงหลาย ๆ ประชาชนทุกคนอยากรู้เพื่อความสบายใจ ความสะใจ หรืออะไรก็ตามแต่ แต่ถ้าตรวจไปแล้วเค้ามีสิทธิในตัวลูกเราเต็มร้อย และทุกวันนี้ แอนนี่ ไม่ใช่คนรวย ไม่ได้มีเงินมากพอ ต้องทำมาหากินก็เลี้ยงตัวเอง คือ ถ้าเราไม่มีประสิทธิภาพพอ กลัวว่าตัวพ่อเค้าอาจมาแย่งลูกเราไปได้ และไม่รู้ว่าเค้าจะรักลูกเราพอหรือเปล่า ในใบเกิดไม่มีชื่อคุณพ่อ...ไม่มีใครมาเซ็น เราทิ้งว่างไว้ได้ว่าไม่ทราบนาม
อีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ตรวจเพราะไม่อยากให้ใครมาพรากลูกไป อุ้มท้องมา 9 เดือน เลี้ยงเอง ทำเองทุกอย่าง ถ้าวันหนึ่งมีใครมาพรากลูกไป คงหัวใจสลาย ทนไม่ได้ เพราะรักลูกมาก และใครอย่าสัญญาว่าจะไม่เอาลุกไป และหลายคนถามว่าทำไมถึงละเลยไม่ยอมป้องกัน อยากถามว่าเรารักใครสักคน รักมาจริง ๆ รักที่สุด ณ เวลานั้น ขอถามผู้หญิงทุกคน ถ้าเรารักใครสักคน และคนที่เรารักขอ เราจะไม่ให้เค้าเหรอ ซึ่งกำลังใจหรือคำสัญญาของ ฟิล์ม ให้ไว้ คือ อดทนนะ เพราะคุณคือลูกของแม่ผม ผู้หญิงคนไหนได้ยินคำนี้ถวายหัวเลยมั้ย หนูถวายหัวเลย เราไม่เคยคุยกันเรื่องแต่งงาน เพราะหนูไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้น ยังรักฟิล์มอยู่มั้ย ทั้งรักทั้งชัง แต่มันไม่ใช่ความแค้น
หลายคนมองว่า แอนนี่ ใจร้าย ที่ไม่ยอมตรวจดีเอ็นเอ เหมือน ๆ กับเป็นการทำร้าย ฟิล์ม แต่ แอนนี่ เชื่อว่าผู้ใหญ่ต้องให้โอกาสเขา และที่หลายคนกลับมองว่าที่ แอนนี่ ออกมาก็เท่ากับเป็นการทำร้ายเขาแล้ว เราก็ยอมรับในส่วนหนึ่งว่า ที่เราพูดมันคือความจริง ความจริงมันทำร้ายอยู่แล้วถ้าเราปฎิเสธหรือโกหก แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องการทำร้ายเขาเลย จริง ๆ แล้ว 1 ปีที่ผ่านมา น่าจะพิสูจน์อะไรได้ไม่มากก็น้อย ถ้าวันนี้เรื่องมันไม่เกิดขึ้น หนูก็ไม่รู้ว่าจะต้องปกปิดเรื่องนี้ไปอีกนานแค่ไหน ณ วันนี้ แอนนี่ ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเรื่องมันถึงยาวมาขนาดนี้ ก็อยากให้ทุกคนให้โอกาสทั้งเขาและเรา ก็อาจจะดูใจร้าย แต่ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้แล้ว เงินสามแสนกว่าเขาให้จริง แต่ แอนนี่ ทั้งเลี้ยงแม่ กินข้าว ผ่อนรถ แต่เราก็อยู่มาได้ถึง 1 ปี ใช้เงินเก็บของเราเอง
หลาย ๆ คนสงสัยว่าอะไรคือจุดที่แอนนี่ตัดสินใจออกมายอมรับว่าท้องกับเขา คือเมื่อก่อนเคยคิดว่าถ้าเรื่องแดงขึ้นมา เราจะบอกว่านาย ก นาย ข เป็นพ่อ แต่ไม่บอกว่าเป็นเค้า ก็เคยพูดกับเค้า คือช่วยปิดบัง แต่ถ้าพี่ ๆ สื่อมวลชนเกิดไปรู้อะไรขึ้นมา แล้วมาถามเรา แล้วความจริงมันก็กลับมาฆ่าเราสิ เราไม่ตายเหรอ เพราะแสดงว่าเราเป็นคนโกหก แบบนี้ใคร ๆ ก็ต้องบอกว่าเราโกหก โกหกทุกคน ที่สำคัญถ้าลูกโตขึ้นมาเค้าต้องรู้ว่าพ่อเป็นใคร ไม่จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันก็ตาม ถึงวันนี้เราไม่ตรวจดีเอ็นเอแต่เชื่อว่าบอกลูกได้ว่าพ่อเค้าเป็นใคร ณ วันนี้ไม่อยากให้ทุกคนไปบีบอะไรอีกแล้ว อย่าเพิ่ง ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งใจร้อน เดี๋ยวเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง การที่เราจะเย็นมันจะทำให้อาชีพของเค้าหยุดอยู่แค่นี้หรือเปล่า คืออยากบอกว่าเราตัดสินใจแล้ว
แอนนี่ บรู๊ค
ย้อนวันวานชีวิต แอนนี่ บรู๊ค
แอนนี่ เกิดที่กรุงเทพ ในครอบครัวที่ยากจน พ่อเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ คุณแม่ทำข้าวแกงขาย คุณพ่อชอบกับข้าวฝีมือคุณแม่ ติดใจมากินทุกวันจนปิ๊งกัน แต่ตั้งแต่เด็กพอถามแม่ว่าพ่อไปไหน แม่ก็บอกว่าตกเครื่องบินตายไปแล้ว คือคุณแม่ไม่บอกว่าเป็นใคร ชื่ออะไร จนเวลาผ่านไปอายุ 20 ปี ก็อยากจะรู้ว่าพ่อคือใคร ทำไมถึงทิ้งเราไป แม่เลยตัดสินใจเล่าความจริงให้ฟัง คือวันที่เราคลอดแม่ก็เอารูปไปให้ดู พ่อไม่รับเราว่าเป็นลูกเค้า บอกไม่ใช่ลูกเค้า อาจเพราะคุณแม่กับแอนนี่ จะไม่เหมือนกันเลย แอนนี่จะเหมือนคุณพ่อมาก เขาก็หนีไปเลย ไม่รับผิดชอบ คุณแม่โกรธคุณพ่อมาก วันที่คลอดคุณแม่ก็ไปคนเดียว ขึ้นแท็กซี่ไปตอนตีสามตีสี่ คลอดที่โรงพยาบาลคนเดียว อยู่คนเดียว เลี้ยงคนเดียว ตอนที่หนูบอกแม่ว่ามีน้อง แม่บอกว่า "ตายแล้วหรือว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย มันช่างเหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ"
สำหรับเส้นทางในการเข้าสู่วงการบันเทิงของ แอนนี่ คือไปเดินเล่นที่สยาม แล้วมีพี่เค้ามาชวนให้ไปเดินแบบ พอลองไปเทสเดินให้เขาดูก็ผ่าน แอนนี่ ก็ได้เดินแบบมาเรื่อย ๆ จากนั้นก็ถ่ายหนังสือ ถ่ายโฆษณา จนได้มีโอกาสแสดงเป็นนางเอกหนังเรื่อง "เชอร์รี่ แอน" ต่อมาก็ได้ออกอัลบั้ม แต่ก็ยังไม่ค่อยดังเท่าไหร่ คือเล่นหนังก็ยังเฉย ๆ ออกอัลบั้มแล้วก็ยังเฉย ๆ เลยตัดสินใจถ่ายเซ็กซี่ จริง ๆ แล้วอยากจะบอกว่ามันคืองาน เราไม่ใช่คนสวย ที่จะเลือกงานเองได้ ที่จะไปเป็นนางเอก ไม่มีผู้ใหญ่ที่จะผลักดันอยู่ข้างหลัง ก้าวเข้าวงการด้วยตัวของตัวเอง และการที่จะอยู่ในวงการได้เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเองไปมา เซ็กซี่บ้างอะไรบ้าง เพราะเราต้องทำมาหากินเลี้ยงแม่ เลี้ยวตัวเอง เราไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย มันคืองานที่เราทำเลี้ยงตัวเอง เราไม่ได้อยากจะเป็นอย่างนั้น ซึ่งพอได้ทำงานแนวตลก เราก็ทิ้งแนวเซ็กซี่ไปเลย อดีตคืออดีต เชื่อว่าทุกคนต้องผ่านชีวิตวัยรุ่น คงไม่มีใครที่เส้นทางชีวิตจะโรยด้วยกลีบกุหลาบที่สวยงาม ชีวิต แอนนี่ ก็เป็นแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุด แอนนี่ กล่าวว่า แอนนี่ ขอมาออกรายการตีสิบเป็นรายการสุดท้าย สำหรับการพูดคุยเรื่องนี้ ต่อจากนี้อยากพูดคุยเกี่ยวกับแม่และลูก เพราะไม่อยากจะพลาดพิงใครให้เสียหาย ต้องการเดินหน้าต่อไปกับลูก เพราะต้องเลี้ยงลูกแล้ว แม่ทุกคนหิวได้แต่ลูกต้องอิ่ม ตอนนี้พร้อมกลับไปทำงานแล้ว 1 ปีที่ผ่านมาไม่มีรายได้เลย ขอโอกาสให้ได้ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ใช้ชีวิตแบบชาวบ้านธรรมดา เพราะเราเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องหาเลี้ยงแม่และลูก
แอนนี่ บรู๊ค ยันไม่ตรวจ DNA ผ่านรายการ ตีสิบ
แอนนี่ บรู๊ค เปิดใจ ในรายการตี10 Part 1/4
แอนนี่ บรู๊ค เปิดใจ ในรายการตี10 Part 2/4
แอนนี่ บรู๊ค เปิดใจ ในรายการตี10 Part 3/4
แอนนี่ บรู๊ค เปิดใจ ในรายการตี10 Part 4/4