ศรราม น้ำเพชร เคลียร์ดราม่าแต่งตัวเป็นพระเล่นลิเก วอนดูกันที่เจตนาและเนื้อเรื่องที่มีมาตั้งนานแล้ว พร้อมลั่น อย่าดูถูกอาชีพลิเก
อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นดราม่าครั้งใหญ่สำหรับวงการลิเก เมื่อทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ได้โพสต์ภาพคณะลิเกชื่อดัง ศรราม น้ำเพชร ทำการแสดงลิเกด้วยการสวมจีวรพระ พร้อมกับระบุว่า "ระดมความเห็น ท่าน ๆ คิดอย่างไรกับการแสดงแบบนี้ โปรดแสดงความเห็นสุภาพ" ทำให้ด้านเจ้าของคณะลิเก อย่าง ศรราม น้ำเพชร ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษกลับถึงความเหมาะสม จากนั้นก็กลายเป็นประเด็นดราม่าทั้งสองฝ่ายในทันที
ความรู้สึกตอนนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง ?
แบงค์ : รู้สึกยังงง ๆ อยู่ครับ เพราะว่าตั้งแต่เล่นลิเกมา 14 ปี ไม่เคยเจอประเด็นแบบนี้เลย
ทำไมถึงแต่งเป็นพระสงฆ์ ?
แบงค์ : เพราะเรามีการแสดงแบบนี้มาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายแล้วครับ เราไม่ใช่เพิ่งจะมาแต่งเรื่องราวในตอนนี้ การแสดงแบบเดิมเป็นยังไง เราก็ยังแสดงแบบนั้น แต่แค่เราจะปรับเปลี่ยนให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้นครับ อะไรที่เป็นมุกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เราก็เอามาใส่เพิ่ม
พอมีกระแส โดนอะไรบ้าง ?
เบลล์ : มีทั้งแง่บวกแง่ลบครับ มันมีทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าเข้าใจก็ดี ไม่เข้าใจเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรเขาได้ แต่สิ่งที่ทำอยู่ก็เพื่อความบันเทิง เพื่อความสุขของท่านผู้ชมที่มาชมเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด
โชว์ที่มีประเด็นจริง ๆ คนดูดูแล้วไม่ถูกใจ ?
เบลล์ : ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า จริง ๆ แล้วเนี่ย จะมีทั้งคนรู้จักลิเกและคนที่ไม่รู้จัก ส่วนมากคนที่มาคอมเมนต์แรง ๆ แบงค์มั่นใจเลยว่า เป็นคนที่ไม่เคยดูลิเกมาก่อน พอเห็นพาดหัวข่าวว่าแต่งตัวพระแสดง แน่นอนว่าคนต้องตั้งแง่ลบไว้แล้ว และพอเข้าไปดูปุ๊บก็ลืมว่า เนื้อเรื่องที่เราแสดง เรากำลังสื่อถึงอะไร และคลิปนั้นเป็นเรื่องราวที่สื่อถึงพระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังช่วยสีกาคลอดลูก ถ้าตามหลักเหตุผลแล้ว สามัญสำนึกของคน ไม่ว่าจะเป็นพระหรือเป็นคน เราเห็นคนเดือดร้อนก็ต้องช่วย แล้วลิเกมีมาตั้งแต่โบราณแล้ว เนื้อเรื่องก็อิงตามโบราณอยู่ สมัยก่อนวัดเป็นทุกอย่างที่ใครเดือดร้อนก็ต้องมาขอความช่วยเหลือจากวัด อันนี้ก็เป็นตามเนื้อเรื่องที่เราแสดง พอทุกคนเห็นก็จะโฟกัสที่นักแสดงคนนี้จะจับสีกาเมื่อไหร่ แล้วก็มาแสดงความคิดเห็นค่อนข้างรุนแรง แต่อาจจะลืมไปว่าเนื้อเรื่องที่เราแสดงสื่อถึงอะไร
มีคนมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เหมาะสม แสดงแบบนี้ในวัด ?
แบงค์ : การแสดงของเราก็ยังอิงตามเหตุผลเหมือนกัน การที่พระสงฆ์รูปหนึ่งจะช่วยสีกาคนหนึ่งที่กำลังจะคลอดลูก ถ้าในปัจจุบันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่ผิด เพราะว่ามันเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แสดงมาตั้งนานแล้ว และก็เชื่อว่าท่านผู้ชมแยกแยะออกว่า อันนี้คือการแสดง อันนี้คืออะไร แล้วในบทจะมีฮา ๆ บ้าง เพราะพระสงฆ์รูปนี้จะมีคาแรคเตอร์ที่เรียกว่าตัวตลก เพราะฉะนั้นเราอยู่ในรูปพระสงฆ์ เราจะเล่นอะไรยังไงให้คนขำ เจตนาเราไม่ได้จะให้ทุกคนเชื่อในสิ่งที่เราแสดง เราต้องการให้ทุกคนมีความสุข สนุกกับสิ่งที่เราแสดงออกไปเท่านั้นเอง
ที่หน้าบอบช้ำเป็นเพราะอะไร?
แบงค์ : เป็นคาแรคเตอร์อย่างนี้อยู่แล้ว คือแล้วแต่เรื่องว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร แต่เรื่องนี้ เราจะสอดแทรกเข้าไปให้ความสุขกับคนดูนะครับ
แต่เรื่องมันเป็นประเด็นขึ้นมา หลังทนายสงกานต์ โพสต์ แล้วศรรามก็ตอบกลับไปเลย จำได้ไหมว่า เราแฮชแท็กว่ายังไง ?
แบงค์ : แฮชแท็กไปว่า ไม่อยากให้มาเสียเวลาตรงนี้ อยากให้ไปแก้ปัญหาตรงจุดอื่นดีกว่า เพราะว่าเราก็แสดงมาตั้งนานแล้ว
ที่บอกว่า อย่าดูถูกลิเก อันนี้ตอบกลับด้วยอารมณ์หรือเหตุผล ?
แบงค์ : ก็แบงค์เป็นสายเลือดลิเกเต็มตัวนะครับ ก็พูดในฐานะศิลปินคนหนึ่ง ที่มีลิเก และที่มีทุกวันนี้ได้ ครอบครัวสบาย ทีมงานทุกคนมีกินมีใช้ ก็เพราะลิเกนี่แหละครับ ถ้าใครมาว่าอาชีพของเรา แน่นอนว่า ไม่มีใครชอบหรอกครับ เราต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพของเรา แล้วเราจะประสบความสำเร็จ คือแน่นอนว่า เป็นการตั้งคำถามแล้วให้หลายคนมาแสดงความคิดเห็น บางคนที่ไม่รู้จักลิเกจริง ๆ เขาก็มาแสดงความคิดเห็นค่อนข้างรุนแรงต่อแบงค์นิดหนึ่ง เพราะแบงค์อยู่กับอาชีพนี้มา 14 ปีครับ รักอาชีพนี้ พอเห็นบางคำพูดก็ค่อนข้างรู้สึกเสียใจ เลยพูดไปว่า ขอร้องอย่ามาดูถูกอาชีพของเรา ก็คือลิเก อันนี้ก็คือพูดในมุมมองของเรานะครับ
แบงค์ : ยังครับ ถามว่าโกรธไหม ไม่ได้โกรธอะไรมากมายครับ แต่อาจจะเป็นเพราะว่า ต่างคนต่างความคิด ต่างมุมมอง ก็เลยอาจจะออกไปกันคนละทาง ไม่มีบรรจบกันสักที
จริงไหม คุณแม่อยากจะฟ้องทนายกลับด้วย จากประเด็นดราม่าที่มันเกิด ?
คุณแม่ดวงแก้ว : จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นการคุยกัน มันจะไปฟ้อง มันก็ไม่ใช่ จริง ๆ แล้วต้องกราบขอบคุณท่านทนาย เรามองไปว่าท่านเหมือนกระจก สะท้อนให้เราเห็นว่า ท่านให้คำแนะนำอะไรแปลกใหม่ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ บางทีมันอาจจะเป็นชั่ววูบ แต่จริง ๆ แล้ว ครอบครัวลิเกก็ไม่อยากทะเลาะกับใคร
คนที่น่าหนักใจกว่า ก็น่าจะเป็นน้องเบลล์ ที่ใส่จีวรพระ ที่โดนวิจารณ์อย่างหนัก ?
เบลล์ : ตอนนี้มึนคอมเมนต์อยู่เลยครับ คือผมรับหน้าที่ตลก แล้วสิ่งที่ทำตอนนี้คืออยากให้คนดูมีความสุขเท่านั้นเอง ในปีหนึ่งเราจะแสดงที่วัดเยอะมาก ประมาณ 95% ที่เราแสดงออกไปก็คืออยากให้คนดูรับชมและมีความสุข แล้วมันเป็นไปไม่ได้ว่า คนที่ดูจะเลียนแบบตามลิเก ขอถามหน่อยว่า เอาพระจริงมาเล่นลิเกได้มั้ย มันก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมรับหน้าที่นี้ ผมก็ต้องทำให้เต็มที่
คุณแม่ดวงแก้ว : ต้องกราบขอบพระคุณท่านทนายมากเลยนะคะ ที่ท่านอินกับเรามาก ๆ เลย ก็แสดงว่าเราทำให้ท่านมีความสุขกับเราได้ ที่ท่านมาคอมเมนต์อะไรเราถึงขนาดนี้ค่ะ จริง ๆ แล้วเราเป็นนักแสดง เห็นรอยยิ้มของคนดูเรามีความสุข ตอนนี้เยาวชนทั้งหลายก็หันมาดูลิเกกันมาก แฟนคลับมีทุกรุ่นเลย ท่านก็มีความสุขกับการดูลิเกของเรา เด็กก็เจริญรอยตาม แทนที่จะไปเสียเวลาเรื่องอื่น เขาก็มาอยากร้องตามศรราม อันนี้เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
มีคอมเมนต์บอกว่า พวกลิเกทำศาสนาเสื่อม รู้สึกยังไง ?
แบงค์ : ผมเชื่อว่าความศรัทธาของคนเรา คนเรามันจะเสื่อมศรัทธาได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการล้อเลียนหรืออะไรหลาย ๆ อย่าง แต่มันขึ้นอยู่กับการกระทำของคนมากกว่า สิ่งที่เรานำมาแสดง ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องสมมติขึ้นมา เราไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาศาสนามาล้อเลียน มาโน้มน้าวให้คุณมาเชื่อ เราก็เล่นตามบท คนดูก็ตลกหัวเราะ จริง ๆ มีคอมเมนต์แรงกว่านี้อีกครับ เป็นคำสั้น ๆ แต่จี๊ดมาก ด่าว่า ไอ้ลิเกชั่ว
เล่นลิเกมาก็ตั้งนาน มีบทพระมาก็ตั้งนาน จนมาปีนี้ เจอประเด็นหนัก มีคิดที่จะถอดบทพระออกไปบ้างไหม ?
คุณแม่ดวงแก้ว : ไม่มีนะ มันก็ต้องเล่นไปตามท้องเรื่องค่ะ แม่คิดว่ามันไม่ได้เสียหายอะไร ก็มีท่านคนเดียวที่มาจุดชนวนตรงนี้ขึ้นมา ก็ขอขอบพระคุณที่ท่านทำโอกาสให้เราได้ออกทีวี แต่ว่าอยากจะให้ท่านทำความเข้าใจนิดหนึ่ง แล้วคำว่า ไอ้พวกลิเก ถ้าใครโดนว่ามันก็จี๊ดด้วยกันทั้งนั้น แล้วอาชีพลิเก มันเป็นอาชีพที่สุจริตนะคะ เราไม่ได้ไปลักขโมยใครค่ะ
ติดตามรายการ "คุยเช้าShow" ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 7.00-8.00 น. ทางช่อง one 31 Facebook Page : คุยเช้าShow และรับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama