มหา\'ลัยชีวิต ตีแผ่ชีวิต จอห์น มกจ๊ก หลังสามีและลูกจากไป 10 กว่าปี เผยชีวิตคุ้มแล้วได้เจอสามีที่รัก ได้มีลูกสาวถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาแสนสั้น พร้อมเดินหน้าสู้ต่อจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว
จอห์น มกจ๊ก ตลกสาวร่างเล็กที่ในอดีตชีวิตของเธอจากคนที่เคยมีพร้อมทุกอย่าง และครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่ชีวิตต้องมาพลิกผัน เมื่อต้องมาเสียสามี โจ้ มกจ๊ก จากเหตุวัยรุ่นปาหินใส่รถตู้ และลูกสาวที่ถูกรถยนต์ขับทับเสียชีวิต จนไม่เป็นอันกินอันนอน แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ จอห์น ต้องฮึดต่อสู้และมีชีวิตต่อ
จอห์น ได้เล่าย้อนถึงอุบัติเหตุที่ทำให้ต้องสูญเสีย โจ้ มกจ๊ก สามีคู่ชีวิต ว่า 14 ปี ของการจากไป ในปี 2547 โจ้ประสบเหตุถูกคนใจชั่วปาหินใส่รถตู้ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในเวลากลางดึก โจ้นั่งหลังคนขับหินทะลุกระจกมาโดนที่หัวพอดี โจ้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลประมาณ 5 ทุ่ม ตอนนั้นตนไม่ทราบเรื่อง ยังนอนกอดลูก ตอนเช้าชาวคณะมาบอกข่าว ตนเป็นลมไปหลายรอบ ซึ่งในตอนนั้นลูกอายุไม่กี่เดือน หลังโจ้จากไปตนก็ต้องทำงานหาเงินเล่นตลก ซึ่งลูกสาว น้องเจนนี่ ทำงานแทนพ่อได้ เพราะคนเอ็นดูน้อง และสงสารเรา
หลังเหตุการณ์ผ่านไปประมาณ 2 ปี น้องเจนนี่ กลับต้องมาจากโลกนี้ไปด้วยอุบัติเหตุอีกคนในวัย 3 ขวบ 4 เดือน จากการถูกรถทับโดยเพื่อนบ้าน โดยน้องนั่งเล่นกองทรายบริเวณนั้นประจำ ในเวลานั้นจอห์นกำลังขายอาหารตามสั่ง เพื่อนบ้านได้ถอยรถกระบะมา มองไม่เห็นจึงทับน้อง หลังถูกทับน้องเรียกแม่ด้วยความเจ็บปวด 3 ครั้ง แม่ แม่ แม่ แล้วก็กระอักเลือด และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาเดียวกับโจ้ คือ ประมาณ 5 ทุ่ม
จากเหตุการณ์ที่พบเจอ ทำให้จอห์นเหมือนคนที่เสียหลัก เสียผู้เสียคนไป 2 ปีกว่า จากนั้นก็กลับมาตั้งหลักใหม่ โดยจอห์นเริ่มคิดว่าจะทำอะไรเลี้ยงชีวิต เพราะเหลือตัวคนเดียว พ่อกับแม่ก็เสียไปแล้ว มีพี่น้องแต่เขาก็เหมือนไม่ได้สนใจ และตนก็ไม่ได้หวังให้ใครมาดูแล โชคดีคนจัดงานแสดงสินค้าไม่ให้ตนเสียค่าเช่าที่ ทั้งนี้ จอห์นยอมรับว่าชีวิตลำบากแต่ก็ชินแล้ว ตอนนี้สุขภาพไม่ดี ผ่าตัดลำไส้ หัวเข่าก็เสื่อม หากผ่าตัดเข่าอีกก็จะเสียรายได้ พักฟื้นนาน ไม่มีคนดูแล ก็เลยต้องอดทน ถึงแม้จะมีผู้ใหญ่ในวงการเมตตา แต่ด้วยสุขภาพแล้วไม่สามารถรับงานได้ เพราะกลัวเป็นภาระคนอื่น
"เราถูกสร้างมาแบบนี้ เราก็คิดว่าอย่างน้อยเราก็ครบ 32 มีสติปัญญา เราแค่ไม่สูงเหมือนคนอื่น ๆ ในบ้าน เรายังได้เจอโจ้ ได้รัก ได้พลัดพราก และน้องเจนนี่เอง อย่างน้อยก็ได้พบกัน ได้มีกัน ถึงแม้มันจะเป็นช่วงเวลาที่แสนสั้น แต่มันคือความงดงามที่ลูกได้เกิดมาเจอแม่ และให้แม่ได้รักลูก แม่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มีโอกาส แต่เราก็ได้มีกันและกัน ส่วนวันข้างหน้า ก็ดูแลตัวเองไปจนกว่าจะไม่ไหว"
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก มหา\'ลัยชีวิต