
สาวเผยอุทาหรณ์ หวิดตาบอดหลังไปสักตาขาว หวังความสวยแต่กลายเป็นความสยอง เมื่อตาเกิดติดเชื้อ บวมถลนและเจ็บปวดทรมาน แถมยังตาพร่า หมอชี้การมองเห็นจะไม่สามารถกลับมาดีขึ้น
แคตต์ กอลลิงเกอร์ คือนางแบบสาวชาวแคนาดา วัย 24 ปี ผู้ชื่นชอบการสักเป็นชีวิตจิตใจ เธอมีรอยสักสวย ๆ เท่ ๆ หลายแห่งทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแขน หน้าอก หลัง ไหล่ และขา เมื่อราว 1 เดือนก่อน แคตต์ตัดสินใจสักเพิ่มอีกจุดหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากจุดอื่น ๆ นั่นคือ ตาขาว โดยเธอสักถมให้เป็นสีม่วงทั้งหมด แต่ทุกอย่างมันไม่เป็นไปด้วยดีอย่างที่เธอคิด ดวงตาเจ็บปวดทรมานอย่างมาก และมันบวมถลนออกมาอย่างน่าสยดสยอง และมันทำให้เธอแทบจะมองอะไรไม่เห็นอีกเลย

แคตต์ กอลลิงเกอร์ ก่อนการสักตาขาว ที่ทำให้เธอเกือบตาบอด
พื้นที่ดวงตาขาวที่ผ่านการสัก มันบวมและถลนออกมา มันเริ่มบวมขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นบวมปิด เปลือกตาปูดขึ้นมาขนาดเท่า ๆ ลูกมะนาว แคตต์ไปหาหมอมาหลายครั้ง และหยอดยาติดกันทุกวันเพื่อรักษา
"ฉันไปโรงพยาบาลมา 3 ครั้ง ฉันไม่มีสัตว์เลี้ยงอะไรที่มีขนซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ก่อนและหลังการสัมผัสตาของฉัน ฉันจะล้างมืออย่างสะอาดทุกครั้ง ฉันต้องหยอดยาฆ่าเชื้อติดต่อกันเป็นเวลาสัปดาห์ครึ่ง หลังจากนั้นก็ต้องหยอดยาสเตียรอยด์ ซึ่งต้องหยอดทุกวันเหมือนกัน มันช่วยลดอาการบวมข้างใน แต่เปลือกตามันบวมแบบนั้นอยู่นานเป็นสัปดาห์" แคตต์ เล่าถึงอาการของเธอ

หลังจากนั้น แคตต์กลับไปหาหมออีกครั้ง ครั้งนี้หมอเตรียมจะส่งเคสเธอไปให้กับจักษุแพทย์โดยตรง รวมทั้งศัลยแพทย์ด้วย เธอยังคงต้องหยอดยาต่อไป แต่ปัญหาก็คือ ยาที่เธอใช้มันไม่ช่วยลดอาการเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ตาขาวของเธอยังปลิ้นถลนเหมือนเดิม และในวันต่อมา ทุกอย่างแย่ลงไปอีก ตาของแคตต์ปวดและระคายเคืองมากกว่าเดิม และตอนนี้เธอเริ่มมีปัญหาเรื่องการมองเห็นแล้ว

ยาตัวใหม่ทำให้รูม่านตาของแคตต์ขยายเพิ่มมากขึ้น ทำให้มันไวต่อแสงมากกว่าเดิม และก็ยังมองไม่ชัดเหมือนเดิม แต่ข่าวดีก็คือ มีน้ำหมึกไหลออกมาจากตาและสีก็เริ่มซีดลงจากเดิม อาการบวมเริ่มลดลงแล้ว จึงมีวี่แววว่าอาการจะดีขึ้นในอนาคต
แคตต์เปิดเผยความรู้สึกลงบนเฟซบุ๊กว่า เธออยากให้กรณีของเธอเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลาย ๆ คนเพราะมันอาจจะเกิดปัญหาแบบเธอ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก และสำหรับตัวเธอเองนั้น เธอคิดว่าเครื่องมือของร้านไม่ได้มาตรฐาน หมึกไม่ได้คุณภาพ และเข็มที่ใช้ก็ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างดีพอ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และเธอก็ตั้งใจว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทางร้าน
"ความรู้สึกของฉันมันปนเปกันไปหมด ฉันเป็นทุกข์ ฉันรู้สึกแย่ และฉันก็กลัวด้วย แต่ฉันก็จะไม่ยอมแพ้และจะสู้ต่อไป ถ้าใครคิดอยากจะทำ ฉันอยากให้ศึกษาข้อมูลดี ๆ แต่ฉันไม่แนะนำให้ทำค่ะ อย่าทำผิดพลาดแบบฉันอีกเลย" แคตต์ กล่าว
