นาทีนี้เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักตลกสาวสุดสวยชั้นแนวหน้าของไทย อย่าง สาวเป๊กกี้ ศรีธัญญา ที่ตอนนี้ลักกี้อินเกมและลักกี้อินเลิฟมาก ๆ มีงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย และชีวิตส่วนตัวยังแฮปปี้อีกต่างหาก ล่าสุด (4 พฤศจิกายน 2560) สาวเป๊กกี้ได้ควง ฐากูร แฟนหนุ่ม มาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกร พร้อมทั้งเล่าชีวิตในวัยเด็กที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน เพราะไม่เคยรู้เลยว่า พ่อที่เลี้ยงเธอมานั้นไม่ใช่พ่อแท้ ๆ
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : 13 ปี
ตอนแรกเจอกันได้ยังไง ?
ฐากูร : คือผมไปรับแม่ เจอเขาอยู่กับแม่
แล้วไปทำอะไรกับแม่ ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : คือตอนนั้นเป๊กอยากทำธุรกิจบางอย่าง เลยมีโอกาสได้เจอคุณแม่ของคุณฐากูร ก็คุยเรื่องธุรกิจกันหลายต่อหลายครั้งแล้ว คุณแม่ฐากูรอายุเยอะกว่าเป๊ก เขาอายุ 67 แล้ว ก็มีเจอกันหลายครั้งอยู่แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาไปรับคุณแม่เขา เราไม่เห็นเขา แต่เขาอ่ะเห็นเรา
เห็นปุ๊ปแล้วชอบเลยไหม ?
ฐากูร : ชอบเลยครับ
ชอบอะไรในตัวเขา ?
ฐากูร : ผมไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไร แต่ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างที่ผมชอบอยู่ในใจ พอหลังจากนั้นปุ๊บกลับมาผมก็รีบเสิร์ชหาข้อมูลเลย ถามคุณแม่ก่อนว่าเขาชื่ออะไร ตอนนั้นเขายังไม่ใช้ชื่อ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เลย
ชื่อจริง ๆ คือ ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : ชื่อจริง ๆ คือ ดรุณี สุทธิพิทักษ์ ตอนนั้นทำงานอยู่ในวงการบันเทิงแล้ว แต่ว่ายังไม่มีชื่อเสียงมาก ยังไม่โด่งดังมาก ก็เล่นละครบ้าง ออกรายการบ้าง คนรู้จักยังไม่เยอะ
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : โชคดีมีโอกาสได้ไปออกรายการ กิ๊กดู๋ วันนั้นมีคนดูเยอะมากเขารอดู หญิงลี ศรีจุมพล เป๊กก็ได้ไปออก พอไปออกปุ๊บ พี่ตั๊ก ศิริพร เขาก็พูดขึ้นมาว่า หญิงลีเขาศรีจุมพล งั้นเป๊กกี้ ศรีธัญญา ก็แล้วกัน ก็เลยใช้ชื่อนี้ตั้งแต่นั้นมาเลย
ครั้งแรกที่เห็นแล้วรู้สึกประทับใจแล้วไปเสิร์ชกูเกิล คิดจะจีบเขาเลยหรอ ?
ฐากูร : คิดเลยครับ เริ่มจากแอดเฟซบุ๊กก่อนแล้วก็ทักเขาไปว่าวันนั้นผมที่ไปรับแม่นะครับ แล้วก็บอกเขาไปต่าง ๆ เขาก็ไม่ตอบอะไร เขาก็รู้สึกว่าผมเป็นคนแปลกหน้า ไม่ได้ตอบอะไร
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : คือตอนนั้นเราไม่รู้ว่าใคร ในการที่เล่นโซเชียลในยุคนั้น ใครก็ไม่รู้มาคุย เราก็ถามเขาไปว่า ใครค่ะ เราก็เลยรู้ว่า อ๋อลูกคุณน้อย ก็คุยกันมาเรื่อย ๆ ตอนนั้นเราก็ว่างอยู่สักพักหนึ่งแล้ว
ความรู้สึกที่ทำให้รู้ว่า เป็นคนที่ใช่ มันเริ่มตอนไหน ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : คือต้องบอกก่อนเลยว่า คุณฐากูรเขาเป็นคนดีจากเนื้อแท้จริง ๆ เขาจะเป็นหนุ่มหวาน ๆ เขาไปทานข้าวกับเรา เขาทานมังสวิรัติมาสิบกว่าปี แล้วเขาก็ไม่บอกเป๊กเลยว่าเขาทานมังสวิรัติ แล้วเป๊กก็ไปทานอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ทุกอย่าง ไปทานข้าวมันไก่เขาก็ทานแต่ข้าวเปล่า เราก็เลยเปลี่ยนไปทานข้าวขาหมูเขาก็ไม่ทานหมูอีก กว่าเขาจะบอกเรา เราไปทานข้าวกันหลายมื้อมากกว่าเป๊กจะรู้ว่าเขาทานมังสวิรัติ
หลายคนจะมองว่า เราจริงใจต่อกันรึเปล่า เพราะอายุห่างกันถึง 13 ปี ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : มีค่ะ คือตอนนั้นที่เขาจีบเราเป็นแฟน เราก็ยังไม่ได้บอกใคร แล้วยุคนั้นเมื่อ 5-6 ปีก่อน การที่ผู้หญิงจะมีแฟนเด็กกว่ามันเป็นที่จับตามองอยู่แล้ว ไม่ผู้ชายมาเกาะผู้หญิงก็กินเด็ก ดูไม่ดี แล้วมีวันหนึ่งเราไปทานข้าวกับเพื่อนกลุ่มใหญ่แล้วเรายังไม่ได้บอกเพื่อนว่าคนนี้คือใคร สถานะคืออะไร แต่เขาก็เดินออกไปจับไมค์แล้วพูดเลยว่าต่อจากนี้เขาจะขอจีบเราเป็นแฟนนะ แล้วเขาก็จะดูแลเราเป็นอย่างดี เพื่อนบางคนก็ยี้ เพื่อนบางคนก็มองว่ามันสวยงาม
จะแต่งงานกันมั้ย ?
ฐากูร : แต่งอยู่แล้วครับ คนนี้ ยังไงก็แต่ง
เราชอบผู้หญิงอายุเยอะอยู่แล้วหรือป่าว ?
ฐากูร : คือผมไม่ได้มีสเปคว่าผู้หญิงที่จะเข้ามาต้องมีอายุเยอะกว่าหรือน้อยกว่า แค่เป็นคนที่ผมชอบ คบกันแล้วก็คุยกันรู้เรื่องก็พอ
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : บางคนเขาอาจจะคิดว่าความรักของเรามันเป็นความรักที่ต่างขั้ว ผู้ชายจะคิดอะไรไม่ดีกับผู้หญิงหรือผู้หญิงคิดจะหลอกกินเด็กหรือเปล่า แต่เป๊กก็ฝ่าฟันและคบกันมาแล้วก็พิสูจน์ด้วยกันทั้งสองคนว่าความรักของเราช่างดีและสวยงามมาก เป๊กอยู่ด้วยกันวันนึง 24 ชม ทุก ๆ วันเกือบ 5 ปีแล้ว การทะเลาะของเราน้อยมาก เราใช้วิธีการเข้าใจและอดทน เป๊กทะเลาะกับฐากูรเรื่องใหญ่ ๆ ไม่ถึง 3 ครั้งเลย
เห็นว่าสมัยนั้นสู้ชีวิตมากจริงหรอ ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : สู้ค่ะ คือเป๊กโตมากับคุณแม่แล้วก็ไม่รู้ว่าพ่อจริง ๆ คือใคร แล้วก็มีพ่อเลี้ยงอยู่คนหนึ่ง เดิมทีเราก็นึกว่าคนนี้คือพ่อของเราจริง ๆ แล้วก็มีคุณป้าข้างบ้านหวังดี ระหว่างที่เราวิ่งเล่นอยู่ก็มากระซิบบอกเราว่าคนนี้ไม่ใช่พ่อนะ เป๊กก็ร้องไห้แล้ววิ่งกลับไปหาแม่ เรากลับไปถามแม่ว่าคนนี้ไม่ใช่พ่อจริง ๆ หรอ เป๊กถึงไม่เคยเอ่ยกับรายการไหนเลย เป๊กจะบอกว่า เป๊กโตมากับคุณแม่ไม่เคยรู้จักคุณพ่อเลย ซึ่งเป๊กก็ไม่รู้จักจริง ๆ แต่ก็ไม่เคยเอ่ยถึงพ่อเลี้ยงเพราะเราไม่อยากเอาเรื่องจริงนี้มาคุย เพราะมันเป็นเรื่องสะเทือนใจเรา
แล้วทุกวันนี้ยังได้เจอหน้าพ่อเลี้ยงหรือได้รู้จริง ๆ รึยังว่าพ่อแท้ ๆ เราเป็นใคร ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : เป๊กไม่ได้เจตนาจะตามหาพ่อแท้ ๆ เพราะเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว แต่พ่อเลี้ยงของเป๊กดีมาก ระหว่างที่ท่านเลี้ยงเป๊กมา ท่านดูแลเราเป็นอย่างดี จนเรารู้ว่าเขาไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของเรา เราเลยรู้สึกเป็นอื่น แม่เราก็เลยจัดการหาบ้านให้เราอยู่อีกหลังหนึ่งกับพี่เลี้ยง เราก็โตมาแบบนั้น แต่บ้านก็อยู่ติด ๆ กัน จนอยู่มาวันหนึ่งคุณแม่เสียชีวิต เราก็ยิ่งเฮิร์ทหนักคิดว่าเขาดูแลแม่เราไม่ดี หลังจากนั้นเป๊กก็โทษพ่อเลี้ยง หลังจากเสร็จงานศพเป๊กเก็บของเท่าที่เก็บได้แล้วก็ออกไปอยู่บ้านเพื่อนโดยที่ไม่เอาแม้แต่เงินออกมาเลย
แล้วพ่อเลี้ยงเขาไม่มาตามหรอ ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : จริง ๆ บ้านก็ไม่ได้ไกลจากบ้านเดิมมากนะ แต่เป๊กคือไม่พูดด้วยเลยคือโกรธ คิดว่าเขาดูแลแม่ของเราไม่ดี แต่เนื่องด้วยความโง่เขลาของเราตอนนั้น เราเลยคิดแบบนั้น
ทุกวันนี้ได้เจอพ่อเลี้ยงอีกไหม ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : เป๊กย้ายมาอยู่กับคุณลุงที่ชลบุรีได้ 7-8 ปี เป๊กก็กลับไปหาเขาที่บ้าน เพราะได้ข่าวว่าดื่มหนัก ด้วยความที่เราคิดได้แล้ว เราก็เลยกลับไปบอกเขาว่า พ่อเพลา ๆ ดื่มหน่อยนะ เผื่อว่าวันหนึ่งเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก ท่านร้องไห้นะคะ หลังจากนั้นมาไม่นานท่านก็เสียชีวิตลง วันเดียวกับที่แม่เราเสียชีวิต
ตอนที่กลับไปหาคุณพ่อมีการขอขมาเป็นเรื่องเป็นราว ?
เป๊กกี้ ศรีธัญญา : เป๊กก็กราบขอขมา ขออภัยด้วย ว่าตอนนั้นเป๊กยังเป็นเด็ก เป๊กยังโง่เขลา เป๊กอาจจะเฮิร์ทในเรื่องของแม่ ทำให้แบบพูดจารุนแรงไป ท่านก็ร้องไห้ เป๊กก็ร้องไห้
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow และรับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama






