เล็ก คาราบาว สุดทน โพสต์เฟซบุ๊กแฉยับ ฉะพฤติกรรมของเพื่อนร่วมวง อายุปูนนี้แล้วยังทำไปได้ มาแบบจัดหนัก จัดเต็ม อ่านแล้วมีช็อก
ทำเอาแฟน ๆ หลายคนออกอาการงงไปตาม ๆ กัน กับภาพของเหลวปริศนาสีออกเขียว ๆ ที่ศิลปินเพื่อชีวิตชื่อดัง เล็ก คาราบาว โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Lek Carabao Solo ให้แฟน ๆ ได้ชม พร้อมทิ้งปริศนาไว้ว่า "ท่านเห็นภาพนี้แล้วคิดว่ามันคืออะไร ? เกิดอะไร ? ทำไม ? อย่างไร ? พรุ่งนี้ห้าโมงเย็น มาฟังเล็ก คาราบาว พูดถึงคุณธรรมและความเมตตาที่คนอายุอย่างพวกเราควรมี"
ก่อนที่ล่าสุด (23 มกราคม 2561) เล็ก คาราบาว จะได้เฉลยถึงที่มาของภาพดังกล่าวว่า เป็นน้ำจิ้มซีฟู้ด ที่นักดนตรีคนหนึ่งในวงจงใจเทราดใส่มอนิเตอร์ระหว่างการแสดง เพราะโกรธที่ซาวด์เอ็นจิเนียร์ปรับเสียงให้ไม่ได้อย่างใจ... พร้อมตั้งคำถามว่า "อายุปูนนี้แล้วทำไปได้อย่างไร"
นอกจากนี้ เล็ก คาราบาว ยังได้โพสต์เล่าถึงพฤติกรรมของสมาชิกในวงคนดังกล่าวแบบจัดหนัก จัดเต็ม ชนิดเป็นมหากาพย์ชุดใหญ่ ดังนี้...
"จะให้เรียกว่าอะไร ?
เมื่อวานลงภาพปริศนาให้ท่านชม มีหลายท่านแสดงความคิดเห็นกันเข้ามา บางท่านพูดเรื่องความเมตตาและการให้อภัยซะยาวเหยียด และผมคิดว่ามีอีกมากมายที่สงสัยแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกมาได้แต่เก็บไว้ในใจรออ่านวันนี้
ภายใต้บุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี แถมเพลงที่ต้องร้องในแต่ละคืนก็มีอยู่แค่เพลงเดียวมาร่วมสามสิบปี แต่เนื่องจากเป็นเพลงที่มีเนื้อหาตลกน่ารัก ๆ จึงมีคนไม่น้อยที่เข้าใจอะไรแบบลวง ๆ ผิด ๆ จากสิ่งที่เป็น
แต่เดี๋ยวนี้ใครทำอะไรแย่ ๆ ไว้ ก็พึงระวังไว้ให้ดี ทุกวันนี้มีใครไม่มีกล้องบ้างล่ะ ผมจึงเชื่อว่าต้องมีวิดีโอคลิปเหตุการณ์นี้แน่ ๆ เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นบนเวทีขณะแสดง มันจึงเป็นจุดที่กล้องมากมายล้วนถ่ายกันขึ้นมา แน่นอนว่าต้องมีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอครับ
เมื่อวาน ผมถามว่า
มันคืออะไร ? "มันคือน้ำจิ้มซีฟู้ด หนึ่งชามใหญ่ที่พ่อครัวเค้าปรุงไว้เสิร์ฟลูกค้า" นั่นหมายความว่า ค่ำคืนนั้นไม่มีน้ำจิ้มจะเสิร์ฟ
เกิดอะไร ? "มีนักดนตรีในวงจงใจเทราดใส่มอนิเตอร์"
ทำไม ? "โกรธที่ซาวด์เอ็นจิเนียร์ปรับเสียงให้ไม่ได้อย่างใจ"
อย่างไร ? อันนี้ต้องบอกว่า "อายุปูนนี้แล้วทำไปได้อย่างไร"
เพราะคนอายุแบบพวกเราต้องไม่ใช่แบบนี้ นั่นมันทำให้ต้องล้วงให้ลึกไปกว่าเหตุการณ์นี้ ซึ่งก็ไม่ยากเลยเพราะยังไม่ทันล้วงก็โผล่มาให้เห็นเพียบ
สองสามวันก่อน คนคนเดียวกันนี้ก็เพิ่งเอาไมค์ขว้างใส่ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ด้วยเหตุผลเดียวกันนี่แหละ เฮ้อออออออ ! ซึ่งไมค์ที่ว่านี้ทำมาจากโลหะหนัก จึงเหมือนขว้างด้วยท่อนเหล็ก "นี่น้องเค้าเป็นพนักงานที่วงจ้างมานะ ไม่ใช่ข้าทาส เข้าใจไรผิดหรือป่าววววววว !"
ไหนล่ะ ความเมตตา ไหนล่ะการให้อภัยที่ผู้คนอยากเห็น ซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่ว่านี่น่ะ คนรุ่นลูกรุ่นหลานพวกเราเลยล่ะ อีกอย่าง น้องเค้าเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกมากมาย แต่ผมเชื่อว่าอีกไม่นานเค้าต้องทำได้ ขอเพียงให้โอกาสเค้า และที่สำคัญ ผู้ใหญ่ควรมี "เมตตา"
ก็แปลกนะ ผู้ใหญ่ที่ว่า กลับเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีค่าใด ๆ ในสายตาผมเลย เพราะนอกจากจะไม่เคยสร้างอะไรดี ๆ ให้กับวงแล้ว ยังทำแต่เรื่อง "บัดซบ" แถมมาอยู่กับวงคาราบาวก็เพราะเห็นว่าวงดังแล้วจึงมา และทีแรกก็จะมาเพื่อทำหน้าที่แบบน้องที่เค้าขว้างไมค์ใส่ด้วยซ้ำไป (ถ้าท่านเคยอ่านประวัติเพลงจะพอทราบเรื่องราวอยู่บ้าง)
ที่จริงไม่อยากใช้คำรุนแรงแบบข้างบนนี้เลย แต่เดี๋ยวท่านลองฟังเรื่องที่คนคนนี้ทำเอาไว้แล้วท่านว่าควรใช้คำไหนแทนได้ล่ะ
ครั้งหนึ่งขณะผมกำลังร้องเพลงหลวงตา เสียงดนตรีหายไปพาร์ทหนึ่ง แต่กลับมีเสียงทุบโต๊ะโครมครามหลังเวทีแทน
ทะเลาะกับเมียทางโทรศัพท์น่ะ แต่มาระบายอารมณ์กับโต๊ะหลังเวทีขณะวงกำลังแสดง คนคนเดียวกันกับคนที่ขว้างไมค์นี่แหละ เรื่องทะเลาะกับเมียมันก็เรื่องส่วนตัวของเค้า แต่อย่าเสียงานดิ และอย่าทำร้ายวงด้วยการกระทำเยี่ยงนี้สิ
จะเห็นแก่การกินฟรี จะตะกละตะกลามขนาดไหนก็เป็นเรื่องส่วนตัวอีกเช่นกัน แต่ถ้าเมาซะจนเล่นไม่ได้ต้องมานอนสลบบนโต๊ะในร้านที่แสดงขณะเพื่อน ๆ เค้าทำงานกัน อีกทั้งต้องให้คนอื่นทำหน้าที่ของตัวเองแทน จะให้เรียกว่าอย่างไรได้ล่ะ ช่วยหาคำที่เหมาะสมให้ผมหน่อยดิ อยากฟัง
ผมเชื่อว่าคนคนนี้ไม่มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีดั่งคนปรกติ เพราะตั้งแต่ผมเห็นมา ไม่เคยเห็นคนคนนี้เสียใจหรือสำนึกผิดใด ๆ หลังจากที่ทำเรื่องแย่ ๆ เลย ยังคงทำเนียน ๆ เหมือนดั่งไม่เคยมีใด ๆ เกิดขึ้นทั้งนั้น
มีสิ่งแย่ ๆ มากมายที่คนคนนี้สร้างไว้ แต่ผมเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวจึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวไม่อยากเล่า แต่ถ้ากระเทือนหรือเกี่ยวกับวงและจะทำให้วงเสื่อมเสียคงทนต่อไปไม่ไหว
ทุกครั้งที่ผมจะเขียนเรื่องแนว ๆ นี้ ภรรยาผมจะห้ามทุกครั้งไป แต่ครั้งนี้เธอกลับไม่ห้าม อันที่จริงเธอเป็นคนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ให้ผมทราบด้วยซ้ำไป เพราะผู้จัดการวงส่งทั้งรูปและเรื่องราวมาให้เธอ ซึ่งผู้จัดการวงแกให้ความเห็นแบบขำ ๆ ตามนิสัยของแกว่า "เพลงที่พี่แกร้องอยู่เพลงเดียวน่ะ ไม่เห็นต้องฟังมอนิต้งมอนิเตอร์เลย มันเป็นเพลงขำ ๆ ยิ่งเพี้ยนยิ่งมันด้วยซ้ำไป"
ผมเข้าใจทั้งผู้จัดการวงและภรรยานะ โดยเฉพาะภรรยาเธอสงสารน้องคนนี้น่ะ เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมพาเธอไปทุกที่ด้วย ทำให้เธอได้เห็นพฤติกรรมของทุก ๆ คน ไม่เพียงนักดนตรี แต่พนักงานทุกคนด้วย เธอเห็นใจน้องคนนี้น่ะครับ
ในสายตาของคนที่ไม่ใช่นักดนตรีอย่างภรรยาผมมองว่า หน้าที่ซาวด์เอ็นจิเนียร์บนเวทีหรือที่นักดนตรีเรียกหน้าที่นี้ว่า "มิกซ์มอนิเตอร์" นั้น เป็นหน้าที่ที่อาภัพและน่าเห็นใจมาก ๆ ใคร ๆ มาทำก็อยู่ได้ไม่นาน และไม่ค่อยมีใครอยากทำ
ตั้งแต่เกิดมาท่านเคยใช้เท้าเตะสำรับกับข้าวของน้อง ๆ ซะกระจายบ้างไหม คนคนนี้ทำมาแล้ว เพราะโกรธที่จะชิมอาหารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะแต่ไม่มีช้อน เฮ้ออออออออ !
พนักงานเค้ากำลังเสิร์ฟอยู่ ตัวเองก็เล่นดนตรีอยู่บนเวทีแต่กลับทิ้งหน้าที่ลงมาทำเรื่องแบบนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่อาหารที่ว่านี้ตัวเองก็ไม่ได้สั่งหรือเป็นของตัวเองทั้งนั้น น้อง ๆ เค้าสั่งไว้และจะรีบ ๆ กินตอนลูกพี่ทำงานนี่แหละ นี่ใช้อะไรคิดน่ะ และจะให้เรียกว่าอย่างไร
หลายปีมานี้ เวลาวงทำอัลบั้มใหม่ คนคนนี้ไม่เคยทำกับเค้าได้เลย เราต้องจ้างคนจากนอกวงมาทำหน้าที่แทนเค้าทุกครั้งไป นี่คงจะยืนยันให้เห็นถึงความสามารถทางดนตรีของเค้าที่มีให้กับวงแล้วล่ะ
ยังมีเรื่องแย่ ๆ อีกมากมายที่คนคนนี้สร้างไว้ และมีเรื่องดี ๆ อีกมากมายที่คนคนนี้ไม่ได้ร่วมทำไว้ แต่วันนี้ก็ยาวมากแล้ว จึงแค่อยากทิ้งท้ายว่า ควรเรียกสิ่งที่คนคนนี้ทำว่าอย่างไรดี สวัสดีครับ"
ข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ก Lek Carabao Solo, Carabao Official